ReadyPlanet.com


มีปัญหา มาก สำหรับ แม่ลูก 2 ที่ยังเล็กอยู่


 

เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2554 ดิฉันได้ไปดูบ้านหลังหนึ่งในอำเภอเดียวกันที่ดิฉันอาศัยอยู่ตรงข้ามกับบ้านแม่ดิฉัน ด้วย จึงตัดสินใจว่าจะซื้อ ในราคา 2,500,000 บาท แต่เงินไม่พอจึงได้เข้าไปสอบถามข้อมูลที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาวังสะพุง และได้เอาเจ้าของบ้านไปด้วย เพื่อสอบถามข้อมูลก่อนซื้อทางผู้จัดการให้คำตอบว่า (ไม่มีปัญหาผ่าน 100% เพราะคุณเป็นลูกค้าเก่าของธนาคารอยู่แล้ว  และได้ถามข้อมูลความต้องการของดิฉันว่าจะจ่ายเงินยังไงจะกู้ธนาคารเพิ่มเท่าไร ดิฉันก็ให้ข้อมูลไปว่าจะจ่ายเงินสด 1,200,000 ที่เหลือจะกู้ธนาคารเพิ่ม และทางผู้จัดการสาขาและฝ่ายสินเชื่อ ก็ให้คำแนะนำว่าให้ไปทำสัญญาซื้อขายและวางเงินมัดจำได้เลย ในวันถัดว่า ซึ้งเป็นวันที่ 28 มกราคม 2554 ดิฉันก็ได้กับมาพร้อมกับเจ้าของบ้าน และนัดวันทำสัญญาและวางเงินมัดจำเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาทถ้วน และในสัญญาทางเจ้าของบ้านได้ระบุไว้ในระยะเวลา 2 เดือน ถ้ายังไม่มีการโอนกรรมสิทธ์เจ้าของบ้านจะยึดเงินมัดจำ ดิฉันจึงได้โทรกลับมาถามระยะเวลาในการขอเงินกู้กับคุณต้น(ฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร)และได้บอกคุณต้นไปว่าจะวางเงินมัดจำแล้วนะจะมีปัญหาอะไรไม่ ทางคุณต้นก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรกู้ได้แน่นอนอยู่แล้ว ว่ามัดจำได้เลย จะใช้เวลาภายใน 2 อาทิตย์ ดิฉันจึงตัดสินใจทำสัญญาพร้อมกับจ่ายเงินมัดจำไป 200,000 บาทให้เจ้าของบ้าน และดิฉันก็ได้นำเอกสารที่ฝ่ายสินเชื่อต้องการที่จะใช้ หนึ่งในนั้นก็มีหนังสือสัญญาซื้อขาย  และพอดิฉันส่งเอกสารทุกอย่างเสร็จทางฝ่ายสินเชื่อของธนาคารว่าต้องจ่ายอีกหลายอย่างทั้งค่าโอนและค่าสัญญาจึงแนะนำให้ดิฉันทำเรื่องกู้อยู่ที่ 1,700,000 บาท ฉันก็ตกลง และทางสินเชื่อก็บอกว่าจะนัดวันประเมินบ้านที่จะซื้อเป็นวันที่ 5 มกราคม 2554 ดิฉันก็รอจนถึงวันที่ 6 มกราคม 2554 ก็มีเจ้าหน้าที่จะธนาคารโทรนัดดิฉันว่าจะมาประเมินบ้านที่จะซื้อ ดิฉันรอจนกระทั่งพนักงานประเมินบ้านมาถึง เขาก็มาถ่ายรูปบ้านหลายจุดและเก็บเงินค่าประเมินไปจำนวน 4,708 บาท หลังจากนั้นดิฉันก็รอจนโทรวันที่ 24 มกราคม ตอนประมาณ 5 โมงเย็น   ก็มีโทรศัพท์บอกว่าโทรมาจากธนาคารไทยพาณิชย์สาขาใหญ่ จาก กทม เพื่อสอบถามประวัติและรายละเอียดเกี่ยวกันดิฉัน และดิฉันก็ให้ข้อมูลไปตามจริง และสุดท้ายที่ดิฉันได้ยินจากทางบริษัทว่าจะรู้ผลในเวลา 9-10 โมง  ดิฉันก็คิดให้ใจว่ายังไม่ผ่านแล้วทำไม่ให้เราไปวางเงินมัดจำ  ดิฉันก็รอจนถึงประมาณ 11 โมง ของวันที่ 25 มกราคม ดิฉันจึงตัดสินใจโทรไปหาสินเชื่อ คุณต้น และดิฉันก็ได้คำตอบกับมาว่าทางสำนักงานใหญ่ไม่อนุมัติ ดิฉันก็ได้ถามกลับไปว่าเพราะอะไร ทางคุณต้นก็ตอบกับมาว่าทางคุณติดเครดิตบูโร จากนั้นมาก็ไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย และก็เกิดคำถามในใจของดิฉันว่า

 

1.     ทำไมทางผู้จัดการและฝ่ายสินเชื่อบอกให้ดิฉันไปทำสัญญาและวางเงินมัดจำ

2.     ทำไมไม่เช็ดเครดิตบูโร ของดิฉันก่อนและค่อยให้ดิฉันดำเนินการ

3.     เป็นนโยบายของธนาคารหรือไม่ว่าต้องให้ลูกค้าไปทำสัญญาและวางเงินมัดจำก่อนค่อยเช็ดเครดิต

