1-2-3. การกู้ยืมไม่หลักฐานการกู้ยืม คงฟ้องร้องเรียกเงินคืนไม่ได้...

4.  ที่บอก ว่า เซ็นชื่อไว้  ไม่ทราบทำหนังสือไว้ในลักษณะใด  ถ้าเข้าข่ายหลักฐานการกู้ยืม หรือหนังสือรับสภาพหนี้  ก็ใช้ฟ้องร้องได้

-การเข้าไปอยู่ในบ้านของลูกหนี้   โดยพลการย่อมมีความผิดแน่นอน... ทั้งบุกรุก  ทำให้เสียทรัพย์  หรือลักทรัพย์แล้วแต่กรณี....และข้าวของในบ้านถ้านำไปขาย ก็มีความผิดฐานลักทรัพย์......ถ้ามีหลักฐานการกู้ยืม   หรือหนังสือรับสภาพหนี้  ก็ต้องไปฟ้องร้องก่อน   และขอให้มีการบังคับคดี   เจ้าพนักงานบังคับคดี  จึงจะยึดบ้านหรือทรัพย์สินอื่นๆของลูกหนี้  มาขายใช้หนี้ได้.....ถ้าทำข้ามขั้นตอนเช่นคุณ   ก็ไม่ต่างจากโจรหรือขโมย ที่ปล้นชิงเอา    บ้านเมืองคงลุกเป็นไฟแน่นอน.....

หนังสือทำลักษณะนี้ครับ(ทำในสมุดบัญชี)

บียืมเงินพี่เอไป

1.  100000บาท 2/09/48

2.  20000บาท 9/05/49

3. 35000บาท 25/09/51

4.300000บาท 16/0752

ลงชือ บี ผู้กู้

(โดยครั้งที่1-3เป็นการโอนผ่านเอทีเอ็มและครั้งที่4ลูกหนี้มารับเงินเองและเห็นยอดเงินที่ยืมตาม1-3และเซ็นชื่อไว้ในครั้งที่4ครับ)

-ก็เข้าข่ายหนังสือรับสภาพความผิด  คงใช้ฟ้องเรียกเงินคืนได้ภายในอายุความ  2  ปี  นับแต่วันทำหนังสือ......แต่ถ้าไปเจอลูกหนี้เจ้าปัญหา    ก็อาจต่อสู้ว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของเขา    อาจทำให้คุณปวดหัวพอสมควรครับ

-ก็เข้าข่ายหนังสือรับสภาพความผิด  คงใช้ฟ้องเรียกเงินคืนได้ภายในอายุความ  2  ปี  นับแต่วันทำหนังสือ......แต่ถ้าไปเจอลูกหนี้เจ้าปัญหา    ก็อาจต่อสู้ว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของเขา    อาจทำให้คุณปวดหัวพอสมควรครับ