[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ขอคำแนะนำด่วนค่ะ | |
สวัสดีค่ะ ขณะนี้ตัวดิฉันเองอยู่ต่างประเทศ แต่มีธุรกิจนำเที่ยวอยู่ที่เมื่องไทยคะ แต่เมื่อเดือนที่แล้วดิฉันมีปัญหากับลูกค้าช่าวต่างชาติที่อยู่ที่เมืองไทยค่ะ จริงจริงแล้วเป็นลูกค้าประจำ และได้ทำการซื้อตั๋วเครื่องบินจากดิฉัน แต่เนื่องจากดิฉันประสบปัญหาทางธุรกิจ และหมุนเงินไม่ทันทำให้ลูกค้าสองสามีภรรยานี้มีปัญหาไม่สามารถเดินทางได้ และทางดิฉันเองได้ติดต่อเจรจาขอชำระเงินคืนให้ โดนตอนแรกทางลูกค้าเรียกค้าเสียหายและค่าเสียเวลา 100000 บาท แต่ทางลูกค้าได้ชำระเงินกับดิฉัน 57000 บาทซึ่งทางดิฉันก้อยินยอมแต่ขอผ่อนผันเป็นชำระเสร็จสิ้นภายใน 4 เดือน ทางลูกค้าก้อแจ้งว่าต้องการเงินยอดแรก 60000 บาทภายในวั้นที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมาแต่เนื่องจากดิฉันไม่สามารถจะหาได้ทันจึงได้บอกว่าขอเป็นสินเดือนมกรา 15000 และวันที่ 10 กุมภา อีก 10000 บาทและส่วนที่เหลือดิฉันจะทยอยชำระให้หมดภายใน 4 เดือน แต่ทางลูกค้าไม่ยอมและบอกให้ดิฉันชำระจำนวน 20000 ภายในวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมาและขอเรียกดอกเบี้ยร้อยละ 2 % ต่อเดือนถ้าไม่เช่นนั้นเค้าจะเรียกดอกเบีี้บ 40% ซึ่งดิฉันก้อได้เขียนอีเมล์ไปขอความกรุณาและถามว่าที่แจ้งว่าจะเรียกดอกเบี่ย 40%หมายถึงอะไรเพราะดิฉันไม่แน่ใจ และดิฉันยังเสนอว่าดิฉันสามารถจ่ายดอกเบี้ยให้ 3% ต่อเดือนแต่ขอให้เวลากับดิฉัน ซึ่งดิฉันจนความสามารถที่จะหาได้จริงจริง ณวันที่เค้าต้องการ จึงได้ติดต่อลูกค้าขอร้องให้ดิฉันจ่ายตอนสิ้นเดือน 15000 และ 10000 บาทตอนเดือนกุมภาตามที่ได้แจ้งไปแต่ต้น แต่เมื่อวานทางลูกค้าได้ไปแจ้งความกับตำรวจท่องเที่ยว และทางตำรวจท่องเที่ยวได้ติดต่อไปที่สำนักงานของดิฉันว่าให้เวลาภายใน 7 วันมิฉนันจะยึดใบอนุญาติและปิดร้านของดิฉัน ตอนนี้ดิฉันเครียดมากเลยค่ะ นอนไม่หลับเลยค่ะ ถ้าไม่มีร้านดิฉันก้อไม่มีทางทำมาหากิน ดิฉันเปิดร้านมา 10 กว่าปีบางครี้งก้อมีปัญหาแต่ดิฉันก้อสู้มาตลอดและรับผิดชอบดูแลลูกค้ามาตลอดไม่เคยทอดทิ้งหรือโกงลูกค้าแหละหนี้หาย แต่ลูกค้ารายนี้ไม่ยอมท่าเดียวค่ะ ตอนนี้ดิฉันกลัวตำรวจท่องเที่ยวมากกลัวว่าร้านจะโดนปิด ถ้าหาทางออกไม่ได้ดิฉันต้องฆ่าตัวตายแน่เลยค่ะ ขอความกรุณาให้คำแนะนำด้วยนะคะว่าดิฉันควรทำอย่างไร ขอบคุณมากค่ะ มณีนุช | |
ผู้ตั้งกระทู้ มณีนุช :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-19 10:49:04 IP : 86.69.88.248 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3234181) | |
