ReadyPlanet.com


การปลูกบ้าน


ผมมีปัญาสงสัยดังนี้ นาง ก. และ นาง ข. เป็นบุตรของ นาง A  ต่อมาได้ยกที่ดินแปลงหนึ่งพร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินแห่งนั้นให้กับ นาง ข. ต่อมา นาง ก. ซึ่งเป็นพี่สาวได้ปลูกบ้่านหลังใหม่ในที่ดินแปลงดังกล่าว โดยได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหลังเดิม ทั้งนี้ไม่ได้มีการแจ้งรื้อถอนหลังเก่าและขออนุญาตปลูกสร้างหลังใหม่แต่อย่างไร ต่อมา นาง ก. และ นาง ข. มีปัญหากัน นาง ก. จะดำเนินการฟ้องร้องยึดที่ดินแปลงดังกล่าวโดยอ้างลักษณะการครอบครองปรปักษ์ เนื่องจากบ้านหลังใหม่ นาง ก. เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง แต่บ้านหลังที่ปลูกใหม่นั้น ทั้ง นาง ก. และ นาง ข. ก็อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นเหมือนกัน ผมขอถามดังนี้

๑. นาง ก. จะดำเนินการฟ้องร้องครอบครองปรปักษ์ในลักษณะดังกล่าวได้หรือไม่

๒. ถ้านาง ก. ไม่สามารถฟ้องร้องดังกล่าว นาง ข. จะสามารถดำเนินการฟ้องยึดบ้านหลังใหม่เป็นของตนเองได้หรือไม่ เนื่องจากบ้านหลังเดิมไม่มีการแจ้งรื้อถอน และหลังใหม่ไม่มีการขออนุญาตปลูกสร้าง และในโฉนดที่ นาง  A ระบุไว้คือ มอบที่ดินแปลงดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้าง

๓. ในกรณีดังกล่าวถ้าฟ้องร้องในมีน้ำหนักที่จะชนะคดีความ



ผู้ตั้งกระทู้ เด็กช่างสงสัย (ืnavysatcom-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-02-15 15:19:19 IP : 203.130.141.227


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3154907)

1.  คงอ้างการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ไม่ได้   แม้จะอาศัยอยู่เกิน  10  ปี เพราะ  ข.  เจ้าของก็อาศัยอยู่บนที่ดินผืนนี้ด้วย

2. บ้านหลังใหม่คงเป็นกรรมสิทธิ์  ของ  ก.   เพราะน่าจะรื้อถอนหลังเก่าออกไปและสร้างใหม่โดยสุจริต   ข.เจ้าของที่ดินก็อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่โดยไม่โต้แย้ง......แต่  ก.   ต้องใช้ราคาที่ดินที่ใช้ปลูกบ้าน  และจดทะบียนเป็นภารจำยอม  เมื่อบ้านล่มสลายไปในอนาคต    ข.  สามารถให้เพิกถอนการจดทะเบียนภารจำยอมได้

3. เรื่องแพ้ชนะ  อย่าให้ตอบเลย  เพราะเป็นอำนาจของศาล    แต่ข้อคิดเห็นนี้ว่าไปตามหลักการของกฎหมาย ไม่ใช่ความเห็นส่วนตัว..

-ข้อคิด    ความเป็นพี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน   อย่าได้คิดมีคดีฟ้องร้องขึ้นสู่ศาล   เพราะคงถูกยุยงให้มีคดีความบานปลายใหญ่โต    โดยถูกหลอกว่าจะเป็นผู้ชนะ..ซึ่งสุดท้ายคดีมักจบลงด้วยการประนีประนอมยอมความกัน  หลังจากต้องเสียเงินทองไปมากมาย  หลายรายต้องหมดตัว เพราะโหยหาคำว่าฉันต้องชนะ  ทั้งที่ความจริงคือพ่ายแพ้ยับเยินทั้งคู่.......ก็ควรใช้การประนีประนอมกันเองฉันพี่น้อง ยอมลดราวาศอกกันบ้าง  เรื่องคงยุติได้   ทรัพย์สมบัติเป็นของนอกกาย  ตายไปก็เอาไปไม่ได้อยู่ดี  ต้องเปลี่ยนมือผู้ถือครองไปเรื่อยๆ  สังเกตดูรอบๆข้างก็คงพอทราบได้ว่า   ไม่มีใครถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินใดๆเกินกว่า  50  ปีแน่นอน  เพราะแก่ตายก่อน......ด้วยความปรารถนาดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2010-02-16 09:44:36 IP : 125.26.113.96



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.