บริษัท กวนจังคุน จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจรับซื้อและจำหน่ายรถยนต์มือสอง โดยมีนายสนุก และ นายสนาน เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัท โดยข้อบังคับของบริษัทได้ระบุให้กรรมการแต่ะคนมีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทได้โดยลำพังผู้เดียว

            หลังจากจัดตั้งบริษัทได้ไม่นาน นายสนาน ประสบอุบัติเหตุต้องเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ในระหว่างนั้น นายสนุก เห็นว่าบริษัทจำเป็นต้องกู้ยืมเงินมาใช้เป็นทุนในการดำเนินการธุรกิจเป็นการด่วน หากจะรอนายสนานก่อนก็เกรงว่า จะไม่ทันการ  นายสนุกเห็นว่านายสงัดบิดาของนายสนาน มีฐานะมั่งคั่งจึงได้ตัดสินใจลงนามทำสัญญากู้ยืมเงินมาจากนายสงัดเป็นจำนวน 10 ล้านบาท โดยนายสงัดนัดให้นายสนุกใปรับเงินในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะได้ไปรับเงินนาย สนาน หายจากอาการป่วยและกลับมาทำงานที่บริษัทได้ตามปกติ นายสนุกจึงแจ้ให้นายสนาน ทราบถึงการลงนามทำสัญญากู้ยืมเงินกับนายสงัด นายสนาน จึงได้แจ้งแก่นายสนุกว่าตนเห็นด้วย พร้อมกันนี้นายสนุก ได้มอบหมายให้นายสนาน เป็นผู้ไปรับเงินจำนวนดังกล่าวจากนายสงัด

            เมื่อได้รับเงินจากนายสงัดเรียบร้อยแล้ว นายสนานไม่ได้ส่งเงินให้กับนายสนุกแต่อย่างใด กลับนำเงินดังกล่าวไปซื้อรถยนต์ยี่ห้อเมอร์ซิเดส เบนซ์ หนึ่งคันราคา 4 ล้านบาท มาขับเล่น ส่วนที่เหลือก็ใช้จ่ายจนหมดสิ้น หลังจากนั้นอีกสามวันนายสนานได้ขับรถยนต์ดังกล่าวไปทำงานที่บริษัทตามปกติ แต่เนื่องจากนายสนานได้ขับรถด้วยความประมาทเลินเล่อ ทำให้รถเกิดเสียหลักไปชนนายสะบอมซึ่งกำลังเดินข้ามทางม้าลายด้วยความระมัดระวัง

            ดังนี้เมื่อหนี้เงินกู้ถึงกำหนดชำระ นายสงัดได้ไปทวงให้บริษัทชำระหนี้ แต่นายสนุกปฏิเสธ อ้างว่าสัญญากู้เงินดังกล่าวไม่มีผลผูกพันบริษัทเพราะ ผลประโยชน์ได้เสียขัดกันและบริษัท ก็ไม่เคยได้รับเงินจำนวน 10 ล้านบาทจากนายสงัดแต่อย่างใด

ให้ท่านวินิจฉัยว่า

ก.     ข้อต่อสู้ของนายสนุกฟังขึ้นหรือไม่     

ข.      บริษัทต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่นายสะบอมหรือไม่ เพราะเหตุใด