ReadyPlanet.com


ขอถามต่อ ถูกไล่ออกจากบ้านค่ะ


ขอถามต่อ ถูกไล่ออกจากบ้านค่ะ
แจ้งลบกระทู้


ขอถามปัญหาค่ะ

ดิฉันอยู่กับสามียังไม่ได้จดทะเบียนสมรสสร้างบ้านอยู่ด้วยกัน1หลัง

โดยสามีเป็นคนขอเลขที่บ้าน

แต่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

ส่วนดิฉันมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นเจ้าบ้าน

และภายหลังได้จดทะเบียนสมรสอยู่กันได้10ปี

เลิกกันและได้อย่าขาดกันแต่ไม่ได้แบ่งทรัพย์กัน

และดิฉันก็ยังอยู่ในบ้านหลังนี้สามีอยู่บ้านแม่

ต่อมามีเรื่องทะเลาะกันสามีบอกจะไปคัดชื่อดิฉันออกจากทะเบียนบ้านหลังนี้

และไล่ดิฉันออกจากบ้านหลังนี้

ขอถามว่า

ดิฉันจะคัดชื่อดิฉันออกจากทะเบียนบ้านได้ไหม

และจะไล่ดิฉันออกจากบ้านได้ไหม

ขอบคุณค่ะ

 



 
ผู้ตั้งกระทู้ พรค่ะ :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-14 16:05:15 IP : 223.206.3.41
 

ความเห็นที่ 1 (3228956)
แจ้งลบความคิดเห็น

ต้องดูว่าบ้านนั้นเป็นของใคร เพราะถ้าบ้านมีก่อนจดทะเบียนสมรสจะถือเป็นสินส่วนตัวของของฝ่ายนั้น ซึ่งผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินย่อมมีกรรมสิทธิ์และมีสิทธิจะกระทำการอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนได้ทุกประการครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-12-14 22:37:25 IP : 58.9.29.95

ขอบคุณค่ะ

อยู่กินด้วยกันมาก่อนและสร้างบ้านด้วยเงินที่ทำมาหากินด้วยกันและอยู่ที่บ้านนี้มาประมาณ2ปีจึงไปจดทะเบียนสมรสค่ะ หลังจดอยู่กันเกือบ10ปีจึงอย่าขาดกันค่ะ

ขอถามคำถามเดิมค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ พรค่ะ :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-15 09:05:52 IP : 118.172.137.5


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3229026)

ถ้าเป็นบ้านที่สร้างด้วยเงินที่ทำมาหากินร่วมกันหรืออาจจะเรียกได้ว่าออกเงินคนละครึ่งหรือช่วยกันออก ก็น่าจะรับฟังได้ว่าเป็นเจ้าของรวมกัน ถ้ามีได้ตกลงไว้เป็นอย่างอื่นกฏหมายก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าของรวมทีส่วนเท่ากัน กล่าวคือมีกรรมสิทธิ์คนละครึ่งนึงครับ ฉนั้นสามีผู้ซึ่งมีกรรมสิทธิ์ในบ้านเพียงแค่ครึ่งเดียวย่อมไม่สามารถไล่คุณออกจากบ้านซึ่งคุณถือเป็นเจ้าของอยู่ด้วยได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-12-15 13:27:08 IP : 110.168.140.202


ความคิดเห็นที่ 2 (3229085)

ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

พรค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรค่ะ วันที่ตอบ 2010-12-15 21:02:01 IP : 182.53.147.176


ความคิดเห็นที่ 3 (3244109)

เล่าประสบการณ์ครับ หยาบคายนิดนึงครับ

        ผมเคยโดนไล่ออกจากบ้านนะ แต่มันนานมาแล้วละ ผมก็เรียนไปปกติ ตอนนั้น 18 เอง ตอนนี้ 29 แล้วละ มันเริ่มต้นง่ายๆเมื่อวันนั้นเป็นวันหยุดของผมที่ผมมีงานต้องทำคือสอบถามร้านค้าในที่ๆหนึ่งซึ้งผมต้องพิมพ์แบบฟอร์มซึ่งก็บังเอิญคือผมร้อนในมากแล้วพ่อของผมก็จะพาไปเทียวที่ต่างจังหวัดซึ่งผมก็ปวยมากขึ้นแต่พ่อก็หาว่าผมงี่เง่า จนกระทั่งกลับมาที่บ้านได้ 1 วันพ่อก้จะให้ไปหาหมอที่เท้า(เท้าผมเจ็บครับ)แต่หมอบอกว่า ยาหมดแล้วคอยไปหาแต่ยาผมเหลืออีกตั่ง 15 ครั้งแล้วผมก็บอกไปว่ายายังไม่หมด แต่แกก็ขึ้นเสียงมาว่า "ทำไมห่ะ มึงจะทำไรตอนกลางคืน" ผมก็ตอบแบบปกตินะ ว่า "ก็ยายังไม่หมดนี่น่า" แล้วแกก็ออกทะเลไปเลย ด่าผมหาว่า"ไม่รู้จังบุญคุณคน มึงไม่มีนำใจ เวลาใครไปเทียวมึ่งก็ทำหน้ามุย มึงเป็นห่าไรของมึงวะไอ้เฮีย.." ผมก็คุมอารมณ์อย่างมากแต่แล้วไปๆมาๆ แกพูดขึ้นมาว่า กูไม่ได้หวังอะไรในตัวมึงเลยไอ้ลูกบังเกิดเกล้า... ผมก็พูดไปว่า ประชดทำไม แกก็ขึ้นเลยครับ"ประชดเฮียไรมึง กุไม่หวังเฮียไรจากมึงเลย ไอ้ลูกเวร.." จากนั้นผมก็ขึ้นตามนะ(ตอนนั้นผมมีสติดีและคิดว่าเราทะเลากันทำไม) "ป๊า..ป๊าเป็นไรเนียทำไมต้องทะเลาะกัน" แต่แกพูดแรงและดังจนข้างบ้านต้องออกมาดูว่ามีเรื่องไรกัน  แกพูดว่า "กูสั่งเฮียไรมึ่งก็ไม่ทำได้มีแต่ปัญหา" ผมก็บอกไปว่านั้นมันผ่านมาเป็นเดือนแล้วนะ(ผมเคยเป็นเด็กกิจกรรมกลับบ้านดึงงานเยอะการเรียนตกตำมากแต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็กลับเป็นเหมือนเดิม) และเราก็ทะเลากันต่อจนแกพูดแบบดังสุดๆว่า "มึงออกจากบ้านกูไปเลยไอ้ระยำหมา ไอ้ลูกเฮย" พร้อมกับขว้างแก้น้ำแตกลงที่พื้อ ผมก็วิ่งขึ้นไปที่ห้องของผมแล้วก็เก็บกระเป๋าตัง(ช่วงนั้นมีประมาณ 69000 บาท จะไปซื้อคอมใหม่ในตอนแรก เงินนั้นเก็บเองตั้งแต่ ยัง 6 ขวบ + กับเงินที่ไป

เป็นลูกจ้างเขา 3 ปี)หนังสือ อุปกรณ์คอมต่างๆแล้วผมออกจากบ้านโดยมีถุงใหญ่ๆอยุ่แล้วออกจากบ้านไป (ดลกทั้งใบสลายหมดแต่ผมมีความหวังอยุ่ผมทำตามหลักการของตัวเองอย่างไรผุ้ต่อต้านเชกเช่นพ่อของผม) ตอนนั้นเวลาประมาน 7.30 PM ผมไปที่บ้านเพื่อนผม(เป็นหอพักครับ)แต่มันดันไม่อยู่ก็เลยไปขกุญแจจากเค้าเตอร์(ผมเป็นคนเช่าอยู่ด้วย)จากนั้นผมก็อยุ่ที่นั้นจนเพือนผมกลับมาแล้วผมก็คุยกับมันๆบอกว่ามึงจะเอาไงผมก็บอกไปว่าเดียวกูขออยุ่กับมึงไปก่อนก็แล้วกันจากนั้นไม่นานความสำเร็จของผมก็เกิดขึ้นผมได้ไปรับงานทำที่แห่งหนึ่งใน พันทิบ (ไปไกลมากจากบ้านมาก)แล้วผมก็บังเอยไปเห็นเข้าว่ามีที่สอนเขียนโปรแกรมผมก็ไปเรียนแต่เรียนไปๆมาๆรู้อยู่แล้วก็เลยเลิกจากนั้นผมก็คิดวิธีหาเงินแล้วก็คิดได้ว่าไปทำงาน VDO และ กราฟฟิกสิสิ (ผมชอบทำงานด้านสื่อมาตั่งแต่ ป.3) ผมก็เลยลงทุนเกิบหมดตัวหมดตัว ไปซื้อคอมมาประกอบพร้อมลงโปรแกรมต่างๆโดยเฉพาะตระกูล Adobe จากนั้นผมก็ไปประกาศหลายแห่งแต่ไม่มีคนสนใจเลย(ช่วงนั้นแย่มาก ผมอาศัยอยู่กับเพื่อนและไปทำงานที่พันทิบทุกวันแล้วก็ขาดทุนไปบ้างจากเงินที่ได้จากร้านหักกับการใช่จ่าย) ต่อมาประมาน 6 เดือนผมได้เจอกับคุณ สมชัยเขากำลังหาที่ทำโปรเตอร์แล้วก็มาติดต่อผมๆก็จัดเต้มที่เลย เขาเป็นคนดีมากค่าจ้างของผมที่ได้ควรจะเป็น 3000 บาท แต่มันกลับเป็น 4500 บาทเขาให้มากกว่าผมก็ขอบคุณเขาต่อมาไม่ถึงสัปดามัลุ้ค้าอีกคนมาเขาได้รับคำแนะนำจากคุณสมชัย ผมก็เลยจัดเต็มที่จนกระทั้งมีรากมีฐานขึ้นผมก็ทำอย่างนี้จนเวลาผ่านไป 2 เดือน พ่อแม่ก็มีการติดต่อกับผม(ส่งผ่านเพื่อนของเพื่อนอีกที่)แต่ผมไม่
ตอบกลับ เขาบอกว่า"ให้ผมกลับไปนะ จะได้หมดปัญหา" แต่ผมไม่กลับคืนนั้นผมดิ่งไปที่บ้านตนเองแล้วแนบข้อความไว้ว่า "ผมยังไม่ตายและจะไม่กลับด้วย ..." ผมก็กลับไปทำงาน
แบบเดิมต่อซึ่งพ่อกับแม่คงพอใจในเรื่องที่เกิดวันนั้น ผมทำแบบนี้จนอายุ 21 ผมก็มีเงินพอที่จะไปเขาเรียนมหาวิทยาลัยแล้วก็ไปสอบ ติดครับผมสอบติดแล้วก็เรียนไปจน กระทั่ง ปี 2546 พ่อของผมเสียผมก็ได้ไปที่งานศพแล้วกราบพ่อแล้วใจก็คิดว่าผมเองก็คงไม่ดี ที่วันนั้นออกไป แต่มันเกิดขึ้นไปแล้ว เราจะทำงานอย่างที่ทำมาและวันนั้นผมก็ได้คุยกับแม่แบบเปิดใจจากนั้นแม้ก็บอกว่ากลับบ้านมาเถอะนะแต่ผมก็บอกแม้ว่าเมื่อเวลามาถึงผมก็จะกลับไปเอง ตอนนี้ผมมีงานทำแล้วและเรียนอยู่ด้วย แม่ถึงกับงงไปเลยว่าเป็นไปได้ไงจากนั้นเราก็คุยกันอย่างเปิดใจ แล้วผมก็ดำเนินชีวิตต่อไปจนเรียนจบและเปิดทำงานธุรกิจด้านคอมอย่างหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันผมมีรายได้และดำรงชีวิตอยุ่ได้อย่างปกติ

*หมายเหตุ* หลังจากตอนที่เขียนจดหมายตอบผมก็รุ้ว่า พ่อของผมไม่แจ้งตำรวจเรื่องคนหายเนื่องจากเขาคิดว่า มึงทำได้ทำไป
ผู้แสดงความคิดเห็น VXO009 วันที่ตอบ 2011-05-03 22:12:04 IP : 58.9.75.71



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.