ผมเคยโดนลักษณะนี้เหมือนกัน ผมจะพูดในมุมมองของผมนะครับ ผมโดนจับเมื่อปีที่แล้ว ตำรวจกดดัน ประกันตัวชั้นตำรวจแล้ว ก่อนส่งเรื่องไปหาอัยการผมกับเพื่อนก็ได้ไปปรึกษาอัยการก่อน แรกๆดูเหมือนจะช่วยเหลือให้เพราะหลักฐานอ่อน พอเรื่องถึงมือท่านแล้ว ก็ประกันตัวเท่ากับวงเงินประกันชั้นตำรวจ ท่ายอัยการแกก็กลับเรียกเงินเพิ่มอีก ความยุติธรรมไม่มีเลยคัรบในเมืองไทย ไม่จ่ายก็โดนส่งขึ้นศาลเลย ประกันตัวชั้นสาลอีกรอบนึงวิ่งเต้นวุ่นวาย เรื่องดองมาปีนึงพอดี ร้อยเวรก็โทรมาบอกจะเคลียร์เรื่องให้ ขอ 5 พัน ก็เลยจ่ายไป ทำเรื่องยอมความกัน ถอนฟ้องที่ชั้นศาลอีกวุ่ยวายมาก ไม่มีเส้นก็แบบนี้เจอแต่คนแกล้ง

สรุปในมุมมองของผมมี 2 ทาง สู้กับไม่สู้

สู้ ถ้าเงินหนา ก็สู้ครับ ประกันตัว 3 รอบ ใช้เงินสดหรือข้าราชการก็ได้ หวังว่าจะเจอข้าราชการที่ดีครับ

ไม่สู้ มีอีก 2 ทาง

1. จ่ายเงินไปเลย ไม่ต้องวุ่นวาย

2. ประกันตัวชั้นตำรวจโดยใช้ผู้ใหญ่บ้านหรือข้าราชการก็ได้ครับ แล้วใช้เวลาที่เหลือก่อนส่งเรื่องไปอัยการ ต่อรองกับร้อยเวรให้ได้ราคาถูกที่สุด

-ที่จริงปัญหาทำนองเคยตอบมาแล้ว.....การกระทำของคุณก็เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้า  ซึ่งมีโทษจำคุกหกเดือนถึงสี่ปี ปรับหนึ่งแสนถึงแปดแสนบาท.....ที่จริงถ้าคิดจะทำมาหากินเกี่ยวกับมือถือและคอมพิวเตอร์ควรศึกษาระเบียบกฎหมาย บ้างตามสมควร    เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัว  จะอ้างความสุจริตเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ  คือสุจริตต้องไม่ผิดกฎหมายด้วย......ขณะนี้แก๊งล่อซื้อเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์กำลังออกอาละวาดหนัก   มีผู้คนต้องเป็นเหยื่อมากมาย   โดยอาศัยช่องทางของกฎหมายเพื่อขูดรีดเหยื่อ     เหยื่อส่วนใหญ่มักยอมเสียเงินแต่โดยดี   เพราะมีโทษจำคุกและปรับค่อนข้างสูง...จึงยอมกัดฟันเสียเงินเพื่อปิดคดี......เรื่องล่อซื้อ จะใช้เป็นพยานในศาลหรือไม่   ยังเป็นปัญหาข้อกฎหมาย  คือต้องดูข้อเท็จจริงเป็นกรณีๆไป   จะบอกว่าการล่อซื้อ ศาลจะยกฟ้อง  น่าจะเป็นการด่วนสรุปจนเกินไป......ปัญหาของคุณ    ก็อยู่ที่คุณจะตัดสินใจเอาเอง     ถ้าอยากจบแบบง่ายๆแต่ต้องเสียเงินและเสียความรู้สึก  ก็ยอมจ่ายตามที่เขาเรียกร้อง     แต่ถ้ามั่นใจก็ปล่อยให้เรื่องขึ้นสู่ศาล  ซึ่งก็ต้องใช้เงินและเวลาพอสมควร      ผลของคดีจะออกมาเช่นใด   ผมคงไม่กล้าไปสู่รู้ไปตอบแทนศาลได้ครับ

