สืบเสาะก็คือ  สอบสวนถึงภูมิหลังว่า  มีตำแหน่งหน้าที่การงานอะไร   มีคุณงามความดีอะไรบ้าง  เคยก่อคดีความอะไรหรือไม่  มีความประพฤติเป็นอย่างไร  เป็นต้น เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาว่าสมควรจะลดหย่อนผ่อนโทษให้มากน้อยเพียงใด

ในทางสืบเสาะนี้จะมีการสอบสวนภูมิหลังของโจทก์ด้วยหรือไม่ และในการไกล่เกลี่ยจำเลยยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แต่โจทก์ไม่ยอมรับ อันนี้มีข้อแนะนำไหมว่า จะทำอย่างไรจึงจะพอลดหย่อนโทษได้

ศาลอาจให้สืบเสาะเรื่องของโจทก์ด้วย  เพื่อประกอบการพิจารณา  เพราะคดีหมิ่นประมาทเป็นความผิดต่อส่วนตัว เมื่อมีการฟ้องร้องและเรียกค่าเสียหาย  ก็ต้องดูเดิมพันของหรือภูมิหลังของโจทก์ด้วยว่า  มีคุณงามความดี  หรือมีเกียรติยศชื่อเสียงในสังคมมากน้อยเพียงใด  คนที่มีชื่อเสียง  หรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานในระดับสูงในสังคม  อาจมีการเรียกร้องค่าเสียหาย  เป็นร้อยล้านพันล้านบาท  เคยมีคดีตัวอย่าง ระดับนายพลท่านหนึ่ง   ได้ฟ้อง  นสพ. ฉบับหนึ่ง  เรียกค่าเสียหายที่หมิ่นประมาท   ศาลให้ชดใช้ค่าเสียหายเงินเป็นล้านบาท  ก็เป็นข้างฮือฮากันพอสมควรในยุคนั้น  ลองเข้าไปใน http://www.deka2007.supremecourt.or.th/  เพื่อดูตัวอย่างคดีหมิ่นประมาทบ้างก็ได้    ระดับประชาชนอย่างเราๆทั่วไป  ค่าเสียหายคงเป็นแค่หลักพันหลักหมื่นบาท  กรณีของคุณถ้าโจทก์เขาไม่ยอมรับการชดใช้หรือไม่ยอมรับการไกล่เกลี่ย  ศาลก็ต้องพิจารณาคดีไปตามขั้นตอน คือเข้าห้องพิจารณาคดี  เพื่อสืบพยานรวบรวมหลักฐาน  และพิจรณาคดีต่อไป   ศาลจะลงโทษอย่างไร หรือลดหย่อนผ่อนโทษมากน้อยเพียงใด  เป็นดุลยพินิจของศาลโดยเฉพาะ

ขอเล่าเพิ่มเติมว่าข้าพเจ้าเคยฟ้องโจทก์ในคดีเช็คและได้เงินคืนจนครบมาอย่างยากๆ ต่อมาทราบว่าโจทก์มีคดีเช็คอีกหลายคดี  เนื่องจากโจทก์เป็นผู้มีชื่อเสียงว่าเป็นคนดีใครไม่รู้ภูมิหลังเรื่องเครดิตมักหลงเชื่อถือ  จึงโพสต์ข้อความเล่าเรื่องตนเองให้สังคมฟังแต่มีคำว่า "ไม่รู้ว่าคนอื่นจะได้เงินคืนครบหรือเปล่า"" อันนี้ท่านว่าผิด ม.326 ขอคำอธิบาย จะแก้ตัวอย่างไรได้

คำพูดที่ส่งไป  จะมีความผิดฐานหมิ่นประมาทเป็นปัญหาข้อกฎหมาย  ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลเป็นสำคัญ  ถ้าท่านมองว่าเป็นการใส่ความผู้อื่นทำให้เขาเสียชื่อเสียง  คือทำนองว่าเขาเป็นคนขี้โกง  คือไม่ยอมคืนเงินแก่เจ้าหนี้  คุณก็คงมีความผิด   แต่ถ้าท่านมองว่า คุณแสดงความเห็นโดยสุจริตตาม มาตรา  329 คุณก็คงไม่มีความผิด  ถ้ามีการฟ้องร้อง  การไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว  ก็ต้องหาทนายความมือดีช่วยเหลือในการต่อสู้  ก็ต้องว่ากันถึงฎีกา  ให้หายค้างคาใจไปเลย    ก็อยากยกตัวอย่างคดีหมิ่นประมาทที่เป็นข่าวใหญ่  คือนายพลท่านหนึ่งฟ้องเรียกค่าเสียหาย  20  ล้านบาท  และชนะคดี  แต่จำเลยไม่มีเงินชดใช้  โจทก์จึงฟ้องล้มละลาย  แต่ศาลท่านบอกว่าเป็นหนี้ที่ไม่อาจกำหนดจำนวนแน่นอน  จึงยกฟ้อง  ก็เล่าให้ฟังเพื่อให้คุณสบายใจบ้าง อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด  เมื่อเหตุมันเกิดแล้ว  ก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้  คงต้องไปตายกันดาบหน้า

ขอขอบคุณที่ท่านได้ให้ความกระจ่างและขออวยพรให้ท่านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป