คือต้องถามก่อนว่า กรณีของคุณศาลมีคำพิพากษามารึยังว่าให้จ่ายเท่าไหร่ เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว คุณต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล หากคุณไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธิจะบังคับคดีได้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธิจะบังคับตามคำพิพากษา และ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยึดหรืออายัดทรัพย์สินของคุณได้ แต่ต้องเป็นไปตามกฏหมายคือ ผู้ที่จะไปดำเนินการนั้นก็คือเจ้าพนักงานบังคับคดีเท่านั้น ตัวเจ้าหนี้ไม่สามารถที่จะไปยึดทรัพย์ลูกหนี้เองได้ หากว่าเจ้าหนี้ไปดำเนินการยึดทรัพย์เองแล้วละก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ลูกหนี้มีสิทธิปฏิเสธไม่ให้เขายึดได้ การไปยึดทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้นตัวเจ้าพนักงานไม่ได้ไปด้วยตัวเองเพียงลำพัง แต่ว่าตัวเจ้าหนี้หรือผู้แทนของเจ้าหนี้จะไปด้วย ที่เขาต้องไปด้วยก็เพราะในการยึดทรัพย์สินภายในบ้าน เช่น ทีวี ตู้เย็น หรือรถยนต์ก็ตาม ตัวเจ้าหนี้จะเป็นผู้ชี้ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึด

คือ ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าเจตนาที่คุณอยากจะไปจ่ายเองกับกรมบังคับคดีนั้นคืออะไร และเรื่องนี้เจ้าหนี้ได้ฟ้องศาลให้บังคับคดีแล้วหรือยัง ถ้าฟ้องมาแล้วก็แสดงว่าจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายนั้นพิสูน์มาแล้วว่าเป็นค่าเสียหายหรือค่าทดแทนอันควรจะเป็นที่เจ้าหนี้ควรจะได้รับเพราะต้องผ่านการสืบพยานหลักฐานของทั้งจำเลยและโจทก์มาแล้วเมื่่อคุณมีหลักฐานว่าได้จ่ายไปแล้วยอดเงินก็น่าจะลดลง(ถ้าค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายไม่มาก) เพราะดูเหมือนคุณจะยังสงสัยว่าตัวเองอาจจะถูกเอาเปรียบจากยอดหนี้ที่สูงเกินเหตุอยู่ ซึ่งถ้าผ่านการขึ้นศาลมาแล้วคุณก็ต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐานหรือต้องผ่านขั้นตอนการไกล่เกลี่ยหรือตกลงกันมาแล้วว่าได้จ่ายไปเท่าไหร่หรือควรจะจ่ายอีกเท่าไหร่ หรือคุณไม่ได้ไปตามศาลนัด  หรือไม่ อย่างไร ช่วยอธิบายหน่อย