อัยการมีหนังสือให้ไปพบ

อัยการมีหนังสือให้ไปพบ
สืบเนื่องจากคดีทุจริตมันสำปะหลังที่จังหวัดอุบลราชธานี DSI ได้ส่งสำนวนการสอบสวนฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 58 รายเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2553 มีข้าราชการจำนวน 5 คน และเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้าและเจ้าของลานมันอีก 53 ราย ปรากฎว่ามีข้าราชการจำนวน 40 คน DSI ไม่แจ้งข้อกล่าวหาและให้กันเป็นพยานในชั้นศาล ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการของอัยการคดีพิเศษ ปรากฎว่าอัยการคดีพิเศษมีหนังสือให้ข้าราชการจำนวน 40 คน ที่ DSI กันเป็นพยานนั้น ไปพบที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษในวันที่ 10 ก.พ. 54 โดยที่ไม่ได้แจ้งว่าให้ไปพบด้วยเหตุใด จึงขอเรียนถามท่านทนายประมุขดังนี้ 1.การที่อัยการมีหนังให้ไปพบนั้นสืบเนื่องจากสิ่งใด และต้องเตรียมหลักทรัพย์หยไปด้วยหรือไม่ เพราะในหนังสือไม่ได้แจ้งอะไรไว้ เพียงให้ข้าราชการทั้ง 40 คน ไปพบเท่านั้น 2.เป็นไปได้หรือไม่ที่อัยการจะแจ้งข้อกล่าวหากับข้าราชการทั้ง 40 คน ดังเช่นข้าราชการที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา 5 ราย เพราะ DSI สอบสวนเพิ่มเติมและยังมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องข้าราชการทั้ง 40 คน และยังมีความเห็นให้กันเป็นพยานเช่นเดิม 3.ต้องเตรียมเอกสาร และรายละเอียดอย่างไรบ้างที่ต้องไปพบอัยการ เพราะเรื่องผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เพราะในหนังสือที่ให้ข้าราชการ 40 คน ไม่มีรายละเอียดอย่างใดเลย 4.ข้าราชการ 5 รายที่ถูก DSI สั่งฟ้อง ขณะนี้ได้จ้างทนายว่าความให้ และต้องไปรายงานที่อัยการคดีพิเศษทุกเดือน ไม่ทราบว่าข้าราชการอีก 40 คน ต้องเตรียมจ้างทนายและต้อยงานตัวเหมือนเช่นข้าราชการที่ถูกสั่งฟ้องด้วยหรือไม่ จึงขอรบกวนท่านทนายประมุขช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย
ผู้ตั้งกระทู้ ข้าราชการเมืองดอกบัวงาม :: วันที่ลงประกาศ 2011-02-04 15:17:18 IP : 182.52.185.2

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3236004)

1.ถ้ามีการกันตัวให้เป็นพยาน ก็จำเป็นต้องมีการซักซ้อมความเข้าใจในการให้ปากคำ ยิ่งมีพยานหลายปาก ก็ยิ่งมีปัญหามากขึ้น ถ้าพยานแต่ละปากให้ปากคำที่ขัดแย้งกันเอง คงทำให้คดีเกิดความเสียหายได้ เพราะถ้ามีการบันทึกปากคำในชั้นศาลแล้ว คงจะแก้ไขได้ลำบาก จึงจำเป็นต้องเรียกเข้าไปพบก่อนขึ้นศาล

2. คงไปยืนยันไม่ได้ว่า อัยการจะมีความเห็นอย่างไร ทางออกคือ โทรศัพท์ติดต่อไปยังอัยการเจ้าของสำนวนว่า พวกท่านทั้ง 40 คน อยู่ในฐานะอะไร พยาน หรือ ผู้ต้องหา หรือไปติดต่อสอบถามด้วยตนเองก่อนวันนัด

3. เอกสารที่ต้องเตรียม ก็ได้แก่รายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับคลังสินค้า อาทิ การรับ การเช็คสต็อก การเบิกจ่าย เป็นต้น ซึ่งถ้าเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่คนใด ก็ต้องเตรียมการไว้ ซึ่งเอกสารเหล่านี้ เป็นเอกสารราชการ ต้องมีการเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี จึงไม่น่าจะมีปัญหาว่าจะหาไม่ได้ เว้นแต่จะมีการจงใจทำลายหลักฐานของผู้ทุจริตเท่านั้น

4. หาทางติดต่ออัยการ เพื่อทราบสถานภาพของตนก่อน จึงจะเตรียมตัวได้ถูกต้อง.......ถ้าถูกฟ้องก็จำเป็นต้องหาทนายความ และหาหลักทรัพย์หรือบุคคลเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว(ประกันตัว) ในการต่อสู้คดีต่อไป......การเป็นข้าราชการน่าจะมีความรู้และช่องทางดีกว่าบุคคลทั่วไป การจะขอเข้าพบอัยการเพื่อทราบสถานภาพของตน จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนัก

ผู้แสดงความคิดเห็น sa วันที่ตอบ 2011-02-04 16:14:53 IP : 125.26.108.116

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล