ReadyPlanet.com


ถูกกล่าวหาว่ากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน13-15


 น้องชายผมอายุ33ปี โดนแม่ของเด็กคนหนึ่งแจ้งความจับในข้อหากระทำชำเรา โดยที่น้องผมเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย. ตอนนี้เรื่องทั้งหมดได้มาถึงศาลในช่วงของการสืบพยานของ. อัยการ. และจำเลย. และผลตรวจพิสูตรหาหลักฐานของอัยการขั้นแรกคือ

1ผลตรวจหาคราบอสุจิ ตรวจหาดีเอ็นเอไม่  ออกมาว่าไม่่่่เจอคราบอสุจิ  ไม่พบดีเอ็นเอแฝง. 

2แต่ พบร่องรอยฉีกขาดของเยื่อพรมจารี

แต่อัยการก้อยังจะฟ้องน้องผมอยุ่ดีผมเลย งง ว่าทำไมเขายังจะเอาผิดกับฝ่ายเราอีกทั้งๆที่ผ่ายพ่อแม่เด็กก้อรุ้ว่าอะไรยังไง

ผมละเหนื่อยใจแทนน้องผมเลยตอนนี้

(ใครพอจะทราบบ้างคับว่าแนวทางมันจะออกมาแบบไหนยังไง

ทั้งๆที่น้องผมมันไม่ผิดจริงๆช่วยให้คำปรึกษาด้วยนะคับ



ผู้ตั้งกระทู้ ชายใจน้อย :: วันที่ลงประกาศ 2020-02-12 14:08:17 IP : 1.47.175.11


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4359877)

 ปัญหาข้อเท็จจริง

1ผลตรวจหาคราบอสุจิ ตรวจหาดีเอ็นเอ ไม่  ออกมาว่าไม่่่่เจอคราบอสุจิ  ไม่พบดีเอ็นเอแฝง. 

2แต่ พบร่องรอยฉีกขาดของเยื่อพรมจารี

แต่อัยการก้อยังจะฟ้องน้องผมอยุ่ดีผมเลย งง ว่าทำไมเขายังจะเอาผิดกับฝ่ายเราอีกทั้งๆที่ผ่ายพ่อแม่เด็กก้อรุ้ว่าอะไรยังไง

ผมละเหนื่อยใจแทนน้องผมเลยตอนนี้

(ใครพอจะทราบบ้างคับว่าแนวทางมันจะออกมาแบบไหนยังไง

ทั้งๆที่น้องผมมันไม่ผิดจริงๆช่วยให้คำปรึกษาด้วยนะคับ

ตอบ 1-2  ดีเอ็นเอ ก็เป็นเพียงหลักฐานหนึ่ง  ที่จะพิสูจน์ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดจริงหรือไม่  แม้ตรวจไม่พบฯ  แต่ถ้าตำรวจและอัยการมีพยานหลักฐานอื่นยืนยันว่า ผู้ต้องหา กระทำความผิด  ก็สามารถส่งฟ้องคดีต่อศาลได้  เรื่องนี้เป็นปัญหาข้อเท็จจริง  ต้องนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์หักล้างกัน  คนที่รู้ตัวดีที่สุดว่าทำผิดหรือไม่ คือน้องชาย  ถ้ามั่นใจว่า  ไม่ได้กระทำความผิด  ก็ต้องหาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ตนให้พ้นผิด  เช่น ในวันเกิดเหตุ ผู้ถูกกล่าวหา  ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ  มีสถานที่อยู่ที่มีพยานหลักฐานยืนยันได้ชัดเจน เป็นต้น  คงต้องมีทนายความช่วยเหลืออย่างจริงจัง  เพื่อให้การต่อสู้คดีเป็นไปตามระบบ  ตามขั้นตอน ซึ่งต้องใช้ทั้งศาตร์และศิลปะ ชั้นสูง....ถ้าเพียงปฏิเสธลอยๆว่าไม่ได้กระทำความผิด  ศาลคงไม่รับฟัง...ถ้ากระทำความผิดจริง  ควรรับสารภาพแต่แรก และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายตามควร  ซึ่งย่อมมีเหตุบรรเทาโทษ  ถ้าโชคดี อาจจะไม่ถูกจำคุกก็ได้...ด้วยความปรารถนาดี ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2020-02-12 15:42:02 IP : 118.172.195.103


ความคิดเห็นที่ 2 (4359923)

 แต่ฝ่ายน้องผมมีพยาน2ปากคับที่อยู่ด้วยตลอด อันนี้พอจะได้มั้ยคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชายใจน้อย วันที่ตอบ 2020-02-13 00:18:44 IP : 1.47.171.172


ความคิดเห็นที่ 3 (4360062)

 พยาน...

