[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
แม่ผมถูกไล่ที่จากญาติทั้งที่อยู่มา 40 ปี ทำไงดีครับช่วยบอกผมที | |
ผมไม่รู้จะเริ่มต้นปรึกษาใครดี นั่งทำงานอยู่เลยลองsearch ในเน็ต ผมขอรวบกวนทีนะครับ แม่ผมแต่งงานกับพ่อ อยู่ร่วมกันราว 40 ปี มีทะเบียนสมรสครับ ที่ดินปัจจุบันมีบ้านทีพ่อกับแม่สร้างไว้ตั้งแต่ผมเกิด ประมาณ 30 ปีกว่าๆ พอพ่อผมเสียชีวิตลง มีลุงผม(พี่ชายพ่อ) จะมายึดบ้านและที่ดินที่ผมกับแม่อยู่ วันนั้นเอาผู้ใหญ่บ้านมาฟังด้วย ซึ่งลุงไม่อยู่อำเภออื่นตั้งแต่ผมเกิด เค้าบอกว่าเป็นมรดกของปู่ แม่ก้อเลยขออยู่แค่บ้านที่ปลูกไว้ ปัจจุบันโฉนดอยู่กับแม่ผมทั้ง 3 ใบ และที่ๆแม่ผมอยู่ ไม่มีญาติคนใดที่เป็นพี่น้องของพ่อมาอยู่เลย ตลอดเวลา 40 ปี และแม่ผมทำกินมาโดยตลอดมีบ้าน มีต้นไม้ โรงสีข้าว ฉางข้าว +ที่นา ซึ่งทำมานานประมาณ 40 ปี แต่ลุงกับป้าบอกให้ออกไปและจะเอาที่ดินมาสร้างบ้านแทนบอกว่าเป็นมรดกปู่ แบ่งที่ให้แม่แค่ที่ที่บ้านแม่ปลูกอยู่ ผมอยากถามว่า 3. ถ้าได้ แม่ต้องทำยังบ้างครับ 4.ลุงที่จะมาปักหลักเขตใหม่ เขามีสิทธิ์เท่ากับพ่อผม หรือเปล่าคครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ molar (molar_ss-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-03-13 01:30:52 IP : 192.168.2.36 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3239833) | |
1.การที่พ่อถูกขีดชื่อออกก็ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ก็ไปติดต่อที่สำนักงานที่ดิน เพื่อขอตรวจสอบดูว่า พ่อยังเป็นเจ้าของร่วมกับปู่ หรือปู่เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่คงตอบให้ได้ครับ......ถ้าพ่อยังเป็นเจ้าของร่วมกับปู่ด้วย พ่อย่อมมีกรรมสิทธิ์ครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะตกทอดไปยังทายาท ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง พ่อก็สิทธิขอแบ่งอีกหนึ่งส่วนในฐานะทายาท ซึ่งก็คงตกทอดแก่ทายาทได้รับแทนที่เช่นกัน 2-3 การครอบครองที่ดินผู้อื่น โดยสงบ โดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ เป็นเวลา สิบปี ย่อมอ้างการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ได้ ต้องร้องศาล เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิการครอบครองปรปักษ์ เพื่อแก้ไขชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิม มาเป็นชื่อของคุณแม่ของคุณ ถ้าไม่ร้องศาลเพื่อเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน การได้สิทธิครอบครองปรปักษ์ ย่อมไม่สมบูรณ์ คือย่อมถูกโต้แย้งสิทธิจากทายาทอื่นๆได้เสมอ คงต้องมีทนายความช่วยเหลือครับ 4. ในเมื่อโฉนดที่ดินมีชื่อปู่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ลุงในฐานะทายาท ย่อมอ้างสิทธิ เพื่อขอแบ่งที่ดินของปู่ได้ และคุณพ่อของคุณก็มีสิทธิได้รับหนึ่งส่วนเช่นกัน ในเมื่อพ่อเสียชีวิต มรดกส่วนนี้ คุณก็มีสิทธิรับมรดกแทนที่ครับ......การที่แม่ปลูกบ้านบนที่ดิน และครอบครองที่ดินอยู่ ย่อมได้เปรียบ การที่ลุงจะมาจัดการปักหลักแบ่งเขตใหม่ คุณแม่ของคุณสามารถคัดไว้ได้เสมอ เพราะคุณแม่ของคุณ อยู่บนที่ดินโดยอาศัยสิทธิในฐานะที่พ่อเป็นทายาทของปู่คนหนึ่ง และแม่ย่อมอ้างการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ได้......เมื่อมีการรังวัดต้องคัดค้าน โดยแจ้งต่อเจ้าพนักที่ดินถึงสิทธิที่พึงมี ต้องคัดค้านเป็นหนังสือยื่นต่อเจ้าพนักทีดิน เพื่อป้องกันการลักไก่ ถือโอกาสแบ่งปันที่ดินไป โดยที่คุณแม่ไม่ทราบเรื่อง ในทางปฏิบัติการรังวัดที่ดิน เมื่อมีผู้คัดค้าน เจ้าพนักงาน เขาคงไม่เสี่ยงไปดำเนินการให้ ก็คงแนะนำให้ไปฟ้องศาลก่อน เขามักจะดำเนินการตามสิทธิที่ศาลสั่งเท่านั้นครับ.....