ทุกอย่างมันมีทางออกเสมอครับ การคิดฆ่าตัวตายเป็นเรื่องที่โง่เง่าและบาปที่สุดครับ (ขออภัยที่ต้องใช้คำแรงเพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะมาอยู่ในหัวคุณตอนนี้) ตามความเชื่อคนไทยวิญญาณจะต้องวนเวียนและทำการฆ่านั้นซ้ำ ๆ ไปจนกว่าจะสิ้นอายุไขที่แท้จริง ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทางหลุดพ้นทุกข์ที่แท้จริงเลย เผลอ ๆ ทรมานกว่าเก่าโดยเฉพาะคนทีอยู่เบื้องหลังอย่าง พ่อ แม่ หรือครอบครัว ส่วนประเด็นในคำถามเมื่อคุณขายตั๋วให้เขา และเขาบินไม่ได้ตามที่กำหนดก็ถือเป็นความผิดอาญาฐานฉ้อโกงซึ่งมีโทษตามกฏหมาย แต่อย่างไรก็ตามมันก็เป็นความผิดที่สามารถยอมความกันได้ ฉนั้นถ้าหากตกลงและเจรจากันได้เรื่องก็จะจบ ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย ส่วนเรื่องดอกเบี้ยนั้นกฏหมายห้ามเรียกเกินร้อยละ 15 ต่อปี นั่นเท่ากับว่า ห้ามเรียกเกินร้อยละ 1.25 ต่อเดือน หากฝ่าฝืนจะตกเป็นโมฆะและมีโทษทางอาญา เมื่อเขาเรียกมาคุณจะไม่จ่ายก็ได้แต่ถ้ายอมจ่ายก็เอาผิดเขาไม่ได้อีก ถ้าถามผมว่าควรทำอย่างไรดี ผมขอแสดงความเห็นทางออกในเรื่องนี้ว่า ในเมื่อมันมีความผิดทางอาญาเกิดขึ้นแล้วผมว่าตรงนี้ควรจะเคลียให้จบก่อนจะดีที่สุดเพราะมันเป็นความผิดที่มีบทลงโทษทางอาญา ซึ่งมันจะส่งผลกระทบถึงเสรีภาพรวมไปถึงการทำมาหากินของคุณ และทีนี้มันก็จะเสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน เผลอ ๆ อาจติดคุกได้ ฉนั้นก็น่าจะไปหาเงินมาเพื่อเจรจาประนีประนอมยอมความกันไปก่อนเพื่อให้ความผิดอาญาที่คุณก่อไว้มันได้ระงับลง ส่วนที่เหลือก็จะเป็นเพียงเรื่องทางแพ่ง(หมายถึงเงินที่ไปกู้ยืมเขามา)ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับเสรีภาพหรือบทลงโทษแต่อย่างใด ก็ค่อย ๆ ผ่อนชำระกับเขาไปครับ หรือจะหาเงินด้วยวิธีอื่นก็ได้ เช่น ขายทรัพย์สินที่คิดว่าไม่จำเป็นตอนนี้และพอจะได้ราคา เป็นต้น น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งนะครับ ก็ลองไปพิจารณาไว้เป็นตัวเลือกก็ได้ครับ เพราะเป็นเพียงการแสดงความเห็นของผมเท่านั้นครับ แต่เรื่องฆ่าตัวตายให้เลิกคิดไปเสียมันเป็นบาปอย่างมหันต์แน่นอนครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-01-19 13:27:02 IP : 115.87.176.212 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3234248) | |
