ไม่บอกให้ชัดเจนว่า  ที่ดินนั้นมีเอกสารสิทธิ์เป็นอะไร   เช่น  สค.1     นส.3  หรือโฉนดที่ดิน เป็นต้น......ถ้าเป็น  สค.1  หรือ  นส.3    ผู้ครอบครองอยู่ย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้อื่น      ถ้าเป็นโฉนดที่ดิน  ถ้าครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของ เป็นเวลาสิบปี  ผู้ครอบครองอยู่ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในฐานะผู้ครอบครองปรปักษ์   แต่ต้องไปร้องศาลเพื่อเปลี่ยนแปลงชื่อในโฉนดที่ดิน  จากเจ้าของเดิม  มาเป็นของตนผู้ครอบครอง   ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน  ในเมื่อเจ้าของขายต่อไปเป็นทอดๆ   ถ้าเจ้าของรายล่าสุด  ได้รับโอนมาไม่ถึงสิบปี  สิทธิการครอบครองปรปักษ์ย่อมขาดตอน  เจ้าของรายล่าสุด  คงอ้างว่า  ได้รับโอนมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน   จึงฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองอยู่ได้.......ก็ถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง   ที่อาศัยอยู่ในที่ดินของผู้อื่น   โดยไม่จัดการเรื่องสิทธิอาศัยให้ถูกต้อง   เช่นทำสัญญาเช่า  หรือถ้าครอบครองถึงสิบปี   ก็ต้องร้องศาลเพื่อแสดงกรรมสิทธิ์  ในเมื่อปล่อยปละละเลย  เจ้าของที่ดินที่ทันเกมและรู้ขั้นตอนของกฎหมายเป็นอย่างดี   เขาก็ใช้วิธีขายต่อเป็นทอดๆเพื่อ ตัดตอนอายุความครอบครองปรปักษ์......เรื่องการเรียกร้อง    ก็ลองเจรจากับเจ้าของเขาดู  บางทีเขาอาจมีแก่ใจ ยอมชดใช้ให้ตามสมควร  แต่อย่างไรก็ตาม   การตอบ   ตอบตามข้อเท็จริงที่เล่ามา อาจผิดพลาดได้   ควรปรึกษาทนายความอีกที   อาจมีช่องทางต่อสู้  ที่ไม่ต้องเสียเปรียบจนเกินไปครับ

คืนเขาไปเถอะครับเพราะเราอาศัยเขาอยู่จริง ๆ และบ้านใกล้เคียงก็คงทราบว่าเราอาศัยอยู่ หากจะขออยู่ต่อก็ลองคุยกับเขาเพื่ออยู่ในส่วนอื่นได้ไหมที่ไม่อยู่ในขอบเขตที่จะสร้างบ้านจัดสรร หากฟ้องร้องก็คงจะเสียเงินเสียทองเปล่า ๆ และโอกาสชนะนั้นมีน้อยมาก หากขออยู่ต่อไม่ได้ก็ต้องลองพูดค่ารื้อถอนและขอระยะเวลาหาที่อยู่ใหม่ก่อนนะครับ ขอให้เรื่องจบด้วยดีนะครับ