การเช่า

  เมื่อมีการฟ้องขับไล่  และศาลให้ย้ายออกไปและให้รื้อถอนอาคารในที่เช่า  เมื่อผู้เช่าย้ายออกไป และมอบกุญแจไว้ให้ โดยสามัญสำนึกของคนทั่วไป ผู้ให้เช่าก็สามารถไขกุญแจเข้าอาคารที่เช่าได้  แต่ขอแนะนำว่า ขอให้อดทนใจเย็นอีกนิด   เพราะอาจจะเจอผู้เช่าประเภทหัวหมอ  แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ให้เช่าได้  เช่นข้อหา บุกรุก ข้อหาลักทรัพย์   เป็นต้น  ซึ่งข้อหาเหล่านี้ ล่อแหลมและเสี่ยงในปัญหาข้อกฎหมาย  ถ้ามีการแจ้งความ ตำรวจก็คงเรียกผู้ให้เช่าไปสอบสวน หรือสอบถามข้อเท็จจริง   อาจจะมีแจ้งข้อหาผู้ให้เช่า ตามที่ผู้เช่าแจ้งไว้ก็ได้  ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงมีปัญหากวนใจตามมามากมาย  ต้องไปพบตำรวจ อัยการ หรือ อาจจะต้องขึ้นศาล  หลายครั้งหลายหน  เสียเวลา เสียความรู้สึก  โดยไม่จำเป็น และมีผู้เช่า   งัดเรื่องภาษีเงินได้มาใช้ เล่นงานผู้ให้เช่า  ต้องสะบักสะบอมมาแล้วมากมาย   คือถ้าผู้ให้เช่า ไม่ยื่นเสียภาษีเงินได้ในการให้เช่า ให้ถูกต้อง  ตามกฎหมายถือว่าเป็นภาษีคงค้าง  อธิบดีฯสามารถยึดทรัพย์ของผู้ที่ไม่ชำระภาษีฯให้ถูกต้อง ออกขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้ภาษี  โดยไม่ต้องมีการฟ้องร้องบังคับคดีดังเช่นคดีทั่วไป   และอธิบดีฯ สามารถมอบอำนาจให้ผู้ว่าฯ หรือนายอำเภอ ทำการแทนได้ ตาม ประมวลรัษฎากร ฯ ม.12

  ทางแก้ปัญหาที่สันติ  อาจจะช้าไปนิดแต่ปลอดภัย คือ  ไปแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ว่า  ผู้เช่าไม่ยอมรื้อถอนอาคารตามคำพิพากษา  เจ้าพนักงานฯ สามารถรื้อได้เอง  โดยผู้เช่า(จำเลย) ต้องออกค่าใช้ค่าใช้จ่าย และสามารถนำวัสดุที่รื้อถอนออกขายฯ เพื่อใช้หนี้ ตามคำพิพากษาได้  ช่องทางนี้อาจจะช้าไปนิด แต่เด็ดขาดปลอดภัย  ด้วยความปรารถนาดี ครับ

 ขอบพระคุณท่าน มโธรรม มากครับ