ReadyPlanet.com


ผู้เช่าไม่ยอมย้ายออกทำอย่างไรดีคะ


 

 

เรียนถามท่านผู้รู้
     ขออธิบายความเป็นมานะคะ คือที่บ้านเป็นบ้านเดี่ยว แบ่งห้องบางห้องด้านล่างให้คนเช่า ไม่มีการทำสัญญาเช่าตามกฏหมายค่ะ แต่คนเช่าเค้ามีเอกสารให้คุณแม่ที่เป็นเจ้าบ้านเซ็นรับค่าเช่าทุกเดือนค่ะ
ทีนี้คนเช่าห้อง ที่ 1 เป็นห้องที่ไม่มีห้องน้ำในตัว เค้าก็ใช้ห้องน้ำข้างนอกซึ่งเป็นห้องน้ำที่เค้าใช้แค่ห้องเดียวมีกลอนล็อกเรียบร้อย ด้านในและนอก ที่นี้เวลาผ่านไประตูห้องน้ำด้านล่างมันผุ เค้าก็เรียกร้องให้ที่บ้านเปลี่ยนประตูให้ แต่ที่บ้านไม่มีเงินเปลี่ยนให้ เลยเอาเสื่อน้ำมันมาตัดตอกตะปูแปะไปปิดให้เค้าอย่างดี ใช้ไปใช้มามันคงหลุดเค้าก็ปิดใหม่แต่ทำไม่ดีมีรูให้เห็นได้บ้างถ้ามาคนมาตั้งใจมองด้านล่างก็อาจเห็น เราก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเค้าทำเอง นอกจากห้อง 1 ยังมีผู้เช่าห้องข้าง ๆ เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก สองห้องนี้เค้าไม่ค่อยถูกกันเพราะเรื่องส่งเสียงดังระหว่างกัน รบกวนกัน วันนึงผู้เช่าห้อง 1 ก็เรียก 191 ให้มาจับ ผู้ชายซึ่งเป็นพ่อ หาว่าผู้ชายคนนี้มาจ้องรูประตูดูชั้นอาบน้ำ เราในฐานะเจ้าบ้านก็อึ้งเพราะตำรวจบุกเข้ามาในบ้านแบบไม่มีหมายค้น เพราะเค้าคิดว่า ห้อง 1 เป็นเจ้าบ้าน คดีความก็จบตรงที่ฝ่ายห้อง 2 เสียค่าปรับไป 1000 บาท ที่เนี่ยมันไม่จบตรงที่ ห้อง 2 เค้าจะย้ายออก (ซึ่งตามสิ่งที่เราประสบเค้าเป็นผู้เช่าที่ดีทั้งครอบครัว แต่เราก็ไม่รู้ใจคน และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเค้ายอมเสียค่าปรับถ้าไม่ผิด คือวันที่ขึ้นโรงพัก เจ้าบ้านไม่ได้ไปฟังด้วยค่ะ) โดยให้เหตุผลว่าห้อง 1 จ้องหาเรื่อง ส่วนห้อง 1 ก็อ้างว่ามันจบแล้วให้ต่างคนต่างอยู่ (ซึ่งความเป็นจริงทุกอย่างมันย่อมไม่เหมือนเดิม เค้าก็น่าจะรู้ดีที่สุด) ทีเนี่ยห้อง 1 เนี่ยเค้าเป็นคนเจ้าเรื่อง มีพฤติกรรมที่แปลก ๆ ที่ทำให้คนอื่นรับไม่ได้หลายอย่างรวมทั้งคุณแม่ที่เป็นเจ้าบ้านด้วย ทำให้ไม่แน่ใจว่าคดีความที่เกิดเค้าสร้างเรื่องหรือไม่ ดังนั้นทั้งดิฉันและคุณแม่จึงลงความเห็นกันว่าเค้าควรย้ายออกจากบ้านของเรา แต่ทีเนี่ยเค้าไม่ยอมออก อ้างว่าเราไม่มีความเป็นธรรมให้เค้า ถ้าจะให้ออกต้องให้ตำรวจมาคุย
 
ก็เลยเค้าสู่ปัญหาที่อยากถามหาทางแก้จากท่านผู้รู้ค่ะ
คือเท่าที่เล่ามา เราจะให้เค้าออกอย่างไรแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น หรือถ้าต้องพึ่งคุณตำรวจเราจะทำได้หรือไม่ และควรทำอย่างไร
 
ขอความกรุณาช่วยตอบด้วยนะคะ
 
หนูขอร้อง เพราะกลุ้มแทนแม่ค่ะ


ผู้ตั้งกระทู้ บุณฑริกา (ilovetheearthmak-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-09-25 23:32:33 IP : 27.130.37.29


