ReadyPlanet.com


ช่วยตอบทีนะคะ


ดิฉันรู้จักกับน้องคนหนึ่งน้องเค้าเรียนที่เชียงใหม่ (ในตอนน้องเค้าเรียนอยู่ ม.6)  ดิฉันกับแฟนดิฉันไปเที่ยวกัน แร้วได้รู้จักกันผ่านเพื่อนอีกคนหนึ่ง เรื่มที่น้องเค้าขอยืมเงินไปจ่ายค่าไฟ้ และนำแต่นั้นมาน้องเค้าก็จะโทรมายืมเงินแฟนดิฉันบ่อยและทุกครั้งก้อให้แม่ของน้องเค้ามารับประกันให้ทุกครั้งเลยว่าแร้วจะคืนให้  เวลาที่โอนตั้งไปให้บางครั้งก็ 500 ,1000 2000 โดยบางครั้งก้อจะโทรมาบอกจะไปจ่ายค่าเทอมบาง ค่าติวมาม่าบาง  เมื่อดิฉันโทรไปหาแม่ของน้องเค้าก้อบอกว่ามะรับรู้ ฉันไมเกี่ยวอะไรด้วย   ดฉันควรทำอย่างไงบ้างคะ ช่วยบอกหน่อยมั้ยค่ะว่า จะไปแจ้งความแร้วเราสามารถที่ได้เงินเราคืนมารึป่าวคะ  เพราะว่านั้นเวลานั้นที่ให้เค้ายืมเพราะเค้าพูดในทางสงสารคะ ดิฉันควรทามอย่างไงดีคะ (จะเอาผิดได้ป่าวค่ะกับเด็กอายุ 19 คะ)

ความเห็นที่ 1 (3048537)

 

ถ้าไม่มีการทำสัญญากู้ยืมเงินกันเป็นลายลักษณ์อักษร จะไปฟ้องร้องยังไง เพราะเราไม่มีหลักฐานอะไรที่จะแสดงให้เห็นได้เลยว่าเขาคือ ลูกหนี้ ของเรา การให้แบบนี้มันเหมือนการให้โดยเสน่ห์หาอ่ะครับ

ความเห็นที่ 2 (3048568)

มีหลักฐานการโอนเงินด้วยคะ  แล้วอีกอย่างให้ด้วยการยืมคะ ไม่ให้ด้วยการเสน่ห์หาคะ   เหมือนประมานว่ามาหลอกขอยืมเงินแร้วบอกว่าจะคืนให้  โดยที่ฝ่ายนั้นเค้าไม่ยอมที่จะทำสัญญาอะไรเลย  แต่เป้นสัญญาที่เค้าพูดขึ้นมาเอง และเค้าใช้ความน่าเชื่อถือ และดิฉันคิดว่าเป็นแม่ขอน้องคนนี้ที่รับว่าจะคืนให้ บอกว่าขอยืมหน่อย  น้องเค้าเดือดร้อนเงินจริงๆๆเค้าบอกว่าของยืม และตัวดิฉันเองก็ให้เพื่อนและพี่น้องยืมเงินอยู่บ่อยโดนไม่มีสัญญากันแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับคนนี้เค้ากลับบอกว่าไม่รู้  ไม่เคยรู้จักกันเลยและไม่เคยพูดคุยกันไม่เคยเจอหน้ากัน  แต่ดิฉันมีหลักฐานว่ารู้จักกันเค้าไม่ได้หลอกที่จะยืมเงินของดิฉันคนเดียว แต่ยังเอาชื่อของดิฉันไปยืมเงินกับเพื่อนดิฉันโดยการอ้างว่าเป้นเพื่อนของดิฉันให้โทรมายืมเงินนะคะ ดิฉันมารู้ความจริงตอนที่เพื่อนบอกว่ายืมเงินไปทำไมคืนสักทีเลยถามเพื่อนว่าใครเป็นคนที่ยืมเพื่อนบอกก็ให้น้องโทรมายืม   ดิฉันควรทำอย่างไงดีคะ

ในเมื่อดิฉันมีหลักฐานการโอนเงินให้เค้า และอีกอย่างดิฉันโทรไปว่าโอนงินให้แล้วนะไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็กดเงินออกจ่ายบัญชี แล้วยังบอกอีกว่าแบ่งกับแม่ของเค้าคนละครึ่ง

 

