ตอนแรก เมื่อเกิดอุบัติเหตุ   เขาคงตกใจไม่ทันได้คิด  ก็พูดบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง    เมื่อไปเจอทนายหรือทะแนะ ที่พอรู้กฎหมาย   เมื่อเขารู้ช่องทางตามกฎหมาย  ก็เลยเปลี่ยนไปเป็นคนละคน   จากผู้ที่จะรับผิดชอบทั้งหมด  กลับเป็นว่าจะเรียกร้องค่าเสียหายเสียเอง     หลักการสำคัญในเรื่องนี้คือ   ผู้ที่เป็นฝ่ายประมาท  จะต้องเป็นผู้รับผิด  หรือถ้าต่างฝ่ายต่างประมาท  ก็ต้องร่วมกันรับผิด  หรือแบ่งความรับผิดกันไป  นี่เป็นหลักการเบื้องต้น   กรณีที่คุณถาม   ถ้าหลานไม่บาดเจ็บสาหัส  ความรับผิดทางอาญาแทบไม่มี   คงมีแต่ความรับผิดทางแพ่ง  คือต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่านั้น   ถ้าทางฝ่ายเขาอ้างว่า  เขาไม่ได้ประมาท   เขาขับรถมาด้วยความเร็วตามปกติ    แต่เด็กไปตัดหน้ากระชั้นชิด   เป็นเหตุสุดวิสัย   เขาไม่ได้ประมาท   เป็นความประมาทของเด็ก   ถ้าเขายกเรื่องนี้ขึ้นต่อสู้  ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง   ก็ต้องหาพยานหลักฐานมาหักล้างกัน     เขาคงทราบจุดอ่อนตรงนี้ดี จึงเสียงแข็งขึ้นในภายหลัง

1 เขาให้เงินบอกว่าช่วยเบื้องต้นแค่5000บาทแค่ค่าห้องพิเศษก็หมดแล้ว

ตอบ  ก็ใช่

2 ถ้าขับรถแล้วชนคนข้ามถนนให้ใช้แค่พรบและก็บัตรทองอย่างนี้เขาก็ขับรถไม่ต้องใช้ความระมัดระวังหรือคะ

ตอบ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ  ตำรวจ  ก็มักตั้งข้อหาว่า  ขับรถโดยประมาท  ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บไว้ก่อน  แต่เมื่อเขารู้ช่องทางดังกล่าวข้างต้น  เขาก็คงพลิ้วหลบไปหลบมา ให้คู่กรณีต้องปวดหัว

3 วันแรกที่ชนเขาบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างเรามีแต่พยานบุคลแต่ไม่ได้ลงบันทึกประจำวันขนาดเจ้าหน้าที่พรบที่โรงพยาบาลยังได้ยินเลย

ตอบ    ก็บอกแล้ว   เขายังไม่ทันตั้งตัว   ก็พูดเอาตัวรอดไว้ก่อน  จะไปถือเป็นแก่นสารอะไรได้    ขนาดมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร  คนยังเบี้ยวแล้วเบี้ยวอีก   นี่เป็นแค่ลมปาก    คุณอย่าไปหวังสัจจะจากคนในสังคมปัจจุบันเลย

4 เขาขู่ว่าจะให้เราชดใช้ค่าเสียหายที่รถเขาชนหลานค่าซ่อมเกือบ20000บาท

ตอบ     ถ้าเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่า    เขาไม่ได้ประมาท    เด็กไปตัดหน้ากระชั้นชิด   เขาก็มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายได้   ถ้าตกลงกันไม่ได้  ต้องไปฟ้องศาล   ซึ่งเขาคงทราบดีว่า  คนทั่วไปไม่อยากขึ้นศาล  เขาจึงพูด เกทับไว้ก่อน เพื่อทำลายขวัญและกำลังของฝ่ายคุณ   ดังนั้นคุณต้องหนักแน่นเข้าไว้   อย่ากลัวเกินเหตุ    ถ้ามีทนายช่วยเหลือ  จะทำให้การเจรจาต่อรองต่างๆมีน้ำหนักมากขึ้น   แต่ถ้าไปเจอทนายความที่ไร้จรรยาบรรณ   คุณอาจเข้าตำราหนีเสือปะจระเข้  ก็เป็นได้

5 คนชนมีโอกาศติดคุกหรือเปล่าเพราะใบแจ้งความลงว่าคนขับประมาท

ตอบ   ถ้าหลานของคุณบาดเจ็บสาหัส   และเป็นความประมาทของเขาจริง    เขาก็มีโทษถึงขั้นจำคุกได้

6 ถ้าติดคุกติกกี่ปี

ตอบ   ถ้าเป็นการประมาท  จนทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส  มีโทษจำคุกไม่เกินสามปี  หรือปรับไม่เกินหกพันบาท  อันตรายสาหัส  ได้แก่  เสียแขน  ขา มือ  เท้า หรือเจ็บป่วยด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน  เป็นต้น (ดูประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  297  ประกอบ)  ตามความเห็น   หลานของคุณ   รักษาตัว  17  วัน ถ้าไม่มีอาการอื่นประกอบ  คงยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายสาหัส    คนขับรถชนคงทราบตรงจุดนี้ดี   จึงไม่ค่อยเกรงกลัวมากนัก  เพราะเขาคงต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่านั้น   ไม่มีโทษทางอาญา  เขาจึงค่อนข้างกร่างในภายหลัง

การขับรถชนไม่ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกายหรอครับ ผมมองว่าเป็นการทำร้ายร่างกายนะครับ เพราะเป็นการทำให้เสียหายหรือเป็นภัยแก่กายหรือจิตใจ ผลของการกระทำคือ เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้กระทำ ดังนั้นจากข้อเท็จจริงนี้ผมว่าน่าจะเข้าคดีอาญามาตรา 295 ซึ่งมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แม้ว่าผู้ได้รับบาดเจ็บจะไม่ถึงขั้นสาหัส(ซึ่งโทษมันจะสูงกว่า)ก็ตาม แต่ผู้กระทำก็มีความผิดอาญาดังที่กล่าวไปแล้วครับ แถมยังเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้อีกตามมูลละเมิด ม.420 เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องด้วยคดีอาญาครับ

ปล...ความผิดฐานกระทำโดยประมาทและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสนั้นไม่มีนะครับ ถ้าตามที่ผมเข้าใจคือคุณ 1 ปรับใช้ในมาตรา 297 นั่นก็เท่ากับว่าเป็นการทำร้ายร่างกายแล้วครับ ถึงจะไม่สาหัสก็ยังมีความผิดตาม ม.295 อยู่ดีล่ะครับ อีกอย่างการที่ขับรถชนคนอื่นมิใช่เรื่องระหว่างเอกชนกับเอกชนอย่างเดียวนะครับ เพราะเรื่องนี้ถือว่ามีผลกระทบต่อรัฐแล้วครับและรัฐเป็นผู้เสียหายจึงถือเป็นคดีอาญาได้นะครับ

องค์ประกอบความผิดของ ปอ.มาตรา  295  และมาตรา  297  ที่สำคัญคือ ต้องมีเจตนาในการกระทำความผิด    ดังนั้นกรณีนี้จึงไม่มีทางจะมีความผิดตาม  ม.295  และ  ม.297  ได้  เพราะเป็นเหตุที่เกิดจากความประมาท      ถ้าบาดเจ็บสาหัสจึงจะมีความผิดตาม  ม.300   และถ้าประมาทจนทำให้เสียชีวิตจึงจะมีโทษตาม มาตรา 291 จากปัญหาข้างต้น    จึงเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากการประมาทเท่านั้น     เว้นแต่จะบาดเจ็บสาหัสจึงจะมีความผิดทางอาญา  ตามมาตรา  300

