ReadyPlanet.com


สอบถามค่ะ (เจ้าหนี้)


เนื่องจากดิฉันได้ให้ลูกน้องที่ทำงานยืมเงินไป 37,000 บาท โดยคิดดอกเบี้ย ร้อยละ 10 แต่ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ไม่ได้ทำสัญญา มีแต่พยานบุคคล โทรไปตามก็ไม่รับ เลยส่งข้อความโตตอบกันโดยสรุปคือเค้าบอกว่าเค้าโกงจะไม่ชำระหนี้ให้เนื่องจากเราโง่เองที่ให้เค้ายืม แต่ดิฉันก็ทำใจแล้วตั้งแต่เค้าลาออกไปว่าคงไม่ได้เงินคืน ดังนั้นจึงอยากสอบถามดังนี้ค่ะ

1. ดิฉันสามารถทำจดหมายแจ้งให้ที่ทำงานใหม่ของเขาทราบได้ไหมว่าให้ระวังบุคคลคนนี้ในเรื่องของการให้ยืมเงิน เพราะเป็นคนขี้โกงยืมแล้วไม่ใช้

2. ดิฉันสามารถทำประกาศปิดประจาณตามที่สาธารณะได้หรือไม่

ขอบคุณค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ น้ำผึ้ง (nmusiphan-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-12 12:33:34 IP : 183.89.88.122


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3228559)

1. ตามหลักกฎหมายการกู้ยืมเงินเกินกว่า 2,000 บาทขึ้นไปจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้กู้เป็นสำคัญมิฉะนั้นจะฟ้องบังคับคดีกันหาได้ไม่ หลักฐานเป็นหนังสือนั้นแตกต่างจากการทำเป็นหนังสือ-หลักฐานเป็นหนังสือนั้นจะเป็นอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือเพียงแต่ขอให้มีลายมือชื่อผู้กู้คนเดียวและมีเนื้อความพอฟังได้ว่ามีการกู้เงินกันจริง ๆ ก็พอ ไม่จำเป็นต้องทำสัญญากู้ เช่น อาจจะอยู่ในรูปแบบจดหมายก็ได้ ซึ่งจากข้อเท็จจริงนี้คุณได้หาทำเช่นว่านั้นเลยไม่ จึงไม่อาจที่จะไปฟ้องร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้เลยครับเพราะไม่ทำตามแบบที่กฏหมายกำหนดไว้ ส่วนการที่คุณจะส่งจดหมายไปประจานลูกหนี้นั้นถือเป็นการละเมิดและอาจทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้ครับ ซึ่งคุณเองอาจจะโดนฟ้องในความผิดฐานละเมิดเรียกค่าเสียหาย และหมิ่นประมาทในทางอาญาได้ครับ

2. ถ้าจะทำก็ทำได้ แต่คุณเองก็จะมีความผิดฐานละเมิดและหมิ่นประมาทอย่างที่กล่าวไป ซึ่งอาจโดนฟ้องได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญาครับ อีกทั้งการเรียกดอกเบี้ยของคุณร้อยละ 10 นั้นก็เป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฏหมายกำหนดไว้ซึ่งเป็นความผิดอาญาที่มีโทษ โดยให้จำคุกไม่เกิน  1  ปี หรือปรับไม่เกิน  1,000  บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  อีกทั้งส่วนของดอกเบี้ยที่เรียกเกินอัตราที่กฏหมายกำหนดก็จะตกเป็นโมฆะด้วยครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-12-12 20:45:17 IP : 58.9.188.174


ความคิดเห็นที่ 2 (3228723)

อย่างนี้ก็เท่ากับว่าเราทำอะไรไม่ได้เลย แถมลูกหนี้ส่งข้อความมาตอกย้ำว่ามันโกงมันไม่ใช้เจ้าหนี้อย่างเราก็ทำะไรมันไม่ได้เลยหรือ อย่างนี้มันก็เที่ยวไปหรอกให้คนอื่นสงสารมันและก็ขอยืมเงินแล้วก็โกงเค้าไปทั่ว เพราะมันทำอย่างนี้มาหลายที่แล้ว ซึ่งการหมิ่นประมาทถ้าเป็นเรื่องจริงไม่เห็นน่าจะผิดเลย ชื่อเสียงถ้ามันกลัวเสียมันคงไม่โกง เพราะในที่ทำงานเก่าก็ร้ว่ามันโกงเค้าหลายคน

ผู้แสดงความคิดเห็น น้ำผึ้ง วันที่ตอบ 2010-12-13 20:49:18 IP : 27.130.46.23


ความคิดเห็นที่ 3 (3228757)

ที่มันทำอะไรไม่ได้เลยก็เพราะว่าคุณไม่ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฏหมายกำหนดไว้ครับ เพราะถ้าหากก่อนคุณให้เขายืมไปได้ทำสัญญากันตามแบบที่กฏหมายกำหนด คุณก็เรียกร้องได้เต็ม ๆ อยู่แล้วครับ 

ส่วนการหมิ่นประมาทนั้นถึงจะเป็นเรื่องจริงคุณก็ไม่มีสิทธิในอันที่จะไปละเมิดสิทธิของใครได้ครับ เพราะแม้ว่าการนั้นจะเป็นเรื่องจริง คุณพูดเรื่องจริงซึ่งคุณคิดว่ามันไม่น่าจะผิดตรงไหน แต่คุณอย่าลืมว่าสิ่งที่คุณทำลงไปนั้น ผลเสียที่มันจะตกกระทบไปถึงบุคคลนั้นก็คือ ทำให้เขาเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรืออาจถูกเกลียดชังได้ แม้มันจะเป็นเรื่องจริงและเป็นสิ่งที่เขาควรได้รับบทลงโทษกับสิ่งที่เขาทำไว้(ตามความคิดของคุณ) แต่มันก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแล้วครับในอันที่จะกระทบถึงสิทธิส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญที่ว่าประชาชนทุกคนที่สิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกันครับ ไม่มีใครมีสิทธิที่เหนือไปกว่ากันได้ กล่าวคือคุณไม่มีสิทธิ(ที่เหนือกว่า)หรืออำนาจตามกฏหมายที่จะไปกระทำการนั้นหรือไปพิพากษาตัดสินความผิดใครได้นั่นเองครับ(หากทำไปก็จะไปเข้าข่ายฐานความผิดทั้งในทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งมันชัดเจนและเขาสามารถเอาผิดคุณได้ครับ)  ก็เข้าใจความรู้สึกของคุณนะครับที่ถูกคนไม่ดีโกงแบบนี้ แต่ผลอันนี้มันก็มาจากการที่คุณประมาทไม่ทำสัญญาให้รอบคอบเสียก่อนฉนั้นผลจึงลงเอยแบบนี้ ก็ถือเป็นอุทาหรณ์และบทเรียนในครั้งต่อไปก็ได้ครับ  อีกทั้งการพิสูจน์หมิ่นประมาทนั้นถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวกฏหมายก็ห้ามไม่ให้พิสูจน์ด้วยครับ เพราะมันไม่เกิดประโยชน์อะไรกับสังคมหรือประชาชนครับ ฉนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้อยู่ดีครับหากเป็นเรื่องส่วนตัว  แต่ผมก็เชื่ออย่างนึงนะครับว่า เวรกรรมมีจริง สักวันกรรมนั้นก็จะส่งผลถึงเขาได้ไม่ช้าก็เร็วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-12-14 01:38:58 IP : 115.87.183.91


ความคิดเห็นที่ 4 (3228763)

เสริมนิดครับ ถ้าคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่าการพิสูจน์ในข้อหาหมิ่นประมาทของคุณนั้นมันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนอย่างไร(อันนี้สำคัญนะครับเพราะถ้าพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันเป็นประโยชน์กับประชาชนได้อย่างไร คุณจะต้องรับโทษตามเดิม) ก็สามารถพิสูจน์ได้ครับว่าข้อที่หาว่าหมิ่นประมาทนั้นเป็นเรื่องจริง คุณถึงไม่ต้องรับโทษครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-12-14 02:04:39 IP : 115.87.183.91


ความคิดเห็นที่ 5 (3228835)

1-2. อย่าได้คิดไปกระทำการดังที่คุณบอก.....ถ้ามีการฟ้องร้องหมิ่นประมาท  จะเสียเงินทองและเวลาทำมาหากินโดยใช่เหตุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อนัตตา วันที่ตอบ 2010-12-14 11:11:02 IP : 125.26.109.142



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.