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3214467)

จากข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าได้ทำสัญญาเช่ากันเป็นระยะเวลาเท่าใด ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นสัญญาเช่าที่มิได้มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนหรือพึงสันนิษฐานไม่ได้ไซร้ ฉนั้นคุณสามารถบอกเลิกสัญญาเช่าในขณะเมื่อสุดระยะเวลาอันกำหนดชำระค่าเช่าได้ทุกเมื่อครับ แต่จะต้องบอกกล่าวให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ตัวก่อนถึงกำหนดเวลาชำระค่าเช่าสักระยะหนึ่งเป็นอย่างน้อยนะครับ แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสองเดือนครับ ซึ่งเป็นไปตาม ป.พ.พ. ม.566 ครับ

ถ้าจะถามว่าให้ตำรวจมาเคลียได้ไหมก็น่าจะได้นะครับ เพราะถ้าคุยและตกลงกันไม่รู้เรื่องผู้เช่ายังดื้อแพ่งไม่ยอมออกไปก็แจ้งความให้ส่งฟ้องศาลไปเลยครับ แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะถึงขั้นนั้นหรอกเพราะผู้เช่าเองก็น่าจะคำนึงได้ว่าตนอยู่ในฐานนะไหนและนี่ก็ไม่ใช่บ้านของตน เขาจึงไม่มีสิทธิดีไปกว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่แล้วครับ เชื่อว่าน่าจะคุยและเจารจากันได้ครับ ขอให้โชคดีนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-09-26 00:20:22 IP : 58.9.107.235


ความคิดเห็นที่ 2 (3214468)

ขอแก้ไขนิด ถ้าตกลงกันไม่ได้ผู้ที่จะต้องไปฟ้องร้องต่อศาลนั้นคือตัวคุณเองนะครับเพราะเป็นคดีแพ่งสามารถใช้สิทธิทางศาลได้เลย ผมลืมไปนึกว่าคดีอาญา ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-09-26 00:27:28 IP : 58.9.107.235


ความคิดเห็นที่ 3 (3214549)

ได้เห็นข้อเสนอแนะของท่านผู้รู้แล้ว  ขอขอบพระคุณ จริงๆนะคะ

ดิฉันได้แจ้งให้คุณแม่รับทราบถึงคำแนะนำของคุณแล้ว  ดูท่านโล่งใจขึ้นมาก

ทีนี้ก็ต้องมาดูว่า ห้อง 1 เค้าจะยอมออกดี ๆ หรือไม่

เพราะพฤติกรรมคือ เค้าเปลี่ยนกุญแจสายยูใหม่ และชอบออกจากบ้านแต่เช้าและกลับค่ำมาก ๆ เข้าทำนองหลบหน้า เวลาอยู่ในห้องก็ไม่ยอมออกมาพบ

อย่างเมื่อวาน(25/9/53)ก็ปาเข้าไปเกือบ 5 ทุ่มครึ่งถึงยอมเปิดห้องมาคุยกับคุณแม่ โดยมีดิฉันไปคุยเป็นเพื่อน พอเราแสดงความต้องการให้เขาออกจากบ้านเราไปเสีย (ไม่ได้พูดรุนแรง) เราพูดว่า ถ้าเค้าอยู่แล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ควรย้ายไปเสียดีกว่า เพราะห้องเช่าห้องข้าง ๆ ก็คงไม่สนิทใจกันยิ่งกว่าเก่า เค้าก็เดินหนีเข้าห้องทันที ปิดประตู และท้าให้เราเอาตำรวจมาคุยกับเค้าเอง

โอ้อึ้งสิคะ

หันไปมองหน้าแม่แล้วก็ชวนกันเข้าบ้าน นอนดีกว่า ตัวดิฉันก็เลยต้องตั้งกระทู้ถามท่านผู้รู้นี่ล่ะค่ะ

 

ทีนี้จะครบกำหนดต้องเสียค่าเช่า วันที่ 30 นี้แล้วค่ะ

ก็อยากจะเรียนถามท่านผู้รู้เพิ่มเติมว่า

1.ถ้าเค้ายังมีพฤติกรรมหลบหน้า และไม่ยอมรับรู้ว่าเค้าต้องย้ายออกไป

เราควรแจ้งตำรวจให้มาช่วยเคลียร์ตอนไหน เมื่อไหร่ ถึงจะเหมาะคะ

2. ถ้าเราไม่เจอตัวหรือเค้าไม่ยอมพบ เราควรติดโน้ตไว้หน้าประตูเพื่อบอกเค้าไหมว่า ถ้าเค้าไม่ย้ายออกภายในวันที่......เราจะแจ้งตำรวจนะ