ดิฉันควรจะทำอย่างไงดีคะ  เพราะตอนนี้ดิฉันเดือดร้อนมาก  เพื่อนดิฉันเองก็เหมือนกัน  เพราะเด็กคนนนี้เอาเงินเป้นจำนวนประมานเกือบ100000 บาท   มีอีกอย่างที่น้องคนนี้เคยพูดกับเพื่อนของนี้น้องคนนี้ว่า  (กูจะหลอกเงินใครมันก็เรื่องของกู มึงไม่เกี่ยวอย่ามายุ่ง)((ขอโทษนะคะที่ใช้คำไม่สุภาพ))และอีกประเด็นหนึ่งที่ดิฉันทราบมาว่าน้องเงินได้ยืมเงินไปเสร็จแร้วจะเองเงินบางส่วนไปให้อีกคนหนึ่ง  ดิฉันอย่างทราบทำแบบนี้เป้นการผิกกฎหมายรึป่าวคะ

ช่วยตอบให้หน่อยนะคะ

ความเห็นที่ 4 (3048592

-หลักฐานการโอนเงิน  ไม่ใช่หลักฐานการกู้ยืมเงิน  ไม่สามารถใช้ฟ้องเรียกเงินคืนได้   เพราะไม่มีลายมือชื่อของผู้ยืมเงิน.....ตามที่เล่า  ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ทั้งทางแพ่งคือฟ้องเรียกเงินคืน  และทางอาญาคือฟ้องข้อหาฉ้อโกง  ถ้าดำเนินการไปน่าจะเสียเวลาเปล่า    สาเหตุของปัญหาก็คือ    คุณไปใจอ่อนหรืออ่อนต่อโลกจนเกินไป....

ความเห็นที่ 5 (3048885)

กรณีที่มีคนมาขอกู้เงินแต่ไม่มีหลักทรัพย์มาคำประกัน แต่ได้ทำสัญญาใว้มีชื่อ จำนวนเงิน วันเดือนปีที่กู้ยืม เราจะสามารถทำการฟ้องร้องได้หรือไม่

ความเห็นที่ 6 (3048896)

ตามที่ท่านผู้เฒ่าบอกเลยครับ หลักฐานการโอนเงินมันไม่ใช่หลักฐานการกู้ยืมแต่อย่างใด ทางที่ดีคราวหน้าเปลี่ยนจากการยืมกันลอย ๆ ไปเป็นการทำสัญญากู้ยืม จะดีกว่าไหมครับ การยืมกันลอย ๆ ส่วนใหญ่จะใช้กับคนที่ไว้ใจได้ มีเครดิต หรือสนิทสนมกันเป็นอย่างดีเท่านั้นครับ

ตอบ คคห.5 ข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไรล่ะครับ แต่โดยรวมแล้วถ้าจะฟ้องร้องลูกหนี้ก็ถ้ามีสัญญาเงินกู้เป็นหลักฐาน ก็ฟ้องร้องได้ครับ แต่ต้องดูองค์ประกอบอื่น ๆ ประกอบด้วยนะครับ

ทำสัญญาแล้วคะ แต่เค้ามะยอมรับว่าได้ทำและไม่รู้จักกับพวกดิฉัน บอกว่าพวกดิฉันใส่ร้ายเค้า

แร้วถ้ามะใช่การยืมเงิน แต่เป้นการหลอกเอาเงินไปใช้โดยการส่วนตัวคะ  ดิฉันพึ่งทราบมาอีกว่า  ตัวเด็กคนนี้ได้นำรถ คันหนึ่งไปเข้าศูตรรถมือสอง  แล้วนำเงินออกมาโดยที่เจ้าของรถไม่ทราบว่ารถตัวเองได้เข้าไฟแนนซ์  และใบทะเบียนรถยังอยู่กลับเจ้าของรถเลย ตอนนี้คงไม่ใช่แค่การยืมเงินแล้วเพราะจำนวนที่เอาไปนั้นเป้นจำนวนที่มาก เกอนกว่าที่ครอบครัวของเด็กคนนนี้จะหฟาได้ เพราะที่บ้านของเด็กคนนี้  เปิดร้านขายของธรรมดา  เพื่อนของดิฉันมีสัญญานะคะ  เค้าบอกว่าฉันมะรู้พวกเธอปลอมลายเซ็นฉัน  แต่เพื่อนดิฉันไม่เคยเห็นลายเซ็นของเค้าจะเป้นหารปลอมลายเซ็นได้ป่าว เด็กคนนี้โทรไปหาเพื่อนดิฉันทุกคนเลยคะ  แล้วบอกว่าตัวดิฉันไม่มีเงินใช้  โดยให้โอนเงินเข้าไปในบัญชีของเด็กคนนี้  แล้วโทรไปว่า โอนเงินให้แล้วนะ  ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็กดเงินออกจากบัญชีแล้ว  นี้ยังไม่ใช้การหลอกคนอีกหรอกคะ  เพราะถ้า เป้นอย่างนี้ดิฉันก็ทำได้สิ่งคะ ที่โทรไปหลอกให้คนนั้นคนนี้โอนให้ แล้วไม่ผิดกฏหมายอะไรเลย  มันเป็นได้หรอกคะ   เพราะตอนนี้ทราบมาว่าที่เด็กคนนี้เอาเงินรวมๆๆกันแล้วเป้นจำนวน1,500,000 บาทแล้วคะ   แม่ของเด็กนนี้ยังบอกอีกว่า เค้ามีบ้านอยู่สี่หลัง แต่ บ้านของเค้าติดกลับธนาคาร ถึงสามหลังจะเอาเงินที่ไหนให้ลุกของเค้าใช้จ่ายเงินในระยะเวลาจะ 1ปีเป็นเงินจำนวน1,500,000บาท คะ  น่าสงใสนะคะว่าเอาเงินมาจากไหน ในเมือทุกคนที่เพื่อนดิฉันและตัวดิฉันโอนเงินไปให้ก็กดดิฉันออกมาใช่   และอีกอย่าง เด็กคนนี้ยังมีเงินมากรุงเทพบ่อย โดยการนั่งเครื่องมาเที่ยวที่กรุงเทพได้โดยที่ทางบ้านมีรายได้ไม่500บาทต่อวัน  ตอนนี้ดิฉันอยากทราบนะค่พว่านี้เป้นการหลอกเงินกันรึป่าวคะ

ถ้าเกิดว่าดิฉันและเพื่อนไม่สามารถดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสองได้ ดิฉันจะทำแบบนี้  ดิฉันก็อยากมีเงินเป็นล้านเหมือนกันนะคะ    โดยไม่ได้ทำงาน แค่หลอกโทรไปขอยืมเงินคนอื่นทุกๆๆวัน  และเมื่อเค้ารู้ว่าดิฉันหลอกเค้าแล้ว  ดิฉันก็ตอบไปว่าไม่รู้ได้สิคะ 

ช่วยตอบด้วยนะว่ามีวิธีไหนดำเนินคดีได้บางคะ เพราะถ้าเป้นแบบนี้แล้วต่อไปเค้าคงหลอกงเนคนอื่นมากกว่าพวกดิฉันอีก



ผู้ตั้งกระทู้ พี :: วันที่ลงประกาศ 2009-09-14 18:35:43 IP : 124.157.175.176


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3050271)

ฟัง ๆ ดูเหมือนแก๊งต้มตุ๊นหรือ 18มงกุฎเลยนะครับ เพราะเงินมันเริ่มพุ่งไปที่ 1,500,000 ละจากตอนแรกแค่หลักพันถึงหลักหมื่น แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่าการเล่าของคุณมันค่อย ๆ เพิ่มข้อเท็จจริงมาทีละอย่าง ๆ ซึงตามกฏหมายแล้วข้อเท็จจริงเปลี่ยนข้อกฏหมายมันก็เปลี่ยนตามฉนั้นการที่คำตอบในแต่ละท่านออกมาก็จะตอบในเฉพราะข้อเท็จจริงที่มีอยู่ ณ เวลานั้นทั้งหมดครับ ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า จะบอกว่าเขาหลอกเอาเงินเราไปนั้น เขาหลอกเราได้อย่างไร ใช้วิธีไหน ทำไมเราถึงโอนเงินไปให้เขาได้โดยง่าย แบบนี้เรียกว่าหลอกหรือปล่าว อันนี้ต้องมานั่งคิดพิจารณาอีกทีนะครับ และเขานำรถไปเข้าไฟแนนท์ รถใครครับมีเอกสารสิทธิ์อะไรที่นำรถไปเข้าไฟแนนท์ได้ง่าย และที่ถามคุณก็ทำอย่างเด็กคนนี้ได้สิ ก็คงทำได้ครับแต่ถามว่าใครล่ะครับที่จะเชื่อและโอนเงินไปให้คุณหรืออย่างที่เด็กคนนี้ทำ การที่คน ๆ นึงโอนเงินไปให้คน ๆ นึง โดยไม่มีมูลเหตุหรือหลักฐานอันเชื่อใด้ว่าผิดกฏหมาย แล้วมันจะผิดกฏหมายข้อไหนครับ (เว้นเสียแต่ว่าจะมีมูลเหตุอย่างอื่น) แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ใครจะยอมโอนเงินของตัวเองไปให้คนอื่นที่เราไม่รู้จักหรือไม่น่าไว้วางใจได้โดยง่ายเท่านั้นเองครับ ผมยังสงสัยอยู่เลยว่ากะแค่รู้จักผ่านเพื่อนคุณทำไมถึงยอมโอนเงินไปให้ได้ตั้งมากมายครับ งง แน่นอนล่ะครับว่าการหลอกลวงต้มตุ๋นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีและผิดกฏหมาย แต่ก็ต้องมานั่งวินิจฉัยอย่างละเอียดว่าเข้าข่ายหรือไม่ อย่างไร ผมว่ายังไงคุณลองไปปรึกษาทนายดูก็ได้นะครับ เพราะผมเชื่อว่าข้อเท็จจริงคุณน่าจะยังไม่หมดเท่านี้ ถ้าคิดจะฟ้องร้องเอาผิดกับเขาจริง ๆ ปรึกษาทนายและเล่าทั้งหมดทีเดียวพร้อมดำเนินการไปเลยดีกว่าครับ ขอเอาใจช่วยครับให้ชนะคดี และผมอยากแนะนำว่าวันหน้าถ้าไม่จำเป็นไม่ควรโอนเงินให้คนที่เราไม่รู้จัก ไม่สนิท หรือไม่ไว้ใจเป็นอันขาดครับ ... ขอบคุณครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2009-09-15 02:43:48 IP : 61.90.68.9


