หากว่าการจำนองมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จะเป็นโมฆะตามมาตรา 714 ประกอบมาตรา 152 ครับ ผลคือเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิเหนือทรัพย์สินนั้น คงมีแต่เพียงสิทธิที่จะใช้เรียกร้องคุณได้ตามสัญญากู้ยืมเงินที่ทำไว้เท่านั้นครับ

1. เมื่อครบกำหนดแล้ว เจ้าหนี้จะไม่มีสิทธิมายึดที่ดินหรือบังคับจำนองไปขายทอดตลาดได้ครับ เพราะมิได้จดจำนองเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนให้ถูกต้องตามแบบที่กฏหมายกำหนดจึงไม่ใช่จำนอง ฉนั้นจึงไม่มีสิทธิบังคับจำนองได้ครับ คงมีแต่เพียงสิทธิเรียกร้องระหว่างคู่สัญญาเท่านั้น

2. ปกติแล้วถ้าทรัพย์ที่จำนองมีราคามากว่ามูลหนี้ ก็สามารถไปจำนองแก่บุคคลอีกคนหนึ่งได้ครับตามมาตรา 712 กฏหมายไม่ได้ห้ามไว้เพราะราคาทรัพย์มันมีมูลค่ามากกว่ามูลหนี้นั่นเอง แต่การมอบโฉนดที่ดินให้เจ้าหนี้ยึดไว้เป็นประกันการชำระหนี้ โดยไม่ได้จดทะเบียนจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 714 ไม่เป็นการตราไว้เป็นประกันการชำระหนี้ตามมาตรา 702 จึงไม่เป็นการจำนอง แม้เอกสารโฉนดที่ดินจะเป็นสังหาริมทรัพย์ แต่การมอบเอกสารดังกล่าวให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้มิได้กระทำโดยเจตนาจะใช้เอกสารนั้นเป็นประกันการชำระหนี้ โดยการเอาเอกสารนั้นออกขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินมาชำระหนี้ การมอบโฉนดที่ดินให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้จึงไม่เป็นการจำนองหรือจำนำ แต่เจ้าหนี้ก็ยังคงมีสิทธิตามสัญญาที่จะยึดเอกสารนั้นไว้ ซึ่งมีผลทำให้ลูกหนี้จำหน่ายจ่ายโอนหรือทำนิติกรรมใด ๆ ในทรัพย์สินตามที่ระบุในเอกสารดังกล่าวได้ยากอันเป็นประโยชน์แก่เจ้าหนี้ครับ สรุป ถ้าเจ้าหนี้ยอมคืนโฉนดคุณก็เอาไปจำนองกับธนาคารได้อยู่แล้วครับเพราะมันไม่ได้ติดจำนองตั้งแต่แรกดังเหตุผลที่กล่าวไป แต่ส่วนใหญ่เจ้าหนี้มักจะไม่ยอมคืนจนกว่าจะได้รับชำระหนี้ครับ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหนี้ก็ไม่มีสิทธิในที่ดินนั้นครับเพราะมิได้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิเหนือทรัพย์สินนั้นแต่อย่างใด