1. ก็คงพอป้องกันได้

2. ถ้าเขายินยอมคุณก็สามารถนำไปซ่อมให้ได้ 

3.-4  รถที่ผ่อนยังไม่หมด  ก็มีมากมายที่ไม่ยอมไปทำประกัน  เมื่อไม่มีประกัน  ก็ย่อมไม่ได้รับการคุ้มครอง

5  เป็นเรื่องทางแพ่ง  เบื้องต้นก็อยู่ที่การตกลงกัน   ขอบเขต ก็คือชดใช้ตามที่เขาเสียหายจริง

6.การฟ้องร้อง  ใครจะแพ้หรือชนะ  เป็นเรื่องของศาล    ตอบไปก็คือการเดาส่งเดช 

7.ค่าทนาย  อยู่ที่ตกลงกัน   แต่เรืองแค่นี้น่าจะไม่มีการฟ้องร้องถึงศาล   ค่าเสียหายคุณก็ชดใช้ไปแล้ว  เขาคงเรียกร้องอะไรอีกไม่ได้หรอก

เงิน หมื่นกว่าบาท ฟ้องไปอาจจะได้ไม่คุ้มเสียนะครับ แนะนำว่าตกลงกันด้วยดี ๆ กว่านะครับ ผมว่าจะตกลงกันได้ไม่ยากครับ

 หลานขับรถไปซื้อของ ทางตรง มีสุนัขร้านรถยนต์มือสอง วิ่งข้ามถนนตัดหน้ากระทันหัน ชนเต็มๆ แต่สุนัขไม่เป็นไร หลานดิฉันถลอก ตามแขนขา ตรงหลังเท้าเนื้อเปิด หัวเข่าบวมข้างขวา รถมอไซร์เป็นของดิฉัน เสียหายเล็กน้อย เจ้าของสุนัข จ่ายค่าซื้ออะไหร่ให้ดิฉัน มาใส่เอง 2พันกว่าบาท แล้วให้ค่ารักษามา1000บาท แต่ดิฉันไม่ค่อยมีเงิน จึงใช้ พรบ รถมอไซร์ยื่นกับทางโรงพยาบาลแทน ไม่ต้องสำรองจ่าย แต่หลานบ้านอยู่สายคลอง ปทุมธานี ซึ่งเกิดเหตุ แถวดอนเมือง แถวบ้านดิฉัน ซึ่งไกลพอสมควร ดิฉัน จึงให้หลานไปคุยกะเจ้าของสุนัข ว่าขอค่าเดินทางในการ มาทำแผล หรือค่าเสียหาย เสียเวลาเพิ่มอีกแค่2000บาท  แล้วเรื่องค่ารักษา เดียวเอา พรบ รถมอไซร์ ยื่นเบิกเอา แต่เจ้าของเขา พูดว่า 3000 บาท ที่เขาได้จ่ายให้ไป ก็รับผิดชอบมากแล้วนะ แต่หลานดิฉัน ต้องทำแผลอีกตั้งหลายวัน แล้วเขาก็พูดว่า ถ้างั้นก็ไปฟ้องเอาเถอะ วันนี้ิฉันก็เลยไปแจ้งความ ที่ สน.ดอนเมือง ตำรวจเจ้าของเวร พูดปัดขอไปที กว่าจะลงบัญทึกเพื่อแจ้งความ ให้ได้ ตำรวจเขาพูดว่า ไม่มีใครเขามาแจ้งความเรื่องหมากันหรอก 

ดิฉันแค่อยากขอคำปรึกษาค่ะว่า ตอนนี้ดิฉันรู้บ้าน ว่าเป็นสุนัขบ้านนี้มีพยาน เป็นบ้านฝั่งตรงข้ามกัน 

ดิฉันสามารถเอาใบแจ้งความ รูปถ่ายบ้าน กับเลขที่บ้านกับคำให้การ ไปยื่นเรื่องที่ศาลได้เลยไหมค่ะ

แล้วดิฉันต้องไปที่ศาลไหนค่ะ

ศาลฎีกา

ศาลอาญา

ศาลแพ่ง

ขอบคุณร่วงหน้านะค่ะ