    ก็นำพยานสองปากนี้  นำสืบหักล้าง  พยานหลักฐานของอัยการได้   ถ้ามีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากกว่า  หรือกรณีเป็นที่สงสัย  จำเลยก็มีโอกาสรอดสูง  ตาม ป.วิอาญา ม.227 วรรคสอง...

แนวคำพิพากษา...

  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14822/2558  สำหรับความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์นั้น แม้ขณะเกิดเหตุจะฟังได้ว่า พวกของจำเลยเป็นผู้ยกเอาเก้าอี้ของโจทก์ไปโดยความรู้เห็นของจำเลยก็ตาม แต่พวกของจำเลยนำเก้าอี้ไปตั้งวางไว้ที่บริเวณหลังร้านของโจทก์ในระยะห่างจากจุดเดิมเพียงไม่กี่เมตร โดยจำเลยต่อสู้ว่านำเก้าอี้ไปใช้นั่งพูดคุยกันซึ่งก็มีเหตุผลควรแก่การรับฟัง เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยสั่งการให้ขนเคลื่อนย้ายเก้าอี้ไปไว้ในบ้านจำเลยหรือนำเก้าอี้ไปทำประโยชน์อื่นใด ดังนั้นการที่จำเลยไม่ยอมคืนเก้าอี้ให้แก่โจทก์ในตอนแรกจึงเป็นเพียงพฤติการณ์ที่เกะกะระรานสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่โจทก์มากกว่าจะเป็นการเอาเก้าอี้ไปเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับจำเลยหรือพวกของจำเลย คดียังมีเหตุอันควรสงสัยรับฟังไม่ได้แน่ชัดว่า จำเลยกับพวกเอาเก้าอี้ของโจทก์ไปโดยทุจริตหรือไม่ ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227 วรรคสอง จึงไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ได้
          คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12563/2558  แม้ในชั้นสอบสวนทั้ง ธ. และ อ. จะให้การต่อพันตำรวจตรี ส. พนักงานสอบสวนว่า จำเลยกับ พ. ร่วมกันลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายมาขายให้ ธ. 2 คัน และยังร่วมกันลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายมาขายให้ อ. อีก 1 คัน แต่ในชั้นพิจารณาทั้ง ธ. และ อ. ไม่ได้มาเบิกความยืนยันการกระทำผิดของจำเลย เพื่อให้จำเลยมีโอกาสถามค้านเพื่ออธิบายข้อเท็จจริง ย่อมทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ทั้งปรากฏจากคำให้การชั้นสอบสวนของ ธ. ว่า ก่อนรับซื้อรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน รตจ กรุงเทพมหานคร 284 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2551 พ. ได้โทรศัพท์มาติดต่อขายรถจักรยานยนต์ให้โดยอ้างว่าเป็นสิทธิพิเศษของตนที่มีสิทธิซื้อในราคาเริ่มเปิดประมูล แต่ต้องการขายสิทธิดังกล่าว ต่อมาวันที่ 2 กันยายน 2551 พ. ขับรถกระบะของผู้เสียหายบรรทุกรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน รษต กรุงเทพมหานคร 653 มาขายให้อีกโดยขับมาคนเดียว กลับบอกว่าครั้งนี้เป็นสิทธิของตน ส่วนครั้งก่อนเป็นสิทธิของจำเลย พฤติการณ์ของ พ. ตามคำให้การในชั้นสอบสวนดังกล่าวมีข้อเคลือบแคลงสงสัยว่า จำเลยร่วมกระทำผิดกับ พ. หรือไม่ และตามคำให้การชั้นสอบสวนของ อ. ที่ว่า รถจักรยานยนต์ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน วจม กรุงเทพมหานคร 424 มี พ. ขับมาขายโดยไม่ปรากฏว่ามีจำเลยเข้าไปมีส่วนร่วมกระทำผิดด้วยนั้นก็สอดคล้องกับที่ น. เบิกความว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ต้องโทรศัพท์สอบถามจากบุคคลที่เคยมาประมูลซื้อรถ จึงทราบว่า พ. เป็นผู้ขับรถจักรยานยนต์ไปขาย ดังนี้ ลำพังคำให้การชั้นสอบสวนของ ธ. และ อ. ตามบันทึกคำให้การชั้นสอบสวน จึงไม่อาจฟังลงโทษจำเลยได้

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2020-02-13 13:15:10 IP : 101.51.73.59



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.