1.เมื่อทำนิติกรรมลงไปแล้ว จะอ้างว่ามิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในทรัพย์นั้นมิได้ครับเพราะคุณคือลูกหนี้ตามกฏหมาย และก็เป็นการแสดงเจตนาที่คุณได้ยินยอมทำไปด้วยตัวเองมิได้มีใครมาบังคับฉนั้นไม่สามารถอ้างได้ครับ ถ้าไม่อยากมีหนี้ก็ไม่ต้องทำนิติกรรมนั้นครับ

2.อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้นว่าคุณและสามีคือผู้ทำนิติกรรม ฉนั้นเงินก้อนนั้นกรรมสิทธิ์ย่อมตกเป็นของคุณ ส่วนจะเอาไปให้ใครหรือทำอะไรนั้นก็เป็นสิทธิของคุณ ถ้าภายหน้าน้องสาวไม่รับผิดชอบ คนที่รับผิดชอบก็ย่อมจะเป็นลูกหนี้ของธนาคารนั่นก็คือผู้กู้นั่นเองครับ และการที่คุณจะไปฟ้องร้องน้องสาวแฟนคุณนั่้นผมก็ยังนึกไม่ออกว่าคุณจะไปฟ้องให้เขารับผิดได้อย่างไร เพราะเขามิได้มีนิติสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องในส่วนของเงินกู้อะไรกับคุณในการนี้ตามกฏหมายเลย

3.เป็นลูกหนี้ร่วมก็ต้องรับผิดร่วมกันสิครับ

คือ อย่างที่บอกตราบใดที่ทำนิติกรรมลงไปแล้วการที่จะมาปฏิเสธความรับผิดชอบในภายหน้านั้นคงจะยากครับ ซึ่งถ้าตามกรณีนี้ผมเองก็เข้าใจความรู้สึกนะว่าเหมือนน้ำท่วมปาก ไม่อยากทำแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ คือเรื่องแบบนี้ถ้าเป็นผม ผมจะต้องดูองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างในการตัดสินใจ อาทิเช่น นิสัยใจคอส่วนตัวของน้องสาวว่าเป็นคนอย่างไร ดูแล้วมีแววที่จะโกงหรือไม่รับผิดชอบได้ไหม ถ้าดูแล้วผ่านก็อาจจะยอมช่วย แต่เรื่องแบบนี้อยู่ที่การตัดสินใจของคุณเองนะครับเพราะมันเป็นอนาคตที่คุณจะต้องรับผิดชอบเองครับ แต่สงสัยอย่างนึงว่าทำไมสามีคุณไม่ไปกู้คนเดียวล่ะครับทำไมต้องลากคุณไปเป็นลูกหนี้ด้วย ไม่เข้าใจ