โดยหลักพื้นฐานในเบื้องต้นแล้ว เมื่อได้มีการก่อหนี้สินขึ้นมานั้น ลูกหนี้ก็มีหน้าที่ที่จะต้องชำระหนี้อันเกิดแต่การที่ตนได้ไปตกลงหรือสัญญากันไว้ และเมื่อลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชำระหนี้ของตนนั้นเจ้าหนี้ก็มีสิทธิทวงถามหรือเตือนมายังลูกหนี้ หรือฟ้องร้องบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นรวมทั้งยังสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดขึ้นจากการไม่ชำระหนี้นั้นได้ ซึ่งนี่มันก็คือหลักเบื้องต้นในเรื่องของหนี้สิน ส่วนใครจะมีสิทธิหน้าที่ของตนอย่างไรได้มากน้อยเพียงใดนั้นก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงและว่ากันอีกทีครับ

ส่วนเรื่องการที่พนักงานทวงถามนั้นมีนิสัยที่แย่นั้นก็เป็นเรื่องของส่วนบุคคลในแต่ละคน (ซึ่งไม่เหมือนกัน) ผมก็ไม่รู้ว่าองค์นั้นจะรับรู้ถึงการกระทำและพฤติกรรมไร้การศึกษานี้หรือไม่ ถ้าไม่รู้ก็ดีไป แต่ถ้ารู้ก็นับได้ว่าเป็นผลสะท้อนถึงองค์กรนั้นเป็นอย่างดี (ผมเดาว่าน่าจะไม่รู้นะ)

ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องของ จขกท. ซึ่งผมอยากจะแนะนำว่าเบื้องต้นลองเข้าไปที่บริษัทและลองทำการประนอมหนี้กันดู ลองคุยและตกลงกันดี ๆ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดแก่ทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องที่พนักงานบริการแย่และหยาบคายนั้นลองแจ้งไปยังผู้บริหารดูเผื่อจะช่วยให้อะไร ๆ ดีขึ้นก็ได้ครับ และถ้าทำการตกลงกันมิได้สุดท้ายก็คงต้องไปให้ศาลท่านเป็นผู้ตัดสินล่ะครับว่าแต่ละฝ่ายควรปฏิบัติเช่นไร ซึ่งผมอยากให้ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในกรณีที่ไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งผมเชื่อว่าไม่มีฝ่ายไหนอยากให้เกิดมีขึ้นขึ้นเพราะนอกจากจะเสียเวลานานแล้วยังต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ (ซึ่งไม่รู้ว่าจะคุ้มไหม) อีกด้วย ฝ่ายเจ้าหนี้ถึงพยายามทวงแบบสุดฤทธิ์สุดเดชนั่นเอง ในส่วนตัวผมเองก็ไม่เคยไปผูกผันใด ๆ กับสินเชื่อพวกนี้หรอกนะครับแต่ก็อยากเป็นกำลังใจให้ จขกท. พบเจอทางออกที่ดีที่สุดในเร็ววันครับ ... ขอบคุณครับ