จากข้อเท็จจริงนี้การที่ครูตัดผมแล้วไปโดนติ่งหูแหว่งไปเป็นการกระทำโดยมิได้มีเจตนาที่จะให้เกิดผลอย่างนั้นขึ้น แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลที่อยู่ในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และอาจจะใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่ก็หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ จึงถือได้ว่าป็นการกระทำโดยประมาทและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย แต่ก็เป็นเพียงความผิดลหุโทษเท่านั้นตามมาตรา 390 ครับ คือระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนทางแพ่งก็อาจเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ตามมูลละเมิดตาม มาตรา 420 ครับ

ถ้าเรื่องถึงศาลผมคิดว่าศาลท่านก็คงให้จบที่ชั้นไก่เกลี่ยหรือไม่อย่างมากก็คงรอลงอาญาไว้ครับเพราะโทษไม่สูงมาก แต่ผมมีความเห็นว่าอย่าให้เรื่องไปถึงศาลเลยครับ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ผมว่าน่าจะตกลงกันได้หรือคุยกันด้วยดี ๆ กว่านะครับเราคนไทยด้วยกัน อาทิเช่น ถ้าคุณแม่ไม่พอใจกับการที่คุณพูดไปหัวเราะไปก็บอกหรือตำหนิท่านไปตรง ๆ เลยก็ได้ครับเพื่อที่จะได้ให้ครูท่านนั้นไปปรับปรุงตัวหรือขอโทษคุณแม่ก็ว่ากันไป เพราะถ้าเรื่องไปถึงศาลผมว่าอาจจะได้ไม่คุ้มเสียมากกว่านะครับ อีกอย่างผมมองว่าการที่คุณครูพูดไปหัวเราะไปผมคิดว่าครูคนนั้นคงไม่ได้คิดจะเยาะเย้ยหรือคิดอะไรกับตรงนั้นหรอกครับ และท่านเองก็คงไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะมิได้มีเจตนาอยู่แล้ว คงเป็นเรื่องของการที่ไม่ได้ตั้งใจมากว่าครับ เลยมองว่าเป็นเรื่อง ขำ ๆ ผมว่าอย่าถือสาท่านเลยนะครับ เพราะท่านคงไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ ครับ

ขอบคุณค่ะสำหรับความคิดเห็นดีๆ จะเก็บไว้พิจารณากันอีกทีนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