ReadyPlanet.com


ขอช่วยตอบด่วน! โดนตั้งข้อหาข่มขืน


เหตุการณ์เกิดขึ้นดังนี้ครับ. ผมอายุ 19 ปี(ผู้ญ.อยู่ม.2)  เนื่องจากผมไปรับผู้ญ.ที่บ้านซึ่งพ่อ-แม่อยู่บ้าน

มาเที่ยวบ้านผมช่วงเที่ยงวันพฤฯ. และไปส่ง 3 ทุ่มในวันเดียวกัน แต่ตอนไปส่งพ่อ-แม่ผู้ญ.ไม่อยู่และ

ไม่แน่ใจว่ามีคนเห็นไหม จากนั้นวันศุกร์ผมก็เดินทางไปทำงานกับพ่อตจว. และในวันเดียวกันนี้พ่อ-แม่

ผู้ญ.กลับไปแจ้งความที่สณ.ตั้งข้อหาข่มขืน/ และพยายามจะเรียกร้องสินไหมจำนวนมากอีก  และ

ผมมาทราบที่หลังว่าผู้ญ.ที่ผมไปส่งในวันพฤฯ.นั้นไม่อยู่ และไม่รู้ไปไหน ซึ่งพ่อ-แม่ผู้ญ.บอกว่าลูกสาว

กลับมาบ้านวันศุกร์ ..ซึ่งเหตุการณ์หลัง 3 ทุ่มไปแล้วผมไม่ทราบเลย และผมไม่ได้มีอะไรกับผู้ญ.คนนี้

แต่ถูกตั้งข้อหาข่มขืน /และผมต้องเดินทางกลับมาที่บ้าน สอบถามกับตำตรวจ ว่าสินไหมให้ไปคุยกัน

ถ้าไม่ได้ข้อยุติ ต้องส่งเรื่องต่อศาล  /ซึ่งทุกข้อกล่าวหาผม ไม่ได้กระทำ จะมีวิธีตอบโต้และแก้ไข

อย่างไรครับ ช่วยแนะนำด้วย.. ผมยินดีพิสูจน์น้ำเชื้อ เพราะไม่ได้มีอะไรกัน



ผู้ตั้งกระทู้ ชาติ :: วันที่ลงประกาศ 2009-09-18 09:42:47 IP : 124.122.83.83


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3052111)

-ผมก็ค่อนการเชื่อถือว่า   คุณไม่ได้กระทำความผิด    แต่พฤติกรรมของคุณที่เข้าไปพัวพันกับบุตรสาวของเขา     เปิดโอกาสให้เขาสามารถตั้งข้อหากับคุณได้......เรื่องพิสูจน์ร่องรอยการข่มขืน    คุณค่อนข้างเสียเปรียบ     เพราะถ้าหญิงไปพลาดท่ากับชายอื่น   จึงเอาตัวคุณมาเป็นแพะรับบาปก็ย่อมสามารถทำได้     ถ้า หมอ บอกว่ามีร่องรอยถูกข่มขืน   และฝ่ายหญิงยืนยันว่าถูกคุณข่มขืนจริง  คุณก็คงเถียงไม่ขึ้น    เรื่องน้ำเชื้อ  คุณอย่าไปมั่นใจถึงขนาดนั้น  เพราะอาจไม่หลงเหลืออยู่แล้ว    เพียงหมอยืนยันว่าหญิงถูกข่มขืน   คุณก็คงถูกปิดปากโดยอัตโนมัติ.......เรื่องของเรื่อง    ก็คือฝ่ายหญิงเขาต้องการเรียกร้องเงินจากคุณ......และคดีประเภทนี้ตำรวจมักเปิดไฟเขียวให้เจรจาตกลงกันเอง   ขอแนะนำให้หาผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีเกียรติน่าเชื่อถือ  และมีวาทศิลป์ในการเจรจา  ช่วยไกล่เกลี่ยให้  เรื่องคงไม่มีอะไรร้ายแรงมากนัก   ข้อสำคัญควรสงบปากสงบคำไว้ให้มาก   เพราะถ้าเอะอะโวยวายไป   ก็ช่วยอะไรไม่ได้   แต่จะทำให้การเจรจาไม่เป็นผลมากกว่า.......

-หรือ ถ้าคุณมั่นใจในตัวเองว่าไม่ได้กระทำความผิด   ก็ปล่อยให้คดีขึ้นสู๋ศาล เพื่อพิสูจน์กันตามกระบวนการยุติธรรม  ผมยังมีความเชื่อว่าผู้บริสุทธิ์จะได้รับการคุ้มครองเสมอ แต่คงใช้เงินและใช้เวลาพอสมควร   ควรปรึกษาผู้หลักผู้ใหญ่และทนายความ   เพื่อหาออกที่เหมาะสมอีกทีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-09-18 14:43:27 IP : 125.26.113.73


ความคิดเห็นที่ 2 (3052449)

-ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ    ..แต่ผมยินดีที่จะขึ้นศาล เพราะเราไม่ได้ทำอะไรเลย  แล้วเราไม่มีข้อโต้แย้งอย่างอื่นเลยเหรอครับ

ถ้าเราไม่มีผู้ใหญ๋ล่ะ ..เราก็กลายเป็นคนผิดเลยซิ  ช่วยแนะนำด้วยครับ /ขอขอบคุณ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชาติ วันที่ตอบ 2009-09-18 17:03:05 IP : 124.122.83.83


ความคิดเห็นที่ 3 (3052542)

น่าเห็นใจนะครับ แต่ถ้าในเมื่อบริสุทธิ์ใจเละไม่ได้ทำจริง ๆ เป็นผม ๆ จะขอไปต่อสู้กันให้ถึงที่สุดในชั้นศาลเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง และไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือหากินกับคนไม่ดีเพียงกลุ่มนึงที่อยากจะได้เงินจนถึงกับขนาดทำให้คนบริสุทธิ์คนนึงต้องเสียประวัติและเงินทอง มันน่าเสียใจตรงที่คน ๆ นั้นคือเพื่อนของคุณเพราะประเด็นหลักของเรื่องนี้อยู่ที่ผู้หญิงครับเพราะเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะตอบได้ว่าคุณข่มขืนเขาหรือไม่ ยังไงก็ปรึกษาทนาย ผมก็ยังเชื่อว่าโลกนี้ยังมีความยุติรรมอยู่บ้าง และเวรกรมนั้นมีอยู่จริงครับ ใครทำอะไรไว้ไม่ช้าผลกรรมก็จะส่งถึงตนไม่ช้าก็เร็วครับ ขอให้ชนะคดีนะครับ สู้ ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2009-09-18 21:12:50 IP : 61.90.97.19


ความคิดเห็นที่ 4 (3052658)

-ที่เสนอแนะให้หาผู้หลักผู้ใหญ่มาเป็นคนกลางช่วยเหลือไกล่เกลี่ยให้   เป็นการเสนอทางออกของปัญหา ที่ยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีไทยเป็นหลัก   เพราะสังคมไทยต่างให้ความเคารพผู้หลักผู้ใหญ่  ถ้ามีผู้หลักผู้ใหญ่ยอมออกหน้าช่วยไกล่เกลี่ยให้    เรื่องร้ายจะบรรเทาเบาบางลง   หรือตกลงกันได้ด้วยดี......ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้แนวทางนี้แก้ปัญหาเท่านั้น    เป็นการเสนอแนะทางออกทางหนึ่งเท่านั้น  ที่คุณบอกว่า  "ถ้าเราไม่มีผู้ใหญ๋ล่ะ ..เราก็กลายเป็นคนผิดเลยซิ"    ก็คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก......ถ้าว่ากันตามกฎหมาย   เมื่อถูกกล่าวหาหรือถูกฟ้อง   ก็ต้องหาทายความช่วยเหลือในการต่อสู้คดีไปตามกระบวนการ  สำหรับรายละเอียดและวิธีการ  คงต้องพูดคุยกับทนายโดยละเอียดอีกครั้ง  เพื่อกำหนดแนวทางในการพิสูจน์ตนเองให้พ้นข้อกล่าวหาต่อไป......ตามความเห็นของคุณ    pup   บอกไว้ถูกต้องถ้าคุณสามารถพูดคุยกับฝ่ายหญิงให้เขายอมบอกความจริงได้   คุณคงรอดพ้นจากความผิดได้......แต่ต้องพึงระวังการไปพูดคุยในขณะเรื่องกำลังร้อนๆอยู่  คุณอาจมีข้อหาเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นได้.......

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-09-19 10:35:12 IP : 125.26.106.132


ความคิดเห็นที่ 5 (3054495)

-ขอบคุณผู้เฒ่า และ คุณ PuP/ ตอนนี้เหตุการ์เป็นคนละเรื่องเลย/ พ่อผมไปยอมเขายอมเสียค่าสินไหม อยากให้เรื่องมันจบ

แม่ไม่ยอม.. แต่ก็ต้องทำตามพ่อ ผมบอกต้องการสู้ให้ถึงที่สุด แต่คนแก่แถวบ้านกับบอกคุยๆ กันไปจะได้จบไปเลยต้องเสีย

ตังค์ฟรีเลย.. และจนท.ตร.ก็ส่งเรื่องไปอัยการแล้ว หนักกว่าเดิมอีก คู่กรณ๊เสียตังค์ฟรีไปแล้ว แต่ที่ศาลตร.ส่งเรื่องไปแล้วอีก

ช่วยจิตนาการ หน่อยซิครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนี้.. /แต่ผมเจ็บใจที่คู่กรณีผมไม่หาย อยากได้ตังค์..ฮืม นี่นะผมเพิ่งรู้ว่าคน

เรานี่ทำได้ทุกอย่าง

ผู้แสดงความคิดเห็น ชาติ วันที่ตอบ 2009-09-24 08:25:56 IP : 124.122.111.186



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.