ReadyPlanet.com


ถูกทำร้ายร่างกาย


เรียน คุณทนาย

ดิฉันชื่อ นิลเนตร ตอนนี้ทำงานอยู่ที่เกาะลันตา จ. กระบี่ กับแฟนเป็นชาวต่างชาติ (มีใบอนุญาตทำงาน) เรื่องเกิดเมื่อวันที่ 19 เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แฟนไปเที่ยวผับแห่งหนึ้งบนเกาะลันตา พร้อมน้องสาวของเขา และเพื่อนชาวต่างชาติอีกสองคน แล้วประมาณตีสามแฟนถูกทำร้ายร่างกายจนปากฉัก (เย็บ 5 เข็ม) และฟันบิ่นและโยกคลอน
ตำรวจไม่ได้ดำเนินการช่วยเหลือ (ไม่มีคนรับโทรศัพท์ และไปหาตำรวจที่โรงพักประมาณตีสี่ แต่พบร้อยเวรเพิ่งตื่นนอนตอน ตีห้ายี่สิบ)

ผู้ทำร้ายร่างกายได้ขอเจรจา เนื่องจากไม่มีการทะเลาะวิวาทและไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ค่าเสียหายทั้งหมดตอนนี้ไม่รวมค่าทำขวัญ คิดรวมเป็นเงิน 32950 บาท (ค่าทำฟันใหม่แพงมากทั้งหมดนี้เป็นราคาตามบิล) แต่ผู้ทำร้ายจ่ายได้แค่ 6000 บาท

พรุ่งนี้ตำรวจนัดเจรจาอีกครั้ง ทางแฟนได้ติดต่อทนายความที่ภูเก็ตไป (แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อมา)

จริงๆ ดิฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดได้ไหม เพราะทางผู้ทำร้ายอ้างว่าทำไปเพื่อปกป้องตัวเองเพราะแฟนของดิฉันเหมือนจะ ทำร้ายเขา แต่เขาไม่เป็นอะไรเลย และหนีไปทันทีที่เกิดเรื่อง)

ดิฉันจะทำยังไงเพื่อให้ผู้เสียหายรับผิดชอบทั้งหมด ถ้าไม่ยอมและ (อาจจะ) ได้รับการปกป้องจากตำรวจ (เขาเป็นคนเกาะ) ดิฉันจะเอาเรื่องตำรวจด้วยได้ไหม

ตอนนี้หนักใจมากเพราะยังต้องทำงานอยู่ที่นี้ และไม่อยากมีเรื่องกับเจ้าของที่ แต่ก็ไม่อยากให้เรื่องจบไปโดยไม่ทำอะไรเลย


ด้วยความเคารพอย่างสูง
นิลเนตร



ผู้ตั้งกระทู้ นิลเนตร :: วันที่ลงประกาศ 2009-08-23 14:54:16 IP : 118.173.60.106


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3042811)

-เป็นการทำร้ายร่างกาย   ตามกฎหมายยังไม่ถือว่าสาหัส    มีโทษจำคุกไม่เกิน สองปี  ปรับไม่เกินสี่พันบาท  (ปอ.ม.295)   ถ้าว่ากันตามกฎหมาย   ก็ต้องมีการส่งฟ้องศาล เพราะเป็นคดียอมความไม่ได้     ฝ่ายผู้เสียหายก็สามารถเรียกค่ารักษาพยาบาล   ค่าสินไหมที่ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ  ไปพร้อมคำฟ้องของอัยการได้............แต่ในทางปฏิบัติแม้ยอมความไม่ได้    ตำรวจก็มักให้คู่กรณีไกล่เกลี่ยประนีประนอมกัน  เพื่อให้เรื่องยุติที่โรงพัก   เรื่องค่าเสียหายตำรวจมักให้ตกลงกันเอง   ส่วนใหญ่คดีแบบนี้มักยุติที่โรงพักเสมอ.......ไม่อยากแนะนำให้คุณดึงดันจะนำเรื่องไปสู่ศาล    เพราะแม้ตามที่คุณเล่ามาเป็นความจริง    แต่ถ้ามีการฟ้องร้องในศาล    จำเลยก็คงต่อสู้ว่าทำไปเพื่อป้องกันตัวแน่นอน    ศาลก็ต้องรับฟ้งพยานเป็นหลัก    บางทีศาลก็มิอาจหยั่งรูได้ว่า    พยานที่นำมาเบิกความจริงหรือเท็จ   บางทีคนผิดอาจลอยนวลไปได้    แถมยังเพิ่มศัตรูอีกมากมาย    โดยเฉพาะอยู่บนเกาะ  ในถิ่นของเขา    อาจลำบากในการทำมาหากินยิ่งขึ้น......เมื่อเจรจาตกลงค่าเสียหาย  ก็ควรใช้หลักถ้อยทีถ้อยอาศัย   แม้ไม่คุ้มค่าเจ็บ   แต่น่าจะยุติปัญหาได้ด้วยดีกว่าครับ.....

-ที่แนะนำ  ไม่ใช่ให้คุณยอมก้มหัวให้แก่คนเถื่อน  หรือคนร้าย    แต่คดีนี้แม้ขึ้นศาล   โอกาสที่คนร้ายจะถูกจำคุกแทบเป็นไปไม่ได้   เพราะมีเงื่อนไขหรือองค์ประกอบมากมายที่ทำให้เขา   อาจได้รับโทษเพียงรอการลงโทษ  ........แต่อย่างไรก็ตามก็อยู่ที่คุณจะตัดสินเอาเองว่าจะดำเนินการอย่างไร    คำแนะนำนี้เป็นเพียงมุมมองด้านหนึ่งเท่านั้นครับ......และการมีเรื่องกับตำรวจ  ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง  ก็อย่าไปตอแยเลย  เพราะคงไม่คุ้มค่าครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-08-23 15:51:17 IP : 113.53.102.23


ความคิดเห็นที่ 2 (3042819)

ขอบคุณค่ะ

นั่นคือสิ่งที่ดิฉันคิดไว้แต่แรก เพราะจริงๆ ก็ไม่อยากให้มีเรื่องเพราะยังต้องทำงานที่ดีอีก แต่ตอนนี้แฟนเค้าไม่หยุดแล้ว ตอนนี้เขาได้ติดต่อทนายความ และไม่ยอมหยุดเรื่องนี้ง่าย ๆ

เพราะเค้าบอกว่ารับไม่ได้ที่คนคนหนึ่งทำร้ายแล้วไม่แม้กระทั่งจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล (ตามใบเสร็จ)

พรุ่งนี้จะไปพบคนทำร้ายพร้อมกับตำรวจอีกครั้ง (จริงๆ แล้วผับก็เป็นของตำรวจ แล้วโดนสั่งปิดมาหลายครั้งแล้ว)

หวังว่าจะได้รับคำตอบที่เป็นธรรมที่สุด

ต้องขอขอบพระคุณอีกครั้ง     

 

 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น นิลเนตร วันที่ตอบ 2009-08-23 16:46:51 IP : 118.173.60.106


ความคิดเห็นที่ 3 (3042934)

-ในเมื่อแฟนของคุณ   จะดำเนินการต้อไป   ก็สามารถทำได้    เพราะกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้อยู่แล้ว    ที่ผมแนะนำครั้งก่อน  เพราะเห็นว่าน่าจะไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปเท่านั้น    ถ้าคิดจะดำเนินคดีตำรวจก็คงไม่กล้าปิดคดี   ต่อไปก็เป็นเรื่องของศาลที่จะพิจารณา   แต่การที่จะได้รับชดเชยหรือได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง    คงเป็นไปได้ยากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-08-24 08:07:10 IP : 125.26.107.57


ความคิดเห็นที่ 4 (3043224)

