เท่าที่ผมประสบกับเหตุการณ์นี้มา ท้ายสุดแล้ว ก็ต้องชำระหนี้ให้เขาไปครับ

ประมวลกฏหมายเเพ่งและพาณิชย์ มาตรา680 อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาที่บุคคลภายนอกคนหนึ่ง(ในที่นี้ คือคุณ) เรียกว่าผู้ค้ำประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่ง (ในที่นี้คือธนาคารกรุงไทย) เพื่อชำระหนี้ ในเมื่อลูกหนี้(น้องคนหนึ่ง ตามที่คุณเรียก) ไม่ชำระหนี้นั้น

ตอนนี้ถึงเวลาที่น้องคนนั้นไม่ชำระหนี้แล้ว ดังนั้นคุณจึงต้องชำระหนี้ให้ธนาคารเเทนเขา ตามสัญญาที่คุณลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าธนาคาร

อย่าเสียใจไปเลย คุณมีเพื่อนร่วมชะตากรรม เช่นนี้มากมาย รวมผมด้วย ซึ่งโดนไปสองครั้ง เเสนกว่าบาทครับ

 เจ้าหนี้มีสิทธิจะเรียกให้ลูกหนี้หรือผู้ค้ำจะชำระหนี้ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าจะเรียกกับฝ่ายใด แต่

เมื่อเจ้าหนี้ทวงให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ผู้ค้ำประกันจะขอให้เรียกลูกหนี้ชำระก่อนก็ได้ เว้นแต่ลูดหนี้จะถูกศาลพิพากษาให้เป็นคนล้มละลาย หรือไม่ปรากฏว่าไปอยู่แห่งใดในพระราชอาณาเขต ตาม ปพพ.ม.688

ถึงแม้จะได้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดังกล่าวมาในมาตราก่อนแล้วก็ตาม ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้นั้นมีทางที่จะชำระหนี้ได้ และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน ตาม ปพพ.ม.689

หรือ

ผู้ค้ำประกันซึ่งได้ชำระหนี้แล้ว ย่อมมีสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้ เพื่อเงินต้นกับดอกเบี้ยและเพื่อการที่ต้องสูญหายหรือเสียหายไปอย่างใด ๆ เพราะการค้ำประกันนั้น ตามปพพม.693 และสามารถเข้ารับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้บรรดาที่มีอยู่เหนือลูกหนี้ด้วยตาม วรรค2