 

ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะ

บุณฑริกา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บณฑริกา (ilovetheearthmak-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-26 16:58:25 IP : 183.89.93.133


ความคิดเห็นที่ 4 (3214740)

คืองี้ครับ การที่จะไปแจ้งตำรวจนั้นมันเป็นเพียงการหาคนกลางเพื่อมาเจรจาไกล่เกลี่ยกันด้วยดีเท่านั้นครับ เพราะยังไงตำรวจก็ถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐซึ่งน่าจะทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยได้ แต่ที่นี้การที่ผู้เช่าคุณดื้อแพ่งนั้นก็คงต้องหามาตรการที่มีระดับเข้มข้นขึ้นไปมาใช้

การที่เขามีเจตนาจะหลบหน้าคุณเพื่อไม่ยอมรับรู้นั้น อันนี้มิใช่ปัญหาครับ เพราะเพียงแค่คุณทำการแสดงเจตนาให้เขารับรู้ว่าเราต้องการอะไรก็เพียงพอแล้ว ถือได้ว่าเราได้ทำการแสดงเจตนาให้คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รับรู้แล้วครับ เช่น ถ้าการแสดงเจตนาที่กระทำต่อบุคคลซึ่งอยู่เฉพาะหน้าให้ถือว่ามีผลนับแต่ผู้รับการแสดงเจตนาได้ทราบการแสดงเจตนานั้น วิธีเดียวกันนี้ให้ใช้ตลอดถึงทางโทรศัพท์ หรือโดยเครื่องมือสื่อสารอย่างอื่น หรือโดยวิธีอื่นซึ่งสามารถติดต่อถึงกันได้ในทำนองเดียวกันครับซึ่งเป็นไปตามหลัก ป.พ.พ. ม.168 ครับ หรือ ถ้าเขาไม่อยู่ให้เราเจอก็มีการแสดงเจตนาทีกระทำต่อบุคคลซึ่งมิได้อยู่เฉพาะหน้าให้ถือว่ามีผลนับแต่เวลาที่การแสดงเจตนานั้นไปถึงผู้รับตาม ป.พ.พ. ม.169 เช่น คุณส่งจดหมายไปถึงเขาเพียงแค่จดหมายนั้นไปถึงหน้าบ้านหรือกล่องรับจดหมายเขาก็ถือได้ว่าการแสดงเจตนาของคุณนั้นไปถึงผู้รับและมีผลแล้วครับ โดยจะมาอ้างว่าไม่เคยเปิดอ่านนั้นมิได้เพราะไม่ใช่หลักที่วิญญูชนทั่ว ๆ ไปเขาจะทำกันครับ

และเมื่อคุณไปแสดงเจตนาออกไปยังผู้เช่าแล้วก็รอเวลาสักระยะนึงเพื่อเป็นการแจ้งให้เขารู้ตัวก่อนล่วงหน้า เช่น จะครบกำหนดค่าเช่าวันที่ 30 นี้ ตามกฏหมายมาตรา 566 คุณต้องบอกเขาหรือทำการแสดงเจนาออกไปภายในงวดนี้และอาจจะรอ1-2เดือน ถ้าเขาไม่ยอมออกไปอีกก็อาจจะให้ตำรวจหรือคนกลางมาช่วยเคลียก่อนก็ได้ครับแต่ถ้าตำรวจไม่มาหรือไม่สำเร็จ ก็ใช้สิทธิทางศาลไปเลยครับอาจจะต้องยอมเสียเวลาหน่อย แต่ถ้าอยากให้เขาออกไปเร็ว ๆ ลองไปเชิญตำรวจมาคุยอย่างที่เขาท้าดูเลยสิครับดูเหมือนเขาจะได้ใจกับการอยู่ในบ้านคนอื่นเสียยิ่งกะไร ดูว่าเขาจะพูดกับตำรวจว่ายังไง เผื่อเรื่องจะจบง่ายกว่าที่คิดด็ได้นะครับ

ปล...ผมไม่ใช่ผู้รู้หรือคนเก่งอะไรหรอกครับเพียงแต่ตอบไปตามกฏหมายและเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นเท่านั้นครับ อะไรที่ผมช่วยได้ก็ยินดีจะช่วยครับ มีอะไรติดขัดอีกก็โพสมาได้ครับ ตอบได้จะช่วยอย่างเต็มที่เลยครับ... ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-09-28 03:21:39 IP : 61.90.78.241


ความคิดเห็นที่ 5 (3214749)