ผมขอแสดงความคิดเห็น ดังนี้นะครับ ถ้าจำเลยจะอ้างเรื่องการป้องกันตัวจริง ๆ มันก็ต้องพิสูจน์ก่อนล่ะครับว่าเป็นการกระทำที่ป้องกันตัวจริง ๆ หรือไม่ ใช่ว่าจะอ้างได้ส่งเดชนะครับ คดี อาญา นั้นมันต้องสนใจทุกรายละเอียดและวินิจฉัยอย่างลึกซึ้งจะมองแค่เผิน ๆ จะฟันธงเลยคงยากครับ ซึ่งการกระทำไปเพื่อป้องกันสิทธิ (ป.อ.ม.68) นั้นมันมีองค์ประกอบหลายอย่างมากครับ เช่น เป็น ภยันตรายที่ใกล้จะถึงหรือไม่ สามารถหลีกเลี่ยงได้หรือไม่ หรือกระทำไปเกินกว่าเหตุหรือไม่ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วจะต้องนำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ฉนั้นจากข้อเท็จจริงที่คุณให้มามันไม่ละเอียดพอที่จะไปชี้ชัดหรือฟังธงได้อ่ะครับว่าใครผิดหรือถูก แต่ถ้านำคดีขึ้นสู่ศาลจริงเรื่องเล็ก ๆ พวกนี้จะต้องมีการนำสืบหรือวินิจฉัยอย่างละเอียดครับ  ฉนั้นจากข้อเท็จจริงที่คุณให้มาเท่านี้จึงไม่สามารถบอกได้ครับว่า จำเลย ผิดหรือถูกครับ หรือคุณจะได้รับความเป็นธรรมอย่างไร แต่ในความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าถ้าคุณคิดว่าสามีถูกจริง ๆ และเป็นฝ่ายเสียหายก็ชอบที่จะเรียกร้องความยุติธรรมนี้ได้อย่างเต็มที่ครับ (ถ้าไม่กลัวเรื่องเสียเวลาและเงิน) ครับ

ปล...แต่ถ้าสามารถเจรจาตกลงกันให้จบด้วยชั้นไกล่เกลี่ยได้ก็จะดีไม่น้อยเลยครับเพราะจะได้ไม่เสียเวลา แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทนายของคุณว่าจะสามารถชี้ชัดถึงความผิดในตัวจำเลยได้หรือไม่ ถ้าจำเลยผิดจริงผมว่าทางเขาน่าจะยอมเจารจาด้วยดีได้ครับ ขอให้โชคดีนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2009-08-25 01:30:03 IP : 58.9.105.82


ความคิดเห็นที่ 5 (4315872)

 ข้อสอบถามหน่อยครับ

ถ้าผู้หญิงถูกผู้ชายทำร้ายร่างกาย โดยมีหลักฐานข่มขู่ก่อนหน้า  และวันเกิดเหตุเราไม่ได้ต่อสู้ผู้ชายเลย เป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเดียว  เลือดกำดาว    ปากแตก ร่างกายฟกช้ำปูดบวม เราเอาผิดกฎหมายข้อไหนได้บางครับา

ผู้แสดงความคิดเห็น จิราพร วันที่ตอบ 2019-06-30 01:40:46 IP : 184.22.13.152


ความคิดเห็นที่ 6 (4357384)

 สวัสดีค่ะ 

มีคำถามว่าแฟนพาเพื่อนไปทำร้ายร่างกายลูกหนี้แล้วทำให้นิ้วกลางกับนิ้วนางหักหรือกระดูกราวฝ่ายลูกหนื้เรียกร้องร้องนิ้วละ50,000บาททาวเรายอมรับว่ากระทำจริงแต่เรียกร้องมาเยอะมาก เราไม่มีเงินให้มากขนาดนั้น มีทางออกที่ดีไมค่ะหรือว่าลูกหนี้เรียกร้องมากไปไหมค่ะ แนะนำให้ทีค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนาวดี วันที่ตอบ 2020-01-28 12:22:48 IP : 124.120.181.185



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.