ความคิดเห็นที่ 2 (3050272)

หรือรอท่านผู้เฒ่ามาคอมเมนท์ก่อนก็ได้นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2009-09-15 02:47:04 IP : 61.90.68.9


ความคิดเห็นที่ 3 (3050345)

-ก็เห็นด้วยกับคุณ  PUP ครับ    ก็อยู่ที่ข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ......การโอนเงินให้ผู้อื่นง่ายๆ  คนปรกติทั่วไปเขาไม่ทำกันหรอก   และเรื่องประวัติของผู้ที่คุณโอนเงินให้  เป็นอย่างนั้นอย่างนี้   เป็นเรื่องการบอกเล่าต่อๆกันมา  ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่    แต่คงไปเอาผิดกับเขาค่อนข้างลำบาก  เรื่องสัญญากู้ยืมเงินก็เช่นกัน   ไม่ทราบไปทำกันอย่างไร.....   ธนาคารหรือสถาบันการเงิน   นอกจากมีการทำสัญญากู้ยืม แล้ว  ยังมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกันการกู้ยืม และผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันต้องมอบเอกสารส่วนตัว(สำเนาบัตรฯ  สำเนาทะเบียนบ้านฯ) แนบไว้ในสัญญากู้ยืมเงิน    คือพูดง่ายๆ  เขาทำสัญญาแน่นหนาถาวร     แต่เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ยอมใช้หนี้   สถ่าบันการเงินหรือธนาคารต้องมีการฟ้องร้องกันว่นวาย   กว่าจะได้เงินคืนยังแทบหืดขึ้นคอ...ถ้ามีสัญญาเพียงกระดาษแผ่นเดียว  เขาก็คงหาข้อโต้แย้งได้สารพัด......เรื่องคุณคิดว่าจะโทรฯไปขอยืมเงินผู้คนไปทั่ว.....ในปัจจุบันก็มีผู้กระทำเช่นนี้อยู่    และได้รับเงินไปใช้ฟรีๆอยู่เสมอ   คุณก็ตระหนักว่าการกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งไม่ดี   ถ้ายังขืนทำลงไปอีก ในไม่ช้าก็คงได้รับผลกรรมที่ทำไว้  เพราะไม่มีใครหนีกรรมพ้นหรอก  แต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น....

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-09-15 08:46:35 IP : 125.26.111.193


ความคิดเห็นที่ 4 (3243408)

รู้จักกันมาสองสามปีมาปีสุดท้ายเค้าไปบวชชีแล้วขอให้เราช่วยผ่อนรถให้เค้าโดยที่เราส่งเงินไปให้ทุกเดือนรวมถึงค่าใช้จ่ายเค้าด้วย แต่เค้าบวชชีนานมากเพิ่งมาสึกตอนมกรานี้เองเราก็ส่งเงินให้มาตลอดพ่อแม่เค้าก็บอกว่าจาคืนเงินให้แต่พอเค้าสึกมาเค้าเอารถเก่าไปเปลี่ยนใหม่เป็นรถกะบะป้ายแดงแล้วก็ไม่คืนเงินให้เรา ถามพ่อแม่เค้าก็บอกไม่รับรู้เรามีหลักฐานการโอนเงินจาฟ้องได้มั้ย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนใจดี วันที่ตอบ 2011-04-25 18:40:24 IP : 86.182.233.94



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.