เห็นด้วยกับคุณ sa ครับ ตอนที่ผมพิมพ์วินิจฉัยลงไปก็ยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่เหมือนกัน แต่เห็นคุณ 1 วินิจฉัยโดยใช้มาตรา 297 ประกอบซึ่งมันต้องผ่านมาตรา 295 มาก่อนเลยทำให้นึกถึง 295 ขึ้นมาแต่ก็ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าจะใช้ได้ไหม สรุป เป็นความผิดพลาดของผมเองครับที่ไม่คิดให้รอบคอบก่อนเสียก่อน ต้องขออภัย จขกท. ไว้ ณ ที่นี้ด้วยและก็ขอบคุณ ๆ sa ด้วยนะครับที่ช่วยชี้ความกระจ่างให้ผมหายข้องใจครับ ... ขอบคุณครับ

แต่ผมก็ยังมีความเห็นว่าผู้กะทำยังไง ๆ ก็ต้องรับผิดในทางอาญาอยู่ดีนะครับ ถึงจะไม่บาดเจ็บสาหัสก็ยังมีมาตรา 390 ที่คุ้มครองผู้ที่ถูกกระทำอยู่ดี คือผู้กระทำต้องระวางโทษไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึงเป็นความผิดลหุโทษ ถ้าขึ้นศาลจริงผมคิดว่าศาลท่านอาจจะรอลงอาญาครับเพราะโทษไม่สูงมาก

ขอแก้ไขข้อความใน คคห.2 ในช่วง ปล... นะครับ ผมดูไม่ดีเอง จริงๆ แล้วถ้ากระทำโดยประมาทและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสนั้นมีความผิดครับแต่ต้องดูมาตรา 297 ประกอบไปด้วยอย่างที่คุณ 1 ว่าล่ะครับ(ซึ่งตอนแรกผมอ่านแล้วเข้าใจผิดคิดไปเองว่าคุณ 1 จะใช้มาตรา 297 มาปรับใช้ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ) ว่าจะเข้าถึงขั้นสาหัสไหม แต่จากข้อเท็จจริงนี้ไม่เป็นอันตรายถึงขั้นสาหัสครับ คงเป็นเพียงมาตรา 390 เท่านั้นครับ

กรณีขับชนคนวิ่งตัดหน้ารถ

รถส่งของชนหลังคาร้าน

 เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 เดือนกว่าๆที่ผ่านมา ที่บ้านเปิดร้านขายของชำ คนขับรถส่งของบริษัท...ที่มาส่งของเป็นประจำที่ร้านได้ขับรถถอยหลังเข้าร้าน แต่ตัวรถสูงกว่าหลังคาร้านที่ยื่นออกมาเลยชนหลังคาเข้า ทำให้กระเบื้องหลังคาเสียหายประมาณ 2 แผ่น ตอนแรกเขาบอกว่าจะมาเปลี่ยนให้(คนขับรับผิดชอบเองโดยไม่เกี่ยวกับบริษัท) และเขาก็ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ จนจะเข้าเดือนที่ 3 แล้วก็ยังไม่ได้มาเปลี่ยนให้อีก ดิฉันสามารถจะเอาความผิดเขาได้ยังไงบ้างค่ะ

1.ดิฉันต้องทำยังไงดี (ถ้าไม่ต้องแจ้งความ พอจะมีวิธีการคุยกับเขายังไงได้บ้าง (ขู่)เพื่อให้เขากลัวว่าดิฉันอาจจะแจ้งความจับเขาค่ะ)

2.ถ้าจะเรียกค่าเสียหายไม่เกินเท่าไรค่ะ

3.ถ้าจะต้องแจ้งความจริงๆ จะแจ้งข้อหาอะไรค่ะ

4.เขาสามารถหาวิธีเลี่ยงความรับผิดชอบในกรณีนี้ได้หรือไม่ยังไงค่ะ

5.ขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ด้วยนะคะ

ขอขอบคุณล่วงหน้าและขออภัยในคำถามที่ผิดพลาดด้วยนะค่ะ