ReadyPlanet.com


ถูกแจ้งความเรื่องพากลูกชายเค้าไปนอนด้วย


เรื่องมีอยู่ว่า ผมเปิดร้านเกมสองที่ แล้วมีน้องผู้ชายอายุ 13 ปี บ้านเค้าอยู่ข้างบ้านผมเค้าจะมาเล่นเกมที่้รานผมทุกวันแล้วเย็นวันศุกน้องเค้ามักจะขอตามผมไปนอนค้ากับผมอีกร้านนึงซึ่งอยู่คนละอำเภอ แล้วผมจะมาส่งกลับวันอาทิต โดยที่เด็กขอไปเองอีกอย่างผู้ปกครองเด็กซึ่งเป็นป้าก็อนุญาติแล้ว บังเอิญว่าเมื่อปีใหม่แม่เด็กมารับเด็กไปเยี่ยมปู่ที่หาดใหญ่ แล้วปู่เด็กได้อสอบถามความเป็นอยู่เด็ก ป้าเด็กก็บอกว่าเลิกเรียนก็อยู่แต่ร้านเกม เสาอาทิตก็ไปนอนค้างกับเจ้าของร้าน ที่ปู่เด็กโกรธ ประมาณว่ากลัวหลานจะเสียคนหรือไม่ปลอดภัยในชีวิต เลยได้ไปแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันผมก็ไม่แน่ชัดเพราะฟังจากเพื่อนบ้านอีกที โดยที่ยังไม่ได้คุยกับป้าเด็ก เค้าแจ้งว่าห้ามพาลูกเค้าไปนอนค้างอ้างแรมที่ใหนเด็ดขาดหากลูกเค้าเป็นอะไรหรือเกิดอะไรกับลูกเค้าเค้าจะแจ้งจับผม แบบนี้ผมมีความผิดหรือยังครับ แล้วถ้ามีการแจ้งความสามารถแจ้งข้ามจังหวัดได้หรือไม่ครับ หรือแค่คำขู่ไม่ให้หลานเค้ามายุ่งกับผม ทางฝ่ายโน้นยังไม่มีใครมาคุยกับผมเป็นทางการ แต่ผมทราบเรื่องมาจากเพื่อนบ้านอีกทอดนึง ผมควรดำเนินการอย่างไรต่อไปครับ 



ผู้ตั้งกระทู้ บ่าว :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-04 23:00:11 IP : 192.168.200.221


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3231841)

จากข้อเท็จจริงนี้การกระทำของคุณถือไม่ได้ว่าครบองค์ประกอบของฐานความผิดพรากผู้เยาว์ครับ เพราะคุณมิได้ปราศจากเหตอันสมควร กล่าวคือ เมื่อป้าซึ่งเป็นผู้ปกครองดูแลเด็กนั้นได้อนุญาติให้ไปนอนค้างบ้านคุณได้ ก็ถือว่ามีเหตุอันสมควรที่เด็กนั้นหรือคุณจะพาไปนอนค้างที่บ้านได้ครับ ฉนั้นจึงไม่เข้าข่ายฐานความผิดฐานพรากผู้เยาว์ที่มีอายุไม่เกิน 15 ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลตามมาตรา 317 ครับเพราะคุณมีเหตุอันสมควรที่เชื่อได้ว่าคุณมีสิทธิพาเด็กไปได้นั่นเองครับ

ส่วนเรื่องแจ้งความนั้นตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้ระบุเจาะจงไว้ว่าห้ามแจ้งนอกเขตพื้นที่ที่เกิดเหตุ ฉนั้นผู้เสียหายจึงมีสิทธิจะไปแจ้งความที่ไหนก็ได้(เดี๋ยวเขาจะส่งเรื่องมาท้องที่เกิดเหตุเอง)และเจ้าพนักงานตำรวจก็จะต้องรับแจ้งไม่มีสิทธิปฏิเสธการแจ้งความร้องทุกข์นั้นครับ มิฉน้นจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งเป็นความผิดอาญาครับ (แม้ในหลักความจริงจะมีบางท้องที่ที่ไล่ผู้เสียหายไปแจ้งความในท้องที่ที่เกิดเหตุก็ตาม แต่ก็เป็นการทำผิดกฏหมายครับ)

จากเท่าที่ฟังมา ผมว่าน่าจะเป็นเพราะการห่วงใยหลานของปู่มากกว่าครับซึ่งคงกลัวว่าหลานจะติดเกมส์จนเกินไป เพราะจากระแสที่เห็นกันมาตลอดก็มีเด็กติดเกมส์จนเสียการเรียนก็มี เลยทำให้ปู่เด็กอาจจะกังวลตรงจุดนี้กลัวว่าหลานจะเป็นแบบในข่าวก็เลยเกิดความกังวลเลยไม่พอใจ ฉนั้นเรื่องนี้ผมว่าน่าจะลองพูดคุยหรือเจรจากันได้ครับ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหากทำความเข้าใจกันได้ ส่วนเขาจะแจ้งความจริงหรือไม่นั้นอันนี้ผมก็ตบไม่ได้ครับ แต่ถ้าหากมีหมายมาให้ไปให้ปากคำก็แสดงว่ามีการแจ้งแล้ว แต่ถ้าหากไม่มีก็แสดงว่ายังไม่มีการแจ้งครับ แต่อย่างไรก็ตามหากแจ้งจริงคุณก็ต่อสู้คดีได้ไม่ยากครับผม แต่ผมเชื่อว่าน่าจะตกลงกันได้ด้วยดีมากกว่าครับ ขอให้โชคดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-01-05 00:12:34 IP : 115.87.187.50


ความคิดเห็นที่ 2 (3231842)

ขอบคุณครับ แต่มันมีประเด็นที่ว่าผมกับเด็กเรามีการสัมผัสอวัยวะเพศกันโดยเด็กสมยอมทุกอย่าง แต่ไม่มีพยานหลักฐานใดเลย นอกจากตัวเด็กเอง ผมกลัวว่าเด็กจะพูดเรื่องนี้ออกไป แล้วเค้าเอาประเด็นนี้ไปแจ้งความ แต่เรื่องเกิดมาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว เพิ่งมีเรื่องตอนวันปีใหม่ครับ ทุกอย่างเด็กสมยอมด้วยหมด เหตเกิดในห้องนอนผม ถ้ามีการแจ้งข้อนี้จริง ผมจะเอาข้อหาบุกรุกยามวิการมาต่อกรกับฝ่ายนั้นได้หรือไม่ครับ ผมทราบดรว่าสิ่งที่ผมทำไปมันผิดทั้งกฏหมายและศ๊ลธรรม แต่เด็กยอมด้วยจริงๆ และเป็นเด็กผู้ชายด้วย เลยคิดว่าไม่น่าจะร้ายแรง แต่ปู่เด็กเค้าหวงหลานชายมากเพราะเค้ามีหลานชายคนเดียวทั้งตระกูล รบกวนท่านช่วยหาแนวทางรับมือในกรณีที่เค้าแจ้งความจริงด้วยครับ ถ้าแจ้งหมายจะมาถึงภายในกี่วันแล้วเค้าต้องแจ้งหลังจาเกิดเหตภายในกี่วัน เพราเหตเกิดมาประมาณ 2 สัปดาที่แล้วครับ ผมยอมรับว่าผมทำชั่วไปแล้วแต่เพราะอารมคึกคะนองจริงๆครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น บ่าว วันที่ตอบ 2011-01-05 00:32:22 IP : 192.168.200.221


ความคิดเห็นที่ 3 (3231857)

อย่าใช้คำว่าต่อกรหรือรับมืออะไรเลยครับ เพราะเท่าที่อ่านจากการกระทำของคุณนั้นมันก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีและไม่ควรกระทำ ผมจึงขอใช้คำว่าเยียวยากับสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเหมาะสมกว่า จากประเด็นที่คุณหยิบยกขึ้นมาการที่เด็กสมยอมนั้นมันไม่ใช่ประเด็นที่คุณจะใช้มาต่อสู้อะไรได้เลย เพราะตามกฏหมายต่อให้เด็กสมยอมก็ถือเป็นความผิดครับ เพราะกฏหมายคงถือว่าด้วยวัยเพียงเท่านี้เด็กอาจจะไม่มีวุฒิภาวะที่เพียงพอที่จะต่อสู้กับโลกภายนอกแห่งความเป็นจริงได้ ซึ่งในบางครั้งอาจจะหลงไปได้ ฉนั้นกฏหมายจึงหันมาเล่นงานผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะที่สูงกว่าแทนครับ ฉนั้นเรื่องพยานหรือเด็กสมยอมนั้นตัดทิ้งไปได้เลยครับหาใช่สาระสำคัญแต่อย่างใด ถ้าหากเขาแจ้งความในข้อหาพาไปเพื่ออนาจารตามมาตรา 283 ทวิ ก็ลำบากหน่อยครับเพราะมันยอมความกันไม่ได้ตามกฏหมาย ก็คงต้องไปว่าและพิสูนจ์กันในศาลครับ (แต่หลักในทางปฏิบัติอาจจะขอเจรจาขอจบกันที่ชั้นสอบสวนก็เห็นทำกันมาเยอะแล้ว อยู่ที่ว่าจะตกลงกันได้ไหม)

ส่วนคุณจะไปแจ้งข้อหาบุกรุกเขานั้นในทางศีลธรรมมันก็ไม่ถูกต้องอยู่แล้วเพราะคุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าน้องเขาไม่ได้ไปบุกรุกคุณพาเขาเข้าไปเอง ฉนั้นในทางกฏหมายยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงใหญ่เพราะมันไม่เข้าองค์ประกอบในความผิดบุกรุกเลยแม้แต่น้อยครับ ซ้ำร้ายอาจจะเป็นฉนวนให้ครอบครัวหรือตัวน้องเขาหันมาโกรธเคืองคุณก็เป็นได้ ฉนั้นมันไม่เป็นผลดีอะไรเลยกับความคิดนี้ครับ

ส่วนอายุความในความผิดฐานพาเด็กที่มีอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่ออนาจารนั้น ผู้กระทำต้องระวางโทษไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งคดีนี้มีอายุความฟ้องร้องได้ถึง 10 ปีครับ

ผมก็เข้าใจนะครับว่าคุณอาจจะหลงผิดไปบ้างอาจจะเป็นเพราะอารมณ์พาไปหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ในเมื่อคุณสำนึกได้ก็ควรจะน้อมรับพร้อมทั้งขอเยียวยาในสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเหมาะสมกว่าการใช้คำว่าต่อกรหรือรับมืออย่างที่ผมได้กล่าวไป เพราะมันฟังดูเหมือนว่าคุณกำลังสู้รบกับสิ่งที่ตนไม่ได้ก่อขึ้น มันจึงฟังดูไม่ดีนักครับ ก็ไม่อยากให้คุณไปคิดอะไรมากครับ เด็กเขาอาจจะไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้เลยก็เป็นได้ หรือบางทีทางนั้นอาจจะไม่ได้ติดใจไปแจ้งความจริง ๆ ก็ได้ ถ้าถามผมแนวทางที่ผมจะแนะนำได้ก็คือหากเขาแจ้งความฐานพาเด็กไปเพื่อนาจารจริง(อันนี้อย่าพึ่งไปคิดมากเพราะเด็กอาจจะไม่ได้เล่า) ก็ควรไปแสดงความขอโทษ ขอขมา หรือขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากทางนั้น ทำให้เขาเห็นใจและสงสารคุณเรื่องน่าจะจบลงได้ด้วยดีมากว่าการไปฟ้องกลับเขาโดยไม่มีมูลจะฟ้องได้เลยครับ ผมคงแนะนำคุณได้เท่านี้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-01-05 01:48:37 IP : 115.87.187.50


ความคิดเห็นที่ 4 (3231920)

ขอบพระคุณมากครับท่าน พรุ้งนี้ผมกะว่าจะเข้าไปคุยรายละเอียดกับป้าเด็กด้วยตัวเอง ว่าตกลงมันเป็นยังงัยกันแน่ เพราะป้ากับลุงเด็กก็ทำงานกับพ่อแม่ผม ทุกวัน ผมก็หวังว่ามันจะจบลงด้วยดี แต่ก็กลัวเรื่องคดีเหมือนกัน อีกอย่าง ถ้าเป็นคดีจริง สน ในท้องที่ที่ผมอยู่จะเป็นผู้ทำคดีใช่หรือไม่ครับ ถ้าแบบนั้นผมพอจะเคลียกับตำรวจได้ เพราะมีคนรู้จักครับ ขั้นตอนการเคลียต้องเคลียกับฝ่ายสอบสวนหรือ ร้อยเวรครับ ผมไม่เคยโดนคดีอาญาจริงเลยไม่ทราบ แต่เมื่อก่อนเคยเคลียร้อยเวร เรื่องรับเด็กหลังเวลาครับ ท่านอย่าคิดว่าชี้ทางเลยครับ ผมขอทางออกจริงๆครับ เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องว่ากันไปครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น บ่าว วันที่ตอบ 2011-01-05 11:38:10 IP : 192.168.200.221


ความคิดเห็นที่ 5 (3231944)

ถ้าเหตุมันเกิดใน ท้องที่ สน. นั้นพนักงานสอบสวนท้องที่นั้นก็ย่อมมีอำนาจสอบสวนครับ ส่วนจะเคลียกับใครผมไม่ทราบได้จริง ๆ ครับ ผมเพียงแต่แสดงความเห็นไปตามข้อกฏหมายเท่านั้นครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-01-05 13:27:50 IP : 58.11.21.167


ความคิดเห็นที่ 6 (3231955)

เอาสั้นๆนะครับ ว่าเค้าแจ้งจริงผมควรปฏิเสธไว้ก่อนถูกต้องปะครับ เพราะรู้เห็นกันแค่สองคน ส่วนข้ออ้างต่างๆผมจะคิดหาเองครับ ขอลำดับการทำงานของตำรวจในคดีนี้ด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น บ่าว วันที่ตอบ 2011-01-05 14:53:23 IP : 192.168.200.221


ความคิดเห็นที่ 7 (3232014)

การแจ้งข้อหาจะต้องมีหลักฐานตามสมควรว่าคุณน่าจะได้กระทำผิดตามข้อหานั้น และก็ย่อมเป็นสิทธิของคุณครับที่จะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธหรือไม่ให้การก็ได้ (พนักงานสอบสวนจะต้องแจ้งสิทธิที่คุณพึงมีครับว่าสิทธิของคุณมีอะไรบ้าง) โดยที่คุณสามารถให้ทนายหรือคนที่ไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำได้ ขั้นตอนก็ไม่มีไรมากครับตำรวจจะสอบสวนและทำสำนวนส่งไปให้อัยการอีกทีและถ้าอัยการเห็นว่าคดีมีมูลก็จะสั่งฟ้องคุณครับ หากมีการแจ้งความดำเนินคดีจริงถึงตอนนั้นคุณต้องตั้งทนาย(หากไม่มีรัฐจะจัดหาให้) ซึ่งทนายจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาหรือหาแนวทางในการต่อสู้คดีเองครับ รายละเอียดตรงนั้นผมว่าคุยกับทนายโดยตรงน่าจะไวกว่าครับ การตอบคำถามในเว็ปเป็นเพียงการแนะนำหรือให้คำปรึกษาเพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดสอบถามทางทนายได้เลยครับผม 

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-01-05 22:37:13 IP : 61.90.118.112


ความคิดเห็นที่ 8 (3232461)

ทนายที่รัฐจัดให้นั้น เขาว่าความให้เราเหมือนทนายที่เราจ้างเองปะครับ หมายถึงความยุติธรรมอะครับ หรือควรจะจ้างเองครับแล้วค่าใช้จ่ายต่างกันมากปะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น บ่าว วันที่ตอบ 2011-01-07 20:50:28 IP : 192.168.200.221


ความคิดเห็นที่ 9 (3232474)

ก็เหมือนกันแหละครับ หรือถ้าไม่มั่นใจจ้างทนายส่วนตัวก็ได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-01-07 23:32:03 IP : 110.168.139.21



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.