อ่านแล้ว งง ๆ กับการเรียบเรียงเรื่องราวนิด ๆ เข้าใจว่าเป็นการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์แล้วลูกหนี้ไม่ยอมส่งค่างวดต่อหรือไม่ส่งเบี้ยประกันต่อ หรือยังไงไม่ทราบได้ แต่ถ้าหากว่าลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหนี้ก็สามารถยึดรถไปขายทอดตลาดได้ครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคำว่า ฉ้อฉล ที่คุณจั่วหัวไว้ครับ เพราะรายละเอียดที่ให้มานั้นมันไม่ชัดเจนหรือมากพอที่จะไปโยงถึงกลฉ้อฉลได้เลยและก็ไม่รู้ว่าคุณต้องการจะสื่อและต้องการจะถามประเด็นไหนกันแน่ครับ แล้วจะดำเนินคดีอาญาข้อหาอะไรหรอครับ งง ครับ

ขอโทษครับ....คือ ผมเป็นเจ้าของร้านรถครับ และขายรถให้กับลูกค้าไป เป็นเงินผ่อน แล้วบังคับลูกค้าทำประกันชั้น1 (แบบฉ้อฉล(บ.วิริยะประกันภัