ReadyPlanet.com


ขอความกรุณาจากอาจารย์ทุกท่านด้วยคับ


 กราบสวัสดีท่านอาจารย์ทุกท่าน กระผมมีเรื่องราวเกี่ยวกับที่ดินมาปรึกษากับอาจารย์ทุกท่าน กระผมจะเล่าเรื่องราวนี้ให้ละเอียด เพื่อเป็นสิ่งที่ดีกับกระผมเอง

เรื่องทั้งหมดมีอยู่ว่า เมื่อปี พ.ศ.2546 ทางพ่อและแม่ได้รู้จักกับ นาง ก. ซึ่ง นาง ข. เป็นคนที่แนะนำให้ โดยนาง ก. ต้องการที่จะปล่อยเงินกู้ โดยมีเงินให้ xx0000 แล้วจะแบ่งดอกเบี้ยให้ ร้อยละ 1 ต่อเดือน ทางพ่อแม่ปรึกษากันแล้วเห็นควรรับข้อตกลงเอาเงิน จำนวน xx0000 มา ปล่อยกู้ให้กับคนที่รู้จัก โดยเป็นผู้ร่วมงานของพ่อที่รู้จักกัน พอล่วงเลยมาได้ระยะหนึ่ง ทางพ่อและแม่ ไม่สามารถเก็บเงินทั้งต้นและดอกได้ เนื่องจากนาย ค. ไม่ชดใช้ แล้วได้หนีไปโดยไม่ชำระหนี้ที่ยืมมา ทำให้ทางครอบครัว ของข้าพเจ้า ต้องชดใช้แทน แต่เนื่องจากทางบ้านมีปัญหาหนี้สิน อยู่แล้วเนื่องจากการยืมเงินแล้วไม่ใช้ ค้ำประกัน จึงทำให้มีหนี้สินอยู่มากมาย เลยไม่ สามารถเอาเงินพร้อมดอกเบี้ยมาคืนให้กับ นาง ก. ได้ ทางพ่อของข้าพเจ้าเลยรับปากว่าจะเอาเงินมาใช้ให้แต่ต้องรอหน่อยได้ไหม นาง ก. ไม่เห็นด้วย จึงทำให้บิดาของข้าพเจ้า ต้องนำเอาที่ดินบรรพบุรุษ ซึ่งเก่าแก่มาเพื่อจำนองไว้ โดยเพื่อประกันว่าเราจะรับผิดชอบให้ไม่หนี แต่เรื่องทั้งหมดก็กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

เมื่อทางบิดาเอาที่มาจำนองไว้กับ นาง ก. และมี นาง ข. มาด้วย แล้วทางพ่อของข้าพเจ้าได้เซ็นในสัญญาจำนองแล้วมี นาง ข. ซึ่งเป็นญาติสนิทไปด้วย โดยเมื่อไปถึงที่ทำการที่ดินนาง ก. และ นาง ข. บอกให้รออยู่ข้างล่าง ด้วยความที่ไม่คิดอะไรกับสัญญาที่เซ็นก็เป็นการจำนองเลยไม่ได้ขึ้นไปด้วย และยังมี นาง ข. ที่ไว้ใจได้ไปด้วย เมื่อทำการเสร็จแล้วทั้งสองฝ่ายปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับโดยจะบอกบอกให้ใครใครทราบเลย ปี 2547

เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงปี 2551 เรื่องทั้งหมดได้เกิดขึ้นเมื่อมีหมายศาลเป็นหนังสือขับไล่มาที่บ้าน ทางพ่อของข้าพเจ้าได้อ่านจึงนึกถึงการจำนองที่ดินไว้ เมื่ออ่านหมายศาลอย่างที่ถ้วนว่า ที่ดินตรงนี้เป็นของ นาง ก. ไปแล้วและได้มีหนังสือให้ขับไล่ออกจากนอกพื้นที่  ได้มีการไปศาลตามหมายนัด แต่ทางอีกฝ่ายพยายามบอกให้พ่อข้าพเจ้าไม่ให้ขึ้นศาล ให้มาคุยกันข้างล่าง มาไกล่เกลี่ยกัน ว่าจะขายที่ดินคืนให้ xx0000 ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าเงินที่ให้มา 3 เท่า ณ ตอนแรก เมื่อถ้าเทียบหลักทรัพย์ไปค้ำประกันแล้วดอกเบี้ยจะต้องลดลง แล้วตอนนี้ต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินทุกเดือน สาเหตุที่ให้ค่าที่ดินเพิ่ม เนื่องจากที่บ้านได้สร้างบ้านขึ้น 1 หลัง ซึ่งสร้างหลังมีการจำนองเสร็จแต่ไม่ทราบเลยว่าซื้อขายไปแล้ว

ลายละเอียดเพิ่มเติมคับ ที่ดินผืนนั้นเป้นทางตาลิดคับเอาเข้าธนาคารไม่ได้ แต่มีที่ดินผืนนึงที่ติดหน้าบ้านผมไว้ แต่เขาอนุญาตให้ผ่านได้เวลาเกือบสิบปีได้แล้วคับ ผมจะขอถามอาจารย์ดังนี้คับ

1.ผมสามารถเอาที่ดินผืนนี้มาอย่างไรโดยไม่เจ็บตัวหรือน้อยที่สุด

2.ที่ดินผืนนั้นที่ปิดที่ดินบ้านผมอยู่เป็นทางผ่านของบ้านผมมาตลอดเกือบ10 ปีแล้ว ถ้าผมซื้อที่ดินผืนนั้นมาปิดบ้านตัวเองผมมีสิทธิ์ให้เจ้าของที่ นาง ก. ไม่สามารถผ่านได้ไหม

3.ถ้าผมไม่ออกจากที่ดินนั้นผมสามารถทำอย่างไรได้บ้าง  ถ้าผมรอ ถึง 10 ปี ผมจะได้เปรียบไหม ในเมื่อเค๊าฟ้องขับไล่แล้ว

4.ในการซื้อขายที่ดินที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็นมากแค่ไหน ใน ครั้งนี้

5.ผมไม่เห็นโฉนดที่ดินผมไม่ทราบว่าเค๊าจะโกหกเพื่อเอาเงินผมเฉยๆ หรือเปล่า แต่มีหมายสารมา ผมสามรถดูได้ยังไงเชคได้ยังไงว่าเป็นของจริง

6.ผมไม่สามรถทำอะไรเลยนอกจากซื้อที่ดินคืนอย่างเดียวเท่านั้นใช่ไหมคับ เงินก็ไม่มี หนี้สินก็เยอะ คนเรานิสัยแบบนี้ไม่อยากเชื่อว่ามีอยู่จริง

ขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านล่วงหน้า ผมจะไม่ลืมพระคุณสำหรับคำแนะนำทุกอย่างที่ได้รับ อย่างสุดซึ้งคับ



ผู้ตั้งกระทู้ นาย จ. :: วันที่ลงประกาศ 2010-10-12 08:30:46 IP : 115.87.198.39


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3217403)

 

