ตามหลักกฏหมายแล้ว บ้านถือเป็นส่วนควบกับที่ดินซึ่งปกติแล้วเจ้าของที่ดินจะย่อมมีกรรมสิทธิ์ในส่วนควบหรือตัวบ้านนั้นไปด้วย แต่หากเป็นการปลูกบ้านลงไปบนที่ดินของผู้อื่นโดยได้รับอนุญาต บ้านก็จะไม่ถือเป็นส่วนควบตามมาตรา 146 ส่วนท้าย(ซึ่งถือเป็นข้อยกเว้นในหลักเรื่องส่วนควบ) ฉนั้นพี่สาวจึงมีสิทธิรื้อบ้านออกไปได้ทุกเมื่อครับ การปรากฏชื่อเป็นเจ้าบ้านตามทะเบียนราษฎร์ไม่ใช่สิ่งที่ยืนยืนว่าเจ้าบ้านเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในตัวบ้านนะครับ หากแต่เป็นเพียงเอกสารที่รัฐออกให้เพื่อแสดงถึงสิทธิหรือผู้ทีสิทธิในบ้านหรือในฐานะหัวหน้าครอบครัวเท่านั้น ไม่ใช่เอกสารแสดงถึงกรรมสิทธิ์ครับ ความเป็นกรรมสิทธิ์จะต้องดูที่หลักฐานการได้มา เช่น สัญญาซื้อขาย พินัยกรรม หรือสัญญาจ้างทำของ(จ้างปลูกบ้าน) เป็นต้น ซึ่งมันจะยังคงมีอยู่ตลอดไปโดยผลของกฏหมายครับ ไม่ได้เสื่อมสลายหรือหายไปไหน สามารถนำสืบได้ไม่ยากหากมีข้อพิพาทเกิดขึ้น |