ReadyPlanet.com


ไม่ได้รับ ความเป็น ธรรม ครับ


เรื่องมีอยู่ว่า กระถางหน้าบ้านแตก เนื่องจากมีเด็กขับรถมาชน ในเวลาตอนเย็น พอตกกลางคืนเจ้าของบ้านกลับมาพบ แล้วก็สอบถามคนบริเวณนั้นว่ามีใครพบเห็นผู้ที่ทำไหม พอได้คำตอบก็ไปยังบ้านผู้ปกครองของเด็กที่ทำ ก็มีการนัดแนะว่า จะใช้ค่าเสียหาย พอในวันที่ 25 ธ.ค.2552 ผู้ปกครองของเด็กก็มาที่บ้านของผู้เสียหาย แต่ กลับมาพูดออกแนวนักเลงจะไม่ชดใชค่าเสียหายแถมให้ในราคาที่ไม่เหมาะสมกับราคาของที่เสียหายไป ตั้งแต่วันที่ 25-26-27-28-29 พอไปสอบถามตามเรื่องเกี่ยวกับค่าเสียหายที่บ้านของคนกลางเป็นเวลา 5 วัน ผู้ปกครองของเด็กก็ยังไม่สนใจที่จะชดใช้ค่าเสียหายแล้วก็ยังพูด กวน ออกแนว นักเลงทุกครั้ง และ ในวันที่ 30 ธ.ค. 2552 มีคนกลางเขานัดให้ไปเอาเงินที่บ้านของคนกลาง ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 5 โมงเย็นกว่าๆ ทางผู้เสียหายก็ได้ไปตามที่ตกลง แต่คู่กรณี ก็มา แต่ทำเป็นไม่สนใจอะไร แถมยังพูดกวน จนทำให้ผู้เสียหาย ด่าของลับ ไป จนทำให้คู่กรณี วิ่งเข้ามาหวังจะทำร้าย แล้วก็มีการวิวาทเกิดขึ้น ทั้ง 2 ฝ่ายต่างคนต่างเจ็บ แต่ฝ่ายคู่กรณี มีอาการสลบไป แล้วมีแผลที่โนกแก้มเย็บ 4 เข็ม ส่วนผู้เสียหาย บาดเจ็บมีแผลขนาดใหญ่ที่หัวเข่า สรุปต่างฝ่ายต่างก็ต่อสู้ทั้งนั้น เรื่อที่อยากจะถาม

คู่กรณี แจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้เสียหาย แต่ ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความไว้

คู่กรณีแจ้งไปว่า

1.ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส

คนกลางแจ้งว่า

1.บุกรุกยามวิกาล

พอตำรวจเรียกผู้เสียหายไปพบ ผู้เสียหายก็เล่าเหตุการณืที่เกิดขึ้นให้ฟัง แต่ตำรวจกับไม่มีการสืบเรื่องอะไรเลย มันเหมือนว่าตำรวจฟังความข้างเดี่ยวก็คล้ายๆว่าผู้เสียหายนั้นผิด

เมื่อเกิดกรณีอย่างนี้จะทำอย่างไร ในเมื่อที่พึ่งของประชาชนกับไม่เป็นกลางอย่างนี้ กับไปช่วยคนที่เขามีปัจจัยให้สามารถทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูกได้ รับแจ้งความไปโดยไม่มีการสืบสวนว่าเรื่องราวที่แท้จริงเป็นไง เอียงไปทางที่ที่เขายื่นปัจจัยมาให้ ยังงี้คนจนๆ ก็แพ้ตลอดละสิครับ ประเทศชาติไม่อยากจะคิดเป็นไงต่อไปในอนาคตข้างหน้า

ขอขอบคุณผู้ที่ ตอบ กระทู้ให้ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

 



ผู้ตั้งกระทู้ T.6011 (tawan6011-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-05-09 16:37:34 IP : 114.128.184.30


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3177872)

-เป็นเรื่องสมัครใจทะเลาะวิวาท    ต่างฝ่ายต่างไม่ใช่ผู้เสียหาย  ถ้าเรื่องถึงศาล    ก็คงมีการลงโทษฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นทั้งคู่   แต่คดีแบบนี้ตำรวจก็คงให้ไกล่เกลี่ยเจรจาตกลงค่าเสียหายกันเองก่อน    เว้นแต่ตกลงกันไม่ได้จริงๆ   เรื่องจึงจะไปถึงศาล.....เรื่องคนกลางแจ้งข้อหาบุกรุกน่าจะเป็นไปไม่ได้  เพราะเขารับเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย   และเชิญให้คู่กรณีไปที่บ้านเอง    จะมาแจ้งข้อหาบุกรุกได้อย่างไร  เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิด   แต่ถ้าเขามีการแจ้งความ    คุณก็คงยุ่งยากในการพิสูจน์ตนเองพอสมควร  แนวโน้มก็คือเขาคงต้องการได้รับค่าชดใช้ค่าเสียหาย  ก็ควรถามเขาตรงๆว่า  ถ้าไม่แน่จริงจะยื่นมือมารับเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยกรณีพิพาททำไม......คุณเองก็พลาดท่า    เรื่องเล็กๆน้อยๆแต่ไปทำให้เป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โต  ถ้ากระถางที่แตกมีมูลค่ามากมาย    ก็ต้องไปฟ้องทางแพ่งเอาเอง     การให้คนกลางไปเจรจาไกล่เกลี่ย    ถ้าคนกลางมือไม่ถึง    ก็จะยิ่งทำให้เรื่องบานปลายใหญ่โต  ดังที่คุณประสบอยู่......เรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรม  เป็นวลีฮิตที่นำมากล่าวอ้างกันจนเกินพอดี  หรือเกินความจำเป็น   ที่จริงความเป็นธรรมมีอยู่เสมอ   ถ้าเราปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมาย   แต่ถ้าเราปฏิบัติการหรือกระทำการนอกกรอบของกฎหมาย เช่นไปลงไม้ลงมือทำร้ายกันจนบาดเจ็บ  แล้วเราจะไปเรียกร้องหาความเป็นธรรมได้อย่างไร  ที่ตำรวจเขาไม่สอบถามอะไรคุณมากนัก   น่ายังไม่พอสรุปได้ว่าเขาลำเอียง   เขาคงพอมองรูปคดีออกว่า  เรื่องจะจบลงอย่างไร.......เขาก็คงรู้ๆอยู่ว่าเป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาท  ซึ่งแนวทางปฏิบัติของตำรวจก็คงเป็นดังที่ผมบอกข้างต้นครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2010-05-10 08:36:37 IP : 125.26.113.39



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.