เรื่องเกิดประมาณกรกฏา 2552 ดิชั้นกับนาย ก. ได้ตกลงกันว่าจะดาวน์รถออกมาเพื่อที่จะนำไปขายต่อ แล้วแบ่งเงินกัน โดยดิฉันจะได้ 70% แต่เมื่อเอารถออกมาแล้ว นาย ก. ขอเพิ่ม ดิฉันคิดว่ามันไม่คุ้มเลยบอกให้นาย ก. ไปจัดการเอง ดิฉันไม่ขอยุ่งเรื่องรถแล้ว โดยตอนดาวน์รถออกมา นาย ก. ได้เป็นคนหาเงินค่าดาวน์รถมา แต่ว่าใช้ชื่อดิฉันเป็นผู้ซื้อ คนค้ำก็คือลุงของนาย ก. หลังจากนั้นด้วยความไว้ใจที่บอกยกให้นาย ก.ไปจัดการเอง โดยนาย ก. บอกว่าเค้าจะเป็นคนรับภาระผ่อนค่างวดเอง ดิฉันก็ไปทำงานที่ต่างจังหวัดประมาณ 2-3 เดือน แต่ตอนนั้นก็โทรมาถามนาย ก. ตลอดว่าได้ส่งค่างวดไหม เค้าก็บอกว่าส่ง แต่แฟนดิฉันโทรมาบอกว่า มีคนจากไฟแนนซ์มาตาม เพราะไม่ได้ส่งค่างวดเลย จนล่วงเวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้ ตอนปีใหม่ดิชั้นกลับบ้านไป และได้ซักถามนาย ก. เค้าก็บ่ายเบี่ยงอ้างไปเรื่อยจนในที่สุดเค้าก็ยอมรับว่า เค้าเอารถไปจำนำไว้ที่ต่างจังหวัดเป็นเงิน 60000 บาท และยังไม่ได้ส่งค่างวดเลย คนที่เดือดร้อนคือดิชั้นเพราะชื่อคนซื้อคือดิชั้นเอง ตอนนี้ติดเครดิตบูโร และรถก็ไม่ได้ใช้ สอบถามไปทางนาย ก. เพื่อที่จะเอารถกลับมา เค้าก็ยังบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย (ไม่รู้ว่าเอาไปขายแล้วรึป่าว) ตอนนี้ได้แจ้งความไว้แล้ว เลยอยากจะขอคำปรึกษาค่ะ เพราะตอนนี้ดูเหมือนทางดิฉันเสียเปรียบมาก (จากที่คุณตำรวจบอกมา) แล้วดิฉันจะทำอย่างไรได้บ้างคะ สรุปแล้วดิฉันต้องผ่อนกุญแจรถรึป่าว ทางตำรวจบอกว่าได้แค่คดีแพ่ง งั้นตอนนี้เค้าก็สบายเลยสิคะ รบกวนด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