สค.1 เป็นเพียงหนังสือที่พนักงานเจ้าที่ลงรับไว้เป็นหลักฐานว่าได้รับการแจ้งการครอบครองเท่านั้น หาใช่หนังสือแสดงกรรสิทธิ์ในที่ดินนั้นแต่อย่างใดไม่

ซึ่งที่ครอบครองการทำประโยชน์ต่อเนื่องจากผู้แจ้ง สค.1 สามารถนำ สค.1 ดังกล่าวไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ แต่ทั้งนี้เลยวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 53 มาแล้ว ผู้ที่ไปยื่นคำขอออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยอาศัยหลักฐาน สค.1 จะต้องนำคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดว่าเป็นผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินโดยชอบด้วยกฏหมายอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฏหมายที่ดินใช้บังคับไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย

ส่วนที่ว่าคุณจะบุกรุกเพื่อให้ที่ดินมาเป็นของตนนั้น (ตามที่ผมเข้าใจคำถามนะ) ถ้าจะให้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินของบุคคลใดจะต้องครอบครองที่ดินนั้นโดยสุจริต และเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ และต้องครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปีครับ ถึงจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น แต่อย่างที่กล่าวไปแล้วในกรณีของคุณที่ดินแปลงนี้หาได้มีกรรมสิทธิ์มาตั้งแต่แรกเพียงแต่เป็นการแย่งการครอบครองกันเท่านั้นครับ

ถ้าคุณแม่ครอบครองที่ดินในฐานะเป็นเจ้าของ ย่อมมีสิทธิดีกว่าบุคคลอื่น   เมื่อเจ้าของ  สค.1    ยื่นเรื่องเพื่อขอออกเป็นโฉนดที่ดิน  เมื่อมีการรังวัดชี้แนวเขต    คุณแม่สามารถคัดค้านไม่ให้ชี้แนวเขตล้ำเข้าไปในที่ดินที่ครอบครองอยู่ได้    และถ้าคุณบุกรุกเข้าไปยึดครองในที่ดิน  เพื่อครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของ    ถ้าเจ้าของไม่โต้แย้งภายในหนึ่งปี    เขาย่อมหมดอำนาจฟ้อง  คุณย่อมีสิทธิเหนือกว่าบุคคลอื่นเช่นกัน.....ที่  สค.1   เจ้าของมีเพียงสิทธิครอบครอง   ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์  ถ้ามีผู้แย่งการครอบครอง ถ้าไม่ฟ้องร้องภายในหนึ่งปี    ย่อมขาดสิทธิการครอบครอง   ผู้ครองครองอยู่สามารถยกเรื่องการครองครองขึ้นต่อสู้  เพื่อไม่ให้ผู้ใดมารบกวนการครอบครองได้