4.     เป็นนโยบายของธนาคารหรือไม่ที่ต้องให้ลูกค้าเสียเงินค้าประเมินก่อนโดยที่ยังไม่เช็คเครดิตก่อน

 

ผลที่ได้

1.     ดิฉันรู้ว่าเสียเงิน 4,708 บาท บ้านหลังที่ดิฉันจะซื้อราคาประเมินบ้านที่ทางธนาคารไปประเมินอยู่ที่ 2,470,000 บาท

2.     ดิฉันต้องรับผิดชอบ เงิน 200,000 บาท ที่เสียไปเปล่า

3.     เงินที่สะสมมาของแม่ที่มีลูก 2 คน ต้องสูญเปล่าเพราะคำพูดที่ไม่มีความรับผิดชอบของคนบางคน

 

สุดท้ายดิฉันก็ได้เสียเงิน 200,000 บาท และได้เสียความรู้สึกดี ๆ กับธนาคารนี้ไปแล้ว และใคร่ขอมีคนอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ดิฉันเข้าใจด้วย

 

 

               

                                                                                ขอแสดงความนับถือ



ผู้ตั้งกระทู้ วัฒนา :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-29 22:45:11 IP : 223.205.133.8


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3235364)

เท่าที่อ่านมากรณีของคุณน่าเห็นใจมากครับ  โดยพฤติการณ์แล้วมันมิใช่ความผิดของคุณเลย เพราะคุณเชื่อโดยสุจริตใจว่าจะกู้ผ่านอย่างแน่นอนจากคำมั่นสัญญาของผู้จัดการสาขาที่บอกได้เป็นมั่นเป็นเหมาะที่ให้ไปทำสัญญาและวางเงินมัดจำได้เลย การที่ผู้จัดการสาขาก็ดีหรือเจ้าหน้าที่ธนาคารฝ่ายสินเชื่อก็ดีรับปากลูกค้าว่าจะกู้ผ่านแน่นอน 100% พร้อมทั้งยืนยันให้ไปทำสัญญาและวางเงินมัดจำได้เลยโดยที่ไม่ยอมตรวจสอบประวัติหรือเครดิตบูโรของลูกค้าก่อนนั้น ผมถือว่าเป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่อ(อย่างร้ายแรงด้วยในกรณีนี้) เพราะมันทำให้คุณเสียเงินเป็นแสน ๆ มันอาจจะดูไม่เยอะสำหรับบางคนแต่สำหรับผมหรือคนอีกมากมายมันเป็นเงินที่มีค่าและเยอะมากสำหรับเขา ดังนั้นผมจึงมองว่ากรณีน่าจะต้องมีคนรับผิดชอบโดยอาจจะเรียกร้องกับธนาคารในฐานกระทำละเมิดได้ เพราะแม้ว่าธนาคารจะทำไปโดยหน้าที่และมีสิทธิตามกฎหมาย แต่ถ้าใช้สิทธินั้นโดยลักษณะที่มีแต่จะสร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น ก็ถือว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมายได้ ถ้าผมเป็นผู้จัดการคนนั้นผมจะไม่ใช้คำพูดที่ให้ความหวังกับคุณ 100% แบบนั้นก่อนที่จะไปตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัด หากให้ความหวังไป 100% แล้วต่อมากลับทำให้เขาไม่ได้และทำให้ลูกค้าเสียหายผมว่าก็สมควรที่จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปแล้วล่ะครับ

ปล..รอฟังคอมมเนท์จากท่านอื่นดูก่อนก็ดีนะครับ เพราะบางทีอาจจะมีทางอื่่นหรือช่องทางอื่นอีกก็เป็นได้ ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ ๆ ครับ

ปล2...คุณบอกทำสัญญวางมัดจำไว้ในวันที่ 28 มกราคม 54 ก็แสดงว่ายังไม่ครบกำหนด 2 เดือนไม่ใช่หรอครับ หรือคุณพิมพ์ผิดเพราะผมเห็นคุณพิมพ์ปีในเดือนธันวาคมผิด

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-01-30 04:17:20 IP : 58.9.153.73


ความคิดเห็นที่ 2 (3235365)

ขอบคุณ ค่ะคุณ pup พิมพ์ผิดจริงค่ะ สัญญายังไม่หมด แต่ก็ยังหาทางออกไม่เจอ ค่ะ

ทำสัญญา วันที่ 28 ธันวาคม 2253 จนถึงตอนนี้ค่ะ ยังคงเหลืออีก 1 เดือนค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา วันที่ตอบ 2011-01-30 07:58:11 IP : 223.205.133.8


ความคิดเห็นที่ 3 (3235378)

คิดว่าฝ่ายสินเชื่อคงมีเอี่ยวกับผู้ขายแน่นอน  จึงให้คุณวางมัดจำ  เพราะทราบแน่นอนว่าคุณต้องถูกริบเงินประกันแน่   ก็ลองปรึกษาทนายความอีกทีเพื่อฟ้องละเมิดฝ่ายสินเชื่อ  เพื่อไม่ให้ฮึกเหิมทำกับรายอื่นๆอีกต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น sa วันที่ตอบ 2011-01-30 12:27:41 IP : 125.26.108.57



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.