เพิ่มเติมนิด คือปัญหานี้มันเป็นเรื่องทางแพ่งบางทีตำรวจเขาอาจจะไม่มาช่วยคุณเจรจาก็เป็นไป นี่คงอาจจะเป็นเหตุผลที่ผู้เช่าท้าทายคุณกระมังเพราะเขาคงคิดว่าตำรวจไม่รับแจ้งความคุณแน่นอน ซึ่งผมก็ไม่ได้สื่อว่าต้องไปแจ้งความโดยตรง คือคุณถามว่าจะให้ตำรวจมาเคลียได้ไหมผมก็เลยบอกว่าน่าจะได้(ถ้าเขายอมมาหรือรู้จักเป็นการส่วนตัวก็ดีไป) เผื่อมาแล้วผู้เช่าอาจจะกลัวและยอมออกไปโดยดี แต่ถ้าตามหลักแล้วถ้าคุณทำหนังสือแจ้งไปเพื่อแสดงเจตนาอย่างที่ผมบอกแล้วก็เก็บเป็นหลักฐานไว้ด้วยนะครับเผื่อเขาไม่ยอมจะได้มีหลักฐาน เช่น เก็บสำเนาและใบตอบรับจากไปรษณีย์ไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ในการฟ้องขับไล่ต่อไปครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-09-28 05:35:13 IP : 61.90.78.241


ความคิดเห็นที่ 6 (3215555)

เมื่อวันไปแจ้งความไว้ที่โรงพักเป็นหลักฐานว่าได้แจ้งให้เค้าย้ายออกค่ะ ตกเย็น ก็ดักพบเค้าก่อนเข้าห้อง ยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว เค้าไม่รับ ก็เลยอ่านดัง ๆ ให้เค้าฟังไปเลยค่ะ อย่างนี้เค้าคงทราบแล้ว

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ คุณ Pup (คุณผู้รู้มากกว่าดิฉันหลายเท่านัก)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บุณฑริกา วันที่ตอบ 2010-09-30 19:44:14 IP : 27.130.44.96


ความคิดเห็นที่ 7 (3215593)

ข่าวล่าสุดค่ะ

วันนี้ประมาณ 4 ทุ่ม 45 นาที เธอได้เดินทางกลับมาถึงบ้าน มาเคาะประตูเรียกคุณแม่

คุณแม่เปิดประตูออกไป แล้วเจรจากับเค้าได้ใจความว่า เค้าไม่พร้อมออกจากบ้านในวันที่ 30 ก.ย.53 เพราะไม่มีเวลาหาบ้านเช่า ทำแต่งาน จึงให้คุณแม่คิดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมาให้ในวันพรุ่งนี้ คุณแม่จึงให้ดิฉันออกไปอ่านมิเตอร์ไฟฟ้า  ดิฉันเปิดประตูหน้าบ้านนำใบแจ้งค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าไปให้ พร้อมกับคุณแม่ที่ชโงกรอดูผลที่ประตูหน้าของตัวบ้านส่วนของเจ้าบ้าน เค้ารับไปและไม่คิดจะจ่ายเลย ดิฉันจึงเรียกเค้าอีกครั้ง แต่เค้าไม่ยอมเปิด ดิฉันจึงเชิญให้คุณแม่ออกมาเก็บเองเพราะเธอไม่ยอมเปิด เมื่อคุณแม่ออกมาเธอก็ยื่นเงินให้ 2200 บาท และบอกว่าให้คุณแม่รับไว้ แต่คุณแม่ไม่รับ เพราะเค้าต้องออกสิ้นเดือนนี้ ดังนั้นในส่วนของค่าเช่า 1700 บาทที่ต้องจ่ายก่อนอยู่ทุกเดือนจึงเป็นอันตัดไป เธอเซ้าชี้ให้คุณแม่รับเงินนั้นอ้างว่าปกติก็จ่ายอย่างนี้ทุกเดือน อยู่ 4-5 ครั้ง ดิฉันและคุณแม่พยายามอธิบายให้เธอเข้าใจว่า เราจะรับเพียงค่าเช่าแต่เธอก็ไม่เข้าใจ อ้างว่าอย่างไรเธอก็จะขอเวลา 1 เดือนในการหาห้องเช่า แต่ดิฉันกับคุณแม่ยืนยันว่าหากคุณต้องการอย่างนั้นคุณต้องจ่ายวันละ100บาท(ค่าน้ำไฟต่างหาก)ตามที่คุณแม่ได้แจ้งความในเอกสารที่ทำสำเนาให้คุณไป โดยจะอยู่ต่อได้ถึงวันที่ 5 ต.ค.53เท่านั้น