ถ้าลุงเข้ามาวุ่นวาย หรือรบกวนสิทธิการครอบครอง จนเกินความจำเป็น ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุกได้ ซึ่งถ้ามีการแจ้งความดำเนินคดี ก็คงลดความฮึกเหิมอยากได้ที่ดินลงบ้าง......คุณแม่ของคุณก็อยู่เฉยไปก่อน ให้ลุงเขาไปฟ้องร้องเอง คุณแม่ค่อยให้การต่อสู้อ้างสิทธิในฐานะที่พ่อเป็นทายาทคนหนึ่ง หรืออ้างการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ คงจำเป็นต้องหาทนายความที่ไว้วางใจได้ช่วยเหลือ แต่...สุดยอดของการยุติปัญหาคือ การเจรจาไกล่เกลี่ยกัน เพื่อแบ่งปันมรดก โดยไม่ต้องมีการฟ้องศาล ควรหาคนกลางที่เป็นธรรม และรู้กฎหมายเป็นอย่างดีช่วยเหลือ ถ้าสามารถใช้ช่องทางนี้ได้ จะลดความสูญเสียและลดความบาดหมางใจกันในหมู่ญาติพี่น้องลงได้ครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น sa วันที่ตอบ 2011-03-13 05:10:02 IP : 125.26.107.251 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3239834) | |
1. ผมไม่แน่ใจว่าการที่ชื่อพ่อคุณถูกขีดทับออกไปนั้นมันหมายความว่าอย่างไร แล้วใครเป็นคนขีด หากว่าเป็นการขีดออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเป็นคนขีดก็อาจจะจะสันนิษฐานได้ว่ากรรมสิทธ์ในที่ดินนั้นเป็นของปู่คุณแต่เพียงผู้เดียว ตรงส่วนนี้รอคอมเมนท์จากท่านอื่นดูอีกทีนะครับ ถ้าที่ดินทั้ง 2 แปลงเป็นของปู่แต่เพียงผู้เดียว และเมื่อปู่เสียชีวิตลงที่ดินนั้นก็ย่อมเป็นทรัพย์มรดกที่จะตกทอดไปยังทายาทได้ ซึ่งหมายรวมถึงพ่อคุณหรือลุงคุณซึ่งเป็นบุตรที่เป็นทายาทลำดับชั้นที่ 1 ด้วย ส่วนที่ดินแปลงที่มีชื่อพ่อคุณคนเดียวนั้นลุงคุณจะไม่มีสิทธิ์ครับเพราะเป็นกรรมสิทธิ์ของพ่อคุณแต่เพียงผู้เดียว 2. การจะครอบครองปรปักษ์ได้นั้นจะต้องอยู่ในที่ดินของผู้อื่น โดยความสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ กล่าวคือถ้าที่ดินแปลงที่แม่คุณอยู่เป็นของปู่ และแม่คุณอยู่อาศัยและทำกินมาบนที่ดินแปลงนั้นมาโดยตลอดติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปีก็อาจได้กรรมสิ่ทธิ์ตามกฏหมายครับ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องที่อยู่โดยได้รับอนุญาตจากปู่นะครับ เพราะมันจะขาดองค์ประกอบเจตนาที่จะยืดถือเพื่อเป็นเจ้าของไปครับ เพราะกรณีนี้มันเป็นที่ดินของปู่คุณซึ่งเป็นพ่อของสามีเองหาได้เป็นของบุคคลภายนอกไม่ซึ่งผมมองว่ามันไม่น่าจะครบองค์ประกอบของการครอบครองปรปักษ์ แต่ถ้าข้อเท็จจริงเปลี่ยนไปว่าที่ดินแปลงที่แม่คุณอยู่นั้นมีกรรมสิทธิ์ของพ่อคุณรวมอยู่ด้วยก็จะไม่มีทางได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ครับ เพราะพ่อคุณพึ่งเสียชีวิตได้ไม่ถึงปี 3. ถ้าหากครบองค์ประกอบของการครอบครองปรปักษ์ แม่คุณก็ต้องไปร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งแสดงว่าแม่คุณมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นโดยการครอบครองปรปักษ์ เพื่อไปจดทะเบียนเป็นเจ้าของในที่ดินนั้นต่อไปครับ 4. บุตรถือเป็นทายาทลำดับชั้นที่ 1 ซึ่งหากมีหลายคนก็จะต้องแบ่งตามส่วนที่เท่า ๆ กันครับ เพราะถือว่าเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกในลำดับชั้นเดียวกัน ดังนั้นพ่อคุณกับลุงคุณจึงมีสิทธิในส่วนของที่ดินแปลงนั้นที่เท่าเทียมกันตามกฏหมายครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-03-13 05:41:52 IP : 58.9.106.219 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3239868) | |
ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวผมจะไปถาม เจ้าพนักงานที่ดิน พร้อมหมายศาลประมาณ 5-6 ฉบับที่บอกให้พ่อไปโอนแบ่งแยกที่ดินตั้งแต่ปี 2543 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น molar วันที่ตอบ 2011-03-13 16:41:05 IP : 192.168.2.36 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3239869) | |
