[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
อยากทราบรายละเอียดของ ป.อาญา มาตรา 142 | |
กรณีตัวอย่าง ของ มาตรา 142 | |
ผู้ตั้งกระทู้ นิด้า :: วันที่ลงประกาศ 2016-03-25 11:15:11 IP : 110.164.170.1 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3970152) | |||||||
ปอ. ม.142 มาตรา 142 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่ง “ทรัพย์สินหรือเอกสาร” ใด ๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่ง เพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรy[ องค์ประกอบภายนอก 1. ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ 2. ทรัพย์สินหรือเอกสาร ใด ๆ 3. อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่ง เพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ องค์ประกอบภายใน -เจตนา แนวคำพิพากษาศาลฎีกา ตาม ปอ. ม.142
กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 122, 290
ป.อ. มาตรา 142
ป.วิ.อ. มาตรา 192
ความผิดฐานลักทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัดไปตามกฎหมายลักษณะอาญาร.ศ.127 มาตรา 290 นั้น หาได้ถูกประมวลกฎหมายอาญายกเลิกไปโดยสิ้นเชิงไม่ แม้ความผิดฐานลักทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดจะไม่มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา แต่การเอาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดรักษาไว้ไปโดยทุจริต ก็คงยังเป็นความผิดตามมาตรา 142 ประมวลกฎหมายอาญาอยู่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2503)
________________________________
โจทก์ฟ้องว่าเจ้าพนักงานไปทำการจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยช้างพัง 1 เชือกเป็นของกลางในข้อหาสมคบกันมีช้างไว้ในครอบครองโดยไม่ได้จดทะเบียนและฐานรับของโจร ในระหว่างควบคุมจำเลยและนำช้างที่ถูกเจ้าพนักงานยึดไว้เพื่อส่งพนักงานสอบสวน จำเลยได้บังอาจสมคบกันลักเอาช้างนั้นไป ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 290, 293, 294, 296 จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทั้งสองได้เจตนาทุจริตสมคบกันเอาช้างของกลางไปเสียจากเจ้าพนักงานจริงดังฟ้องแต่จะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ที่ถูกยึดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 290 ไม่ได้ เพราะถูกยกเลิกไปแล้ว จึงพิพากษายกฟ้องในข้อหาฐานลักทรัพย์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 142 แห่งประมวลกฎหมายอาญา จำคุกฐานลักทรัพย์ที่ยึดมีกำหนด 1 ปี จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดฐานลักทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัดไปนั้น เดิมมีบัญญัติไว้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 290 แต่หาได้มีบัญญัติไว้ในหมวด 1 ลักษณะ 12 แห่งประมวลกฎหมายอาญาในความผิดฐานลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์ไม่คงมีบัญญัติไว้ในมาตรา 142 ซึ่งอยู่ในหมวด 1 ลักษณะ 2 อันเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงาน ปัญหาจึงมีว่าตามฟ้องของโจทก์นั้น จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 142 ประมวลกฎหมายอาญาได้หรือไม่ ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่แล้ว เห็นว่าในข้อหาว่าจำเลยเอาช้างรายนี้ไปเสียจากผู้เสียหายนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองลักทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดมาเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและเพื่อโฆษณาหาเจ้าของตามกฎหมาย ฟ้องของโจทก์จึงไม่ใช่เป็นการกล่าวอ้างถึงความผิดฐานลักทรัพย์แต่อย่างเดียว แต่โจทก์ได้บรรยายข้อความไว้ด้วยว่า จำเลยได้เอาไปเสียซึ่งทรัพย์เจ้าพนักงานได้ยึดรักษาไว้อันเป็นความผิดตามมาตรา 142 ประมวลกฎหมายอาญานั่นเอง ความผิดฐานลักทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัดไปตามมาตรา 290 แห่งกฎหมายลักษณะอาญานั้น หาได้ถูกประมวลกฎหมายอาญายกเลิกไปโดยสิ้นเชิงไม่ แม้ความผิดฐานลักทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดจะไม่มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา แต่การเอาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดรักษาไว้ไปเสียโดยทุจริต ยังเป็นความผิดตามมาตรา 142 ประมวลกฎหมายอาญาอยู่ เมื่อการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเป็นความผิดตามมาตรา 142 ประมวลกฎหมายอาญาแล้ว จำเลยก็ย่อมมีความผิดและถูกลงโทษตามมาตรา142 นี้ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว พิพากษายืน | |||||||
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2016-03-25 13:09:03 IP : 101.51.176.204 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088641 |