ซึ่งก็เป็นเวลากว่า 10 วันแล้วนับแต่วันที่ได้แจ้งเธอในวันแรก เธออ้างว่าต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30วัน ซึ่งถ้าหลังจากนั้นเธอยืนยันจะอยู่ต่อก็ต้องขอเชิญตำรวจมา  

 เธออ้างว่าข้อตกลงในเอกสารเป็นข้อตกลงเพียงฝ่ายเดียวของเจ้าของ คือคุณแม่ ซึ่งเธอไม่ได้ยินยอม ดิฉันแย้งว่าป็นสิทธิที่พึงกระทำของคุณแม่ที่เป็นเจ้าบ้าน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมาคุณแม่มีสุขภาพเสื่อมโทรมลง ความดันพุ่งถึง  169 จนคุณหมอต้องเพิ่มยาลดความดันให้วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เธอกล่าวว่าไม่เกี่ยวกับเธอเป็นเพราะสุขภาพของป้าเองมากกว่า และเป็นเพราะตัวดิฉันด้วย (อันนี้งงหนักค่ะ)  คุณแม่บอกว่าเธอคุยไม่รู้เรื่อง เธอย้อนกลับมาว่า เธอคุยกับคุณแม่รู้เรื่อง แต่เป็นเพราะมีดิฉันซึ่งเป็นเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอยู่ด้วย ทำให้พูดไม่รู้เรื่อง เธอพยายามย้ำให้ดิฉันเข้าใจว่าดิฉันพูดจาไม่ดีกับเธอ ทั้งที่ดิฉันไม่ได้พูดจาหยาบคายกับเธอแม้เพียงเล็กน้อย มีใจความเพียงว่า พี่ก็ย้ายออกไปเถอะเพราะพี่อยู่ก็ทำให้คุณแม่สุขภาพแย่ลง เธอด่าว่าดิฉันพูดจาไม่ดี และว่าดิฉันทุเรศ ดิฉันจึงบอกเธอว่านี้เหรอสิ่งที่ผู้ดีเค้าพูดกัน  ในท้ายที่สุดเธอก็ไม่ยอมจ่ายเงินใด ๆ ประโยคสุดท้ายที่เธอพูด คือ ไว้จ่ายที่เดียวตอนย้าย

 

อ้คุณพระช่วย ชีวิตของดิฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ นับเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่หาไม่ได้ง่าย ๆ (แต่ไม่พบจะดีกว่าไหม ^ ^)

เท่าที่เล่ามา ดิฉันจะทำอย่างไรดีคะ อยากบอกจริง ๆ ค่ะ ว่าคุณแม่บุญธรรมของดิฉันอายุ 78 ปี แล้ว ทั้งยังเป็นโรคประจำตัวตามประสา ผ.ส.ว.(หลังเกษียณ) ต้องการแค่เงินรายได้เล็กน้อยหลังเกษียณแต่ต้องมาเจอสภาพกดดันเช่นนี้

คุณ pup คะ มีคำแนะนำอย่างไรกับสถานการณ์ล่าสุด นี้ไหมคะ

บุณฑริกา

ผู้แสดงความคิดเห็น บุณ วันที่ตอบ 2010-10-01 00:28:51 IP : 183.89.27.72


ความคิดเห็นที่ 8 (3215708)

ก็ ไหน ๆ ผ่ายผู้เช่าก็น้อมรับการที่จะย้ายออกไปโดยดีแล้ว ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีนะครับว่าต่อไปคุณจะได้ไม่ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาอีกแล้ว ทีนี้ก็จะได้นอนหลับอย่างเป็นสุขไม่ต้องคอยมากังวลถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เคยทุกข์มา ฉนั้น ถ้าถามความเห็นผม ๆ ว่า ก็ในเมื่อเขารับปากแล้วว่าจะไปโดยที่ไม่ต้องเป็นคดีความกันก็ ยอมถอยคนละก้าวก็ดีนะครับ คือให้เวลาเขาสักเดือนนึงหรืออีกสัก 20 วันก็ได้มั้งครับ (ถ้านับรวมวันที่แสดงเจตนาไปในวันแรก) ผมว่าเวลาเดือนนึงก็ถือได้ว่าเป็นระยะเวลาหนึ่งอันสมควรแล้วล่ะครับ แต่ถ้าน้อยกว่านี้เดี๋ยวจะกลายเป็นให้เวลาเขาน้อยไป เผื่อเขาจะหาที่อยู่ไม่ทันจริง ๆ ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2010-10-01 22:45:01 IP : 61.90.67.245



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.