และ...เล่าต่อนิดนึงครับ คุณปู่มีลูก 8 คน อีก 6 คน ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีใครอยากได้เพราะทุกคนมีที่มรดกของปู่อยู่แล้ว แต่ ป้าเอาเงินให้ลุง(ลูกคนโตของปู่) 25,000 บาท (ผมทราบมาทีหลังว่าป้าจ้างลุงมาพูดเพราะป้าอยากได้ที่ดิน) ทั้งที่ป้าและลุงอยู่อีกคนละจังหวัด ส่วนลูกปู่อีก 6 คน อยู่ หมู่บ้านเดียวกันกับผม ไม่มีปัญหาอะไร ) เคยคุยกันแล้วครั้งนึงผมเสนอว่าควรแบ่ง 8 ส่วน ที่ดินมีแค่ 1 ไร่ กว่าเองครับอีกแปลงที่เป็นชื่อพ่อคนเดียวก็อยู่ติดกันรวมกันเป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้าพอดี คุณ pup ครับ มันไม่น่าจะครบองค์ประกอบของการครอบครองปรปักษ์ ช่วยอธิบายขยายความ ดูแล้วงง ครับ ถ้าไม่ใช่ แม่ ผมแล้ว ตัวผมร้องศาลแทนแม่ได้มั้ยครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น molar วันที่ตอบ 2011-03-13 16:52:24 IP : 192.168.2.36 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3239879) | |
อ๋อ ที่ผมบอกว่าไม่น่าจะครบองค์ประกอบนั้นหมายถึงว่า การที่จะได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์นั้นมันจะต้องครบองค์ประกอบทั้งหมดตามที่กฏหมายกำหนดไว้ครับ(ตามที่ได้กล่าวไว้ด้านบน) ซึ่งกรณีของคุณผมคิดว่ามันน่าจะเป็นการปลูกบ้านหรืออาศัยอยู่โดยได้รับอนุญาตหรือมีสิทธิ์อยู่บนที่ดินของปู่ได้ โดยที่มิได้มีเจตนาที่จะแย่งการครอบครองด้วยเจตนาที่จะให้ตนเองได้เป็นเจ้าของมาตั้งแต่แรกไงครับ ซึ่งการที่เจ้าของที่ดินยินยอมให้คนอื่นเข้าไปใช้สอยหรือใช้ประโยชน์ในที่ดินของตนนั้นมันไม่ถือว่าเป็นการแย่งการครอบครองครับ หากแต่เข้าไปอยู่โดยได้รับความยินยอมพร้อมใจของเจ้าของที่ดินต่างหาก ดังนั้นมันจึงไม่เข้าองค์ประกอบที่ว่าแม่ของคุณครอบครองที่ดินของปู่ด้วยเจตนาที่จะเป็นเจ้าของครับ ไม่ว่าจะอยู่หรือครอบครองนานเพียงใดก็ตามก็ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินครับ ซึ่งรวมถึงสมาชิกในครอบครัวทุกคนในบ้านด้วยถ้าคนหนึ่งคนใดได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่หรือใช้ประโยชน์ในที่ดินได้คนที่เหลือก็จะยกการครอบครองปรปักษ์มาต่อสู้มิได้เช่นกันครับเพราะถือว่าเป็นการขออนุญาตหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินแล้ว อันนี้เป็นกรณีที่ที่ดินเป็นของปู่คุณแต่เพียงผู้เดียวนะครับ เพราะจากข้อเท็จจริงที่ให้มานั้นมันยังไม่แน่ชัดในรายละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของที่ดินทั้ง 2 แปลงที่มีปัญหาอยู่บ้าง ส่วนแปลงที่มีชื่อพ่อคุณคนเดียวคงไม่มีปัญหาครับเพราะมันชัดเจนอยู่แล้วว่ากรรมสิทธิ์เป็นของพ่อคุณคนเดียวและซึ่งเมื่อพ่อคุณเสียชีวิตลงที่ดินแปลงนั้นก็ย่อมเป็นทรัพย์มรดกที่จะตกทอดถึงคุณซึ่งเป็นบุตรและเป็นทายาทลำดับชั้นที่ 1 ครับ ฉนั้นอันแรกที่คุณควรหาข้อยุติก่อนคือจะต้องรู้ให้ได้ว่าสองแปลงที่มีปัญหาอยู่นั้นใครเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ตามกฏหมายบ้าง จึงจะหาข้อสรุปต่อไปได้ครับผม | |
ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-03-13 18:18:05 IP : 58.9.248.159 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3239929) | |
ขอบพระคุณมากครับ คุณpup | |
ผู้แสดงความคิดเห็น molar วันที่ตอบ 2011-03-14 10:06:14 IP : 192.168.2.44 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3277582) | |
*ขอบคุณมากน่ะค่ะ ถ้าจะกรุณา* | |
ผู้แสดงความคิดเห็น toon วันที่ตอบ 2012-02-21 18:46:26 IP : 115.67.128.39 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088632 |