ReadyPlanet.com


ขับรถโดยประมาท


วันที่ 10 ส.ค. เวลาประมาณ 06.50 น. ดิฉันขับรถยนต์กลับบ้านหลังจากไปส่งลูกสาวที่ โรงเรียน  ก่อนถึงสี่แยกหน้าสำนักงาน อบจ.ปทุมธานี ประมาณ 100 เมตร ดิฉันได้เปลี่ยนทางเดินรถโดยขับรถเข้าช่องทางเดินรถเลนขวามือ (ถนนมี 2 เลน ขณะนั้นถนนว่างมาก มีรถปิคอัพวิ่งอยู่เลนซ้ายมือข้างหน้ารถดิฉันเพียงคันเดียว ซึ่งดิฉันจำระยะห่างไม่ได้)  เมื่อขับผ่านสี่แยก (ไม่มีไฟแดง) ไปประมาณ  60 เมตร ซ้ายมือดิฉัน เห็นชายผู้หนึ่งเดินข้ามถนนตัดหน้ารถปิคอัพคันข้างหน้าของดิฉัน (มองเห็นหลังจากที่ชายคนนั้นเดิมมาหยุดอยู่กลางเส้นแบ่งเลนแล้ว เพราะช่วงแรกคิดว่ารถปิคอัพบังอยู่ ลักษณะเหมือนโผล่มา)  ซึ่งขณะนั้นรถของดิฉันกับรถปิคอัพคันข้างหน้า (ปิคอัพอยู่เลนซ้าย รถดิฉันอยู่เลนขวา) มีระยะห่างกันเล็กน้อย  ดิฉันเห็นชายผู้นั้นหยุดอยู่ตรงเส้นกลาง จึงได้บีบแตรรถติด ๆ กันให้ 2 ครั้ง ไม่สามารถเบรกรถได้ทัน และหักหลบไม่ได้ เนื่องจากถ้าหักหลบไปซ้ายจะชนชายผู้นั้นตรง ๆ หน้า ถ้าหักหลบไปทางขวาจะปีนขึ้นเกาะกลางถนน  และดิฉันคิดว่าชายผู้นั้นคงไม่ข้าม เนื่องจากระยะกระชั้นมาก  เมื่อขับผ่านชายผู้นั้นได้เล็กน้อย ชายผู้นั้นก็ได้เซล้มฟาดเข้ามาหารถยนต์ของดิฉัน โดยที่ไม่สามารถจะหักหลบได้ทัน เป็นเหตุให้ศีรษะของชายผู้นั้นกระแทกเข้ากับขอบกระจกและแก้มรถด้านซ้ายอย่างแรง  ก่อนจะกระเด็นกลิ้งล้มลง ดิฉันจึงได้ชะลอความเร็วรถและนำเข้าจอดริมถนนซ้ายมือ แล้วถอยรถมาดูคนเจ็บ  มีคนวิ่งมาหาดิฉันและบอกให้ดิฉันนำคนเจ็บส่ง รพ. หลังจากนั้น ดิฉันสำรวจความเสียหายของรถพบว่า แก้มซ้าย(ใต้ไฟหน้า) ยุบ เสาเก๋งซ้ายยุบ ประดูเปิดไม่ได้ กันชนหน้าซึ่งเป็นพลาสติกแข็งตรงใต้ไฟหน้าซ้ายแตกนิดน้อย  ดิฉันมีข้อมูลเพิ่มเติม และมีข้อสงสัยดังนี้ค่ะ

1.  คนเจ็บอายุ 55 เป็น รปภ. คาดว่าเมา (แต่ยังไม่ได้ดูผลตรวจเลือด)

2. การเคลื่อนย้ายคนเจ็บทำให้กระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด แรงเฉี่ยวของรถ ทำให้เลือดคลั่งในสมอง แพทย์ได้ผ่าตัดเอาเลือดคลั่งออก และเจาะปอด

3.  แพทย์แจ้งลูกสาวคนเจ็บว่าคนเจ็บอาจเป็นอัมพฤก พูดไม่ได้ เส้นเลือดแตกหลายเส้น(ประวัติคนเจ็บ เคยโดนรถชนมาก่อนแต่ไม่ได้ถามว่ารุนแรงแค่ไหน แต่คิดว่าไม่รุนแรง  เพราะออกมาประกอบอาชีพได้ ลูกสาวบอกแพทย์ว่าพ่อดื่มสุราบ่อย แต่ไม่ทุกวัน  ทานยาแก้ปวดทัมใจเป็นประจำ) ขณะนี้ร่างกายข้างขวาอ่อนแรง เคลื่อนไหวไม่ได้

