ต้องดูเป็นกรณี ๆ ไปครับ เพราะถ้าหากอายุความขาดแล้ว เจ้าหนี้ก็หามีสิทธิที่จะไปฟ้องร้องบังคับคดีได้อีก แต่กฏหมายก็ไม่ได้ห้ามลูกหนี้ที่จะเข้าชำระหนี้หรือยอมรับสภาพหนี้นั้น ๆ นะครับ ผมเข้าใจว่าคุณคงหมายถึงเรื่องจำนอง จำนำ หรือปล่าวครับ ถ้าใช่แม้ว่าอายุความตามหนี้ประธานจะขาดไปแล้วแต่ก็ไม่ได้ทำให้สัญญาจำนอง จำนำระงับลงแต่อย่างใด และผู้รับจำนอง จำนำ หรือผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ (เจ้าหนี้มีประกัน) ก็ยังคงมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนอง จำนำ หรือที่ได้ยึดถือไว้นั้นได้เสมอครับ เพราะเป็นทรัพย์สินที่เอามาประกันการชำระหนี้ประธานเท่านั้น ซึ่งเป็นสัญญาคนละส่วนกัน มันจะต่างกับเจ้าหนี้สามัญทั่ว ๆ ไปครับ ส่วนการคิดดอกเบี้ยย้อนหลังได้ไม่เกินห้าปีก็หมายความตรงตัวอักษรเลยครับ คือ คิดได้สูงสุดห้าปีไงครับ

เพิ่มเติมนิด คือ ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับกฏหมายนะครับ ที่ไม่ยอมให้เจ้าหนี้มีประกันนี้จะต้องเสียเปรียบหรือจะต้องสูญเงินฟรีไปกับลูกหนี้ เพราะมันจะไม่ยุติธรรมกับเจ้าหนี้เท่าไหร่หากปิดช่องเพียงแค่อายุความตามหนี้ประธานนี้ แต่มันก็ชัดเจนด้วยหลักของกฏหมายอยู่แล้วครับว่า มันเป็นสัญญาคนละส่วนกันจึงไม่เอามาเหมารวมกันครับ ฉนั้น การที่คุณบอกว่า "เรืยกชำระหนื้ที่ขาดอายุความได้"  อันนี้ไม่จริงครับ เพราะโดยหลักแล้วสิทธิของเจ้าหนี้มันหมดลงนับแต่วันที่ขาดอายุความตามกฏหมายไปแล้ว ฉนั้นจะมาย้อนใช้สิทธินั้นอีกภายหลังไม่ได้ แม้จะฟ้องได้แต่ลูกหนี้ก็มีข้อต่อสู้ที่จะทำให้เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฏหมายซึ่งจะส่งผลให้ลูกหนี้หลุดจากคดีนี้อยู่แล้วครับ  แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่เกี่ยวข้องกับสัญญาอุปกรณ์แต่อย่างใดดังเหตุผลที่กล่าวไปแล้วด้านบน เพราะเจ้าหนี้มีประกันสามารถบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินซึ่งจองนอง จำนำ หรือที่ได้ยึดหน่วงนั้นไว้ได้ครับ