เมื่อพี่น้องทุกคนมีชื่อในโฉนดที่ดินทั้ง 5  คน  ผลทางกฎหมายคือทุกคนมีส่วนคนละเท่าๆกัน  เว้นแต่มีหลักฐานการแบ่งปันของพ่อแม่ระบุไว้ชัดเจนดังกล่าวข้างต้น  แต่อย่างไรก็ตามหากพี่น้องบางคนจะขาย   คนอื่นที่ไม่เห็นด้วยสามารถปฏิเสธไม่ยอมขายได้เสมอ  ถ้าตกลงกันไม่ได้  ก็สามารถไปยื่นคำร้องให้เจ้าพนักงานที่ดินออกรังวัดและแบ่งแยกโฉนดที่ดินเป็นของแต่ละรายได้  แปลงไหนเขาอยากขายก็ปล่อยเขาไป เมื่อแยกโฉนดที่ดินแล้ว........แต่สิ่งที่พึงระมัดระวังพี่น้องสามคนที่ต้องการขาย  คงไม่รามือง่ายๆ  เพราะราคาขายที่สูง  คือถ้าขายทั้งแปลงจะมีราคาถึง  50 ล้านบาท(ตามที่คุณบอกว่าไร่ละ  1ล้านบาท)  เขาอาจใช้วิธีปลอมแปลงเอกสาร  คือปลอมลายมือชื่อผู้ไม่ยอมขาย  และขโมยสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน  ไปทำหนังสือมอบอำนาจให้ขายได้ เพราะมีตัวอย่างมามายในสังคม    กว่าจะรู้ตัวที่ดินก็ถูกขายเปลี่ยนมือไปแล้ว  การฟ้องร้องเพิกถอนก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ  ถ้าสามารถแจ้งกับเจ้าพนักงานที่ดินให้รับทราบไว้เป็นหลักฐานว่า  ที่ดินแปลงนี้จะไม่มีการจดทะเบียนซื้อขาย    ถ้ามีผู้มียื่นเรื่องทำเรื่องการจดทะเบียนโอน  ก็ให้แจ้งให้ทราบ  ก็คงพอปัญหาได้.......แต่อย่างไรก็ตามอำนาจเงินนั้นมากมายเหลือคณานัก   ถ้าไปยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ขาย    คงเกิดการแตกแยกในหมู่พี่น้องแน่นอน  และผู้ซื้อคงมีโครงการทำกิจการอะไรที่เป็นโครงการใหญ่พอสมควร  ถ้าไปปฏิเสธไม่ขายท่าเดียว   อาจไม่ปลอดภัยในชีวิตก็เป็นไปได้    ถ้ายอมทำใจยอมรับสภาพ   ใครอยากขายก็ขายไป  เมื่อแบ่งปันเงินตามสิทธิแล้ว    ก็นำเงินไปซื้อที่อื่น  ก็จะยุติปัญหาต่างๆได้ทั้งหมดครับ