กราบเรียนถามค่ะ

    ดิฉันได้กู้เงินจากธนาคารนครหลวงในการซื้อบ้านตั้งแต่ พ.ศ 2546 และทำการผ่อนชำระมาตลอดจนกระทั่งเดือนนี้ได้ทำการรีไฟแนนท์กับ ธ.ทหารไทยเนื่องจากผ่อนชะระได้ถูกกว่า และยังมียอดที่สามารถขอเพิ่มได้จึงแจ้งความจำนงค์ไปที่ธนาคารนครหลวงไทย แต่พบว่ามีปัญหาตรงที่ ธนาคารนครหลวงไทยเรียกเก็บเงินค่าปรับเป็นจำนวน 2 %จากยอดค้างทั้งหมด จากการรีไฟแนนท์ไปยังบิษัทอื่นซึ่งดิฉันมียอดค้าง550000 บาท ค่าปรับคือ 11000 บาท  ดิฉันและ Bank TMB ได้ทำการโต้แย้งกลับไปเนื่องจากว่าในสัญญาไม่มีระบุไว้มีเพียงแค่ว่าหากทำการไถ่ถอนก่อน 3 ปีจะต้องเสียค่าปรับเพียงเท่านั้นแต่เจ้าหน้าที่ของธนาคานนครหลวงได้นำใบแนบเป็นใบมติของธนาคารออกมาให้ดูซึ่งมีการระบุไว้ว่าในกรณีรีไฟแนนท์ดิฉันต้องเสียค่าปรับ 2 %ตลอดสัญญาและปัดความรับผิดชอบว่าตนเองไม่ได้เป็นคนร่วมเซ็นต์สัญญาในครั้งนั้นจึงไม่ทราบว่าพนักงานที่ดูแลได้แจ้งข้อมูลให้ทราบหรือไม่หรือดิฉันเองที่ลืมข้อมูลตรงนี้ และได้บอกอีกว่าบางครั้งในสัญญาก้ไม่สามารถลงข้อมูลทุกอย่างลงได้ครบ ซึ่งดิฉันได้สอบถามว่าในปัจจุบันนโยบายของธนาคารยังเป็นแบบเดิมอยู่หรือไม่เนื่องจากดิฉันได้สอบถาททุกธนาคารแล้วไม่มีที่ใดเรียกเก็บเงินในส่วนนี่เลย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าได้เปลี่ยนนโยบายไม่มีการเรียกเก็บมา2ปีแล้วและตอนนี้ก็มีระบุในสัญญาครบถ้วน ดิฉันจึงคิดว่ามีความไม่โป่รงใสและไม่ยุติธรรมเนื่องจากเราไม่ได้รับข้อมูลในส่วนนี้และก็เป็นการเอาเปรียบมากเลยค่ะ อยากทราบข้อมูลว่าเราควรยึดตามสัญญาหรือมติของธนาคารค๊ะ แล้วเราจะเรียกเก็บคืนจากะนาคารนครหลวงไทยได้รึเปล่าคะ