ขอขอบพระคุณมากเลยค่ะที่สละเวลาตอบปัญหาของดิฉัน ดิฉันพยายามเจรจากับลูกค้าแต่ทำยังไงเค้าก้อไม่ยอมท่าเดียวค่ะ ดิฉันพยายามหาทางกู้เงินทุกวิธีก้อไม่ได้ แล้วตัวดิฉันเองก้อไม่มีสินทรัพย์หรือทรัพย์สินอะไรที่พอจะนำไปขายมาจ่ายได้เลยคะ ณ ตอนนี้เรื่องอยู่ที่สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวค่ะ เค้าให้เวลาดิฉันถึงแค่วันอังคารหน้า แล้วตัวลูกค้าเองก้อไม่ยอมท่าเดียวค่ะ ถ้าดิฉันจ้างทนายจะมีทางช่วยเพิ่มขึ้นไหมคะ ดิฉันเองก้อไม่ได้คิดหนี้ไปไหน เรียกร้องมาเท่าไหร่ดิฉันก้อยินยอม เพียงแต่ขอเวลาในการชำระหน่ะคะ ตั้งแต่ทำธุรกิจมาเกือบสิบปี ดิฉันก้อพึ่งมีปัญหาครั้งนี้แหละค่ะ แต่เค้าก้อถึงกับจะยึดใบอนุญาติทันที ดิฉันพอจะมีทางออกทางไหนได้อีกบ้างคะ ดิฉันเองก้อนับถือศาสนาพูทธ และก้อพยายามทำบุญมาโดยตลอด ดิฉันทราบค่ะว่าคิดฆ่าตัวตายเป็นบาปแต่ ณ ตอนนี้ดิฉันท้อแท้มากเลยค่ะ ดิฉันไม่รู้จะหันไปทางไหน มันตันไปหมด ดิฉันกู้หนี้ยืมสินมาตลอดเผื่อพยุงร้านของดิฉันไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ณ วันนี้ดิฉันไม่สามารถหาเงินได้ทันตามที่ลูกค้าต้องการ ถ้าเค้ายึดใบอนุญาติและสั่งปิดกิจการดิฉันเองก้อจะไม่สามารถใช้หนี้ใครใครได้อีก และก้อยังมีลูกค้าอีกจำนวนนึ่งที่ดิฉันจะต้องดูแล เพราะได้ทำการซื้อขายไปแล้วก่อนหน้านี้หน่ะคะ ขอความกรุณาตอบดิฉันด้วยนะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น มณีนุช วันที่ตอบ 2011-01-20 04:54:23 IP : 79.88.97.208 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3234373) | |
หากมิสามารถตกลงกันได้ คดีก็ต้องดำเนินไปตามขั้นตอนของกฏหมายครับ ซึ่งทางเขาเองก็จะต้องเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงินในการดำเนินคดี เมื่อถึงศาลก็จะมีการไกล่เกลี่ยอยู่ดี ทางออกของคดีนี้มันมีอยู่ทางเดียวคือจะต้องเจรจาตกลงกันให้ได้(ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม) มิฉะนั้นก็คงไม่มีทางไหนที่จะทำให้คดีมันระงับลงได้ ก็ลองติดต่อหาทนายเพื่อช่วยเหลือก็ได้ครับ ส่วนถ้าผู้เสียหายยืนกรานไม่ยอมยืดเวลาออกไปจริง ๆ แม้ตนจะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเอาผิดคุณ ก็คงต้องเป็นไปตามนั้นคงทำอะไรไม่ได้อีก หากเขายอมถอยคนละก้าวโดยยืดเวลาชำระออกไปผมมองว่าน่าจะดีกับทั้งสองฝ่าย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-01-20 21:09:16 IP : 58.9.64.26 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3243403) | |
ดิฉันไม่รู้ว่านังมณีนุชคือใคร แต่มันหลอกเงินชาวบ้านในโอนเงินเข้าบัญชีมัน รบกวนกฎหมายช่วยตรวจสอบเลขที่บัญชีนี้ด้วย 4024270487 ชื่อบัญชีมณีนุช ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นเลขที่บัญชีที่มันให้คนอื่นโอนเงินให้มัน
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้หวังดี วันที่ตอบ 2011-04-25 16:59:08 IP : 202.57.180.59 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1089108 |