ถามอีกรอบ นะคับ  กรณีของผม  คนที่มาล่อซื้อ เราสามารถแจ้งความ ว่ามีส่วนทำให้เราเเสียหายได้หรือไม่   คือไม่พูดถึงการล่อซื้อ แต่เรียกว่าเป็นการทำให้เกิดความเสียหายเรา  ร้องทุกข์ได้มัยว่าผู้มาให้เราลงเพลงก็ผิดเช่นกัน คับ

และกรณีนี้ผม ยังไม่มีเงินจ่ายที่เขาเรียกมา จะทำอย่าไงรคับ  มีคนบอกว่าให้ไป จบที่ศาลจะได้ไกล่เกลี่ย เสียเงินน้อยว่า นี้

ขอบคุณ คับ

-คงไปแจ้งข้อหาคนล่อซื้อไม่ได้    อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องนี้เลย   ควรเคลียร์เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ให้จบก่อน.....อย่าไปเปิดศึกหลายด้านโดยไม่จำเป็น.....ถ้าเรื่องไปถึงศาล   ก็คงมีการไกล่เกลี่ยกัน   เพราะคดีนี้เปิดโอกาสให้มีการเปรียบเทียบปรับได้.....แต่จะเสียเงินเท่าใดก็เป็นเรื่องตอบลำบาก......ตามความเห็นที่  1  มีประโยชน์เพราะเขาเล่าจากประสบการณ์จริงครับ

มาช่วยตอบอีกที เรื่องจบที่ศาลเสียน้อยกว่าจริงครับ แต่ต้องประกันตัว 2 รอบนะครับ รอบที่ 3 เราไม่สู้คดี สารภาพเลย ก็ไม่ต้องประกันครับ ถ้าไม่มีของกลางอะไรถูกยึดก็หาข้าราชการมาประกันตัวก็ได้ครับ พอขึ้นชั้นศาลวันแรกเราก็ยอมรับผิดเลย ศาลจะปรัีบประมาณ 2-3,000 บาทครับ

คือตอนนั้นผมโดนจับคอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง มีเพลงที่ไม่รู้ว่าใครโหลดมา 2 เครื่อง อีก 3 เครื่องไม่มีเพลง แต่สำนวนของอัยการบอกว่ามีเพลงทุกเครื่อง ทั้งๆ ที่สำนวนตำรวจบอกว่ามีเพลงแค่ 2 เครื่อง ผมเลยยอมไม่ได้ครับ ขึ้นศาลวันแรกเสมียนประจำห้องไตร่สวนเค้าจะมาถามเราเลยว่าเป็นคดีเล็กน้อยยอมความเลยรึเปล่า ศาลท่านฝากมาบอกว่าถ้าสารภาพจะเสียค่าปรับแค่ 2500 แต่พอดีว่าผมโดนยึดของกลางโดยไม่ชอบธรรม เลยปฏิเสธครับ ถ้าสารภาพจะถูกริบของกลางไปหมด

ของคุณสินธุถ้าไม่มีของกลางราคาแพงถูกยึดไว้ ผมว่าสารภาพที่ชั้นศาลก็ได้ครับ

ขอบคุณ สำหรับ คำตอบที่พอจะเป็นแนวทาง คับขอบคุณมากๆ  

กำลังจะบอกว่า...ผู้ที่อ้างตัวว่ามาจากลิขสิทธิ์ ดูให้ดี..หาเงินแ..กเอง..ขอเงินไม่ได้ก็จับ..เห็นมาแล้ว....ทีตัวใหญ่...ขายเกลื่อนเมือง แม่ง..ไม่จับ...เพราะรับเงินแล้ว มีทุกตลาดนัด....ในเมืองแปดริ้ว.....ตามตลาดนัด มี ตร.คอยเคลียรายเดือน...ชี้ให้ได้เลย..ใครอยากรู้ให้มาหาได้...จะชี้ให้..จะได้ไม่ไปไล่จับ..ตัวเล็ก..ที่ไม่มีเงินแล้วเป็นข่าวในศาล...อนาจใจ...