การซื้อขายที่ดิน ต้องจดทะเบียนโอนที่สำนักงานที่ดิน    ถ้าไม่ไปจดทะเบียนโอน  การซื้อขายนั้นเป็นโมฆะ  ผู้ซื้อย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน   แต่..การที่เจ้าของเจตนาขายให้และส่งมอบให้ผู้ซื้อ  จนตกทอดถึงคุณ   ถ้าที่ดินมีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดิน  ถ้าครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของสิบปี  ก็ยกเรื่องการครอบครองปรปักษ์ ขึ้นต่อสู้เพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินได้.......ถ้าที่ดินมีเพียง  นส.3  หรือ  นส.3 ก.   การครอบครองเกินหนึ่งปี  เจ้าของก็เรียกร้องคืนไม่ได้  คุณถือว่ามีสิทธิครอบครองดีกว่า...........การที่เจ้าของเดิมเรียกร้องค่าโอน  3  แสนบาท ถือว่าสูงเกินควร  ก็ลองต่อรองเขาดู    ถ้าตกลงกันได้ในราคาที่ไม่สูงเกินควร  ก็ควรจ่ายไปเพื่อตัดปัญหา    เพราะการฟ้องร้องให้ได้กรรมสิทธิ์ในฐานะผู้ครอบครองปรปักษ์  ก็คงต้องใช้เงินไม่น้อยเช่นกันครับ

ดิฉันได้ซื้อที่ดินเมื่อเดือน ก.ค 53 ต่อจากนางอ่าง 7 ไร่ โดยไม่มีใบอะไรและต่อมาได้ซื้อต่อจากนางแหน่อีก 7 ไร่  ในเดือนกันยายน 53 ไม่มีใบอะไรเช่นกันซึ่งที่ดินอยู่ติดกัน และนางอ่างกับนางแหน่เป็นแม่ลูกกัน มีการว่างเงินต่อหน้าผู้ใหญ่บ้านและวางเงินที่โรงพัก นางแหน่ให้ลูกนำดิฉันไปลงเขตแนวที่ดินและดิฉันได้เข้าไปทำนา ทำไร่ สร้างโรงเรือน พร้อมทั้งนำมูลสัตว์เข้าไปกอง และนำดินมาลงเพื่อจะปลูกบ้าน    และต่อมาในเดือน เมษายน 54 ได้มีหมายศาลมาเรียกตัวดิฉันว่าดิฉันละเมิด บุกรุก ขับไล่ และเรียกค่าเสียหาย จากนางทัศนีย์ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเจ้าของที่ดิน และซื้อต่อมาจากสองแม่ลูกนั้น และมีใบ ภบท 5 มายืนยันว่าเป็นที่แปลงนี้ ซื้อในวันที่ 1 เดือนมีนาคม 54  และให้ดิฉันชดใช้ค่าเสียหาย 873,666 บาท เนื่องจากว่าดิฉันไปตัดต้นไม้ นำมูลสัตว์ไปกอง และไปทำโรงเรือนโดยตนเองเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินไม่ได้ เมื่อเรื่องถึงขั้นนี้ดิฉันจะต้องทำอย่างไร ศาลจะตัดสินว่าอย่างไร ดิฉันจะต้องชดใช่หรือไม่  ทางคุณช่วยตอบให้ดิฉันอ่านบ้างได้หรือเปล่าคะ

                                                                                                                                ขอบพระคุณค่ะ

เก๋ 0812979115