คำถามค่ะ

4. ลูกสาวคนเจ็บเรียกเงินค่าสินไหมจากดิฉัน 130,000 บาท และบอกว่าจะไม่เอาความใดอีก (โดยไปทำบันทึกที่สถานีตำรวจ)  แม้นว่าภายหลังพ่อเขาจะเสีย หรือเป็นอัมพฤกก็ตาม อยากทราบว่าเงินจำนวนนี้สูงไปหรือว่าเหมาะสมแล้ว

5.  ดิฉันคิดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่ใช่ความผิดของดิฉันคนเดียว จึงขอให้ลูกสาวเขาลดจำนวนเงินลง  แต่เขาไม่ยอม ดิฉันจะจึงคิดว่าจะปล่อยให้ฟ้องศาลเอาดีหรือไม่

6.  หากขึ้นศาล ดิฉันจะมีความผิด หรือได้รับโทษ ใดบ้าง คิดว่าศาลจะตัดสินว่าประมาทร่วมหรือไม่ค่ะ

7.  หากตกลงยอมความกันเอง  ควรจ่ายเงินเท่าใด จึงจะเหมาะสม

ร้อนใจมากค่ะ ดิฉันเป็นข้าราชการ พึ่งบรรจุใหม่ เงินเดือนแค่ 7,070 เท่านั้น แยกกันอยู่กับสามี (สามีมีภรรยาใหม่ แต่ไม่ได้หย่ากันค่ะ) ดิฉันเลี้ยงลูกสาววัยเรียนอีกตั้ง 2 คน ไม่มีเงินจ่ายให้กับคนเจ็บ  ขอคำตอบด่วนด้วยนะค่ะ ไม่มีที่พึ่งเลย

 



ผู้ตั้งกระทู้ นัฐธิดา (noknoi93-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-08-18 14:57:45 IP : 122.154.26.3


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3203851)

การเรียกร้องค่าเสียหาย  คงบอกไม่ได้ว่ามากเกินไปหรือไม่    ก็ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นรายๆไป   ถ้าเขาบาดเจ็บสาหัส   ก็มีโทษจำคุกสามปี จะสาหัสหรือไม่  ก็ต้องดูผลของการรักษาประกอบความเห็นของแพทย์  กรณีนี้ตำรวจก็คงตั้งข้อหาคุณว่า  ประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บ(สาหัส)ไว้ก่อน   ถ้าไม่สาหัส  โทษจะน้อยจนแทบไม่มีโทษทางอาญา  คงรับผิดทางแพ่งอย่างเดียว  เรื่องค่าเสียหาย  ก็ลองเจรจาต่อรองเขาดู  เมื่อเกิดเหตุใหม่ๆ  คนกำลังเครียดอาจเจรจากันลำบาก  หากปล่อยเวลาผ่านไป   การเจรจาคงง่ายขึ้น ถ้าเจรจากันไม่ได้  ถ้าขึ้นศาล  โทษทางอาญาอาจไม่มี(ตามความเห็น)  แต่การรับผิดทางแพ่ง ก็คงยากจะบอกได้ว่า ศาลจะให้ชดใช้เท่าไร ถ้าตกลงกันได้ที่โรงพัก   จะประหยัดเงินและประหยัดวลาได้ดีกว่า

ผู้แสดงความคิดเห็น เห็นใจ วันที่ตอบ 2010-08-19 05:40:52 IP : 125.26.109.240


ความคิดเห็นที่ 2 (3209311)

คุณความเห็นที่ 1 ครับ  ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้ครับ   ตอบว่าไม่มีความผิดทางอาญา ได้ไงครับ เสียเว็บกฎหมายเปล่าๆ

คดีกระทำการโดยประมาทเห็นๆครับ  ชดใช้ทางแพ่ง ไว้เพื่อเยียวยาความเสียหาย   และแสดงต่อศาลถึงความรับผิดชอบต่อการกระทำเพื่อให้ศาลเห็นใจในทางอาญาครับ     ชดใช้ทางแพ่งก็ส่วนทางแพ่ง   ทางอาญาไม่ได้ระงับด้วยนะครับ(พูดได้ไงว่าอาจไม่มี-*-)

เคยมีกรณีของดาราสาวคนหนึ่ง ชนแล้วไม่สนใจเยียวยาค่า สินไหม ศาลยังลงโทษหนักเลยครับ

130,000 ไม่มากเกินไปหรอกครับ Case ที่ผมเจอ แค่อาชีพหมอดู ผ่าตัดแล้วทำงานไม่ได้ ยังเรียก 300,000 แล้ว( นี่