1.ผมสามารถเอาที่ดินผืนนี้มาอย่างไรโดยไม่เจ็บตัวหรือน้อยที่สุด
  ตอบ   ก็มีทางเดียว คือฟ้องศาลให้เพิกถอนการซื้อขายเพราะถูกฉ้อฉล  เรื่องเจ็บตัวน้อยที่สุดคงไม่มี    คงต้องเสียเงินก้อนโตแน่นอน  ถ้ามีการฟ้องร้องกัน
2.ที่ดินผืนนั้นที่ปิดที่ดินบ้านผมอยู่เป็นทางผ่านของบ้านผมมาตลอดเกือบ10 ปีแล้ว ถ้าผมซื้อที่ดินผืนนั้นมาปิดบ้านตัวเองผมมีสิทธิ์ให้เจ้าของที่ นาง ก. ไม่สามารถผ่านได้ไหม
ตอบ  ถ้ายังไม่มีการจดทะเบียนภาระจำยอม  ก็คงห้ามผู้อื่นใช้สัญจรได้  แต่ถ้าทีดินเป็นที่ตาบอด    เขาอาจร้องขอเปิดทางจำเป็น   โดยยอมจ่ายค่าทดแทนได้
3.ถ้าผมไม่ออกจากที่ดินนั้นผมสามารถทำอย่างไรได้บ้าง  ถ้าผมรอ ถึง 10 ปี ผมจะได้เปรียบไหม ในเมื่อเค๊าฟ้องขับไล่แล้ว
ตอบ    เมื่อมีการฟ้องขับไล่  ขั้นตอนต่อไปคือการบังคับคดี  คือให้คุณย้ายออก   ถ้าขัดขืนอาจมีโทษถึงขั้นถูกจำคุกได้  จะหวังครอบครองอยู่เกินสิบปี  เพื่อได้กรรมสิทธิ์  เขาน่าจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้คุณแน่นอน
4.ในการซื้อขายที่ดินที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็นมากแค่ไหน ใน ครั้งนี้
ตอบ   ในครั้งนั้น ที่ไปจดทะเบียนจำนอง   เขาคงให้พ่อมอบอำนาจให้เขา  พ่อคงไม่ระบุให้ชัดเจนว่าให้ไปจดจำนอง    เขาคงระบุว่าให้ไปจดทะเบียนโอนเพื่อขาย  หรือโอนให้ นาง ก.  เรื่องสำคัญขนาดนี้ไปไว้วางใจให้ผู้อื่นทำแทน  ย่อมมีปัญหาตามมาแน่นอน  การไว้วางใจผู้อื่นจนเกินไป  ย่อมเกิดผลร้ายดังที่ประสบอยู่......เจ้าพนักงานที่ดินเมื่อเขาตรวจดูเอกสาร คือใบมอบอำนาจว่าถูกต้องสมบูรณ์เขาก็ดำเนินการไป   ตามระเบียบและกฎหมาย   คงไปตำหนิเขาไม่ได้
5.ผมไม่เห็นโฉนดที่ดินผมไม่ทราบว่าเค๊าจะโกหกเพื่อเอาเงินผมเฉยๆ หรือเปล่า แต่มีหมายสารมา ผมสามรถดูได้ยังไงเชคได้ยังไงว่าเป็นของจริง
ตอบ   ไปตรวจสอบดูที่สำนักงานที่ดินก็ได้  ว่า ที่ดินแปลงนี้ปัจจุบันใครเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์   แต่เมื่อมีหมายของศาลมา  ก็คงค่อนข้างแน่นอนว่า  ที่ดินเป็นของเขาแล้ว
6.ผมไม่สามรถทำอะไรเลยนอกจากซื้อที่ดินคืนอย่างเดียวเท่านั้นใช่ไหมคับ เงินก็ไม่มี หนี้สินก็เยอะ คนเรานิสัยแบบนี้ไม่อยากเชื่อว่ามีอยู่จริง
ตอบ   ก็ลองปรึกษาทนายความดูว่า  เขามีช่องทางจะฟ้องเพิกถอนการซื้อขาย  หรือเพิกถอนการโอนได้หรือไม่  อย่างไร......ผู้ร้ายในนวนิยาย  เป็นเรื่องสมมุติให้ดูกันเพลินๆ  บางคนอาจหลงหมั่นไส้ผู้ร้ายไปด้วย  แต่เมื่อดูจบก็คงลืมกันไป     แต่ผู้ร้ายในชีวิตจริง  แสบสันกว่านวนิยายหลายเท่า    และผู้ประสบจะจำติดตาตรึงใจไปตราบชั่วชีวิต  มีลูกหลานก็จงอบรมสั่งสอนว่าอย่าไว้ใครจนเกินไป
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 วันที่ตอบ 2010-10-12 11:04:07 IP : 125.26.108.45


ความคิดเห็นที่ 2 (3217468)

ขอขอบพระคุณมากคับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น 312 วันที่ตอบ 2010-10-12 13:36:50 IP : 115.87.198.39



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.