ตายนะครับ ไหนจะค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู ค่าปลงศพ ค่ารักษาพยาบาลก่อนตาย  ค่าขาดรายได้ ฯ และอื่นๆอีก รีบทำสัญญา ยอมความทางแพ่งแต่น้อยๆแค่นี้เถอะครับ คนขับยังไงก็เสียเปรียบตาม กฏหมาย ปพพ.437 ครับ ) ถือว่าคราวเคราะห์  ยอมหาจ่ายให้เขาเพื่อลดเคราะห์กรรมที่เรากระทำขึ้นโดยไม่ตั้งใจเถอะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น จบใหม่แต่ ไม่มั่ว (พล49) วันที่ตอบ 2010-09-04 15:40:32 IP : 110.49.205.138


ความคิดเห็นที่ 3 (3214671)

ขอขอบพระคุณมากสำหรับทุกคำตอบค่ะ

แต่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมว่า

กรณีคนเจ็บเสียชีวิตแล้ว  ดิฉันจะให้บริษัทที่ดิฉันทำ พรบ.บุคคลที่ 3  เป็นคนจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาท  โดยที่ดิฉันไม่ต้องจ่ายอีกได้หรือไม่  เพราะใน พรบ. ระบุว่า บริษัทเป็นคนจ่ายค่าสินไหมทดแทนในนามผู้เอาประกัน

ซึ่งทายาทบอกกับดิฉันไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ที่เขาเรียกเงิน คือค่าสินไหมทดแทน   หาก พรบ. จ่ายแทนดิฉันแล้ว    ทายาทจะเรียกร้องอะไรเป็นการส่วนตัวจากดิฉันได้อีกหรือไม่

ปล. ขณะนี้ ดิฉันได้ให้เงินแก่ทายาทไว้เบื้องต้นแล้ว 40,000 บาท  บริษัท พรบ. บอกว่าหาก บริษัทจ่ายค่าสินไหมจำนวน 200000 บาทแล้ว ดิฉันสามารถขอคืนส่วนตัวที่ดิฉันจ่ายไปแล้วนี้ได้

ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรค่ะ   ไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ   ขอบคุณมากนะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าของกระทู้ วันที่ตอบ 2010-09-27 17:25:40 IP : 122.154.26.3


ความคิดเห็นที่ 4 (3634859)

สามีขับรถมอเตอร์ไซด์ ไปชนกับคู่กรณี ทำให้คนขับบาดเจ็บนิดหน่อย และจ่ายค่ารักษาและค่ายา ซ่อมรถให้เรียบร้อย  ส่วนคนซ้อนบาดเจ็บ คือ ขาหัก  นอนโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 9-23 เม.ย.  ตลอดเวลาอยู่ที่โรงพยาบาล จะไปเยี่ยมตลอดและซื้อของใช้และของกินมาให้ประจำทุกครั้งที่ไปเยี่ยม และติดต่อขอห้องพิเศษให้พักอย่างสบายใจ   จนหมอให้กับไปพักที่บ้าน  และนัดให้มาอีกวันที่ 7 พ.ค.   

สามีได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลคู่กรณีให้โรงพยาบาลไปทั้งหมด 50,000 กว่าบาท  เพราะพ.ร.บ.รถมอเตอร์ไซด์ขาด     และได้ขอตกลงกับคู่กรณีว่าจะทำอย่างไร   คู่กรณ๊ได้ขอเงินเป็นค่าใช้จ่ายก่อน 20,000 บาท เพื่อเป็นค่าจ้างคนมาดูแลที่บ้าน ก่อน ซึ่งเหมือนกับว่า เราต้องจ่ายค่าใช้จ่ายนี้ไปจนเขาเดินได้เลยเหรอคะ   สรุปเหมือนกับว่า ถ้าจ้างคนดูแล 8 เดือน ก็ต้องจ่ายเงินให้กับคนดูแล ตลอดเลย  อย่างมันก็ไม่สิ้นสุด    อยากขอความเมตตาให้หาทางออกให้ได้ไหมคะ  เพราะต้องไปยืมเงินเขามาเสียค่ารักษาพยาบาลแล้ว  จะต้องมาเสียเป็นระยะๆ อย่างนี้  สงสัยคงตายก่อน

ผู้แสดงความคิดเห็น mam (mammy2510-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-05-07 11:01:25 IP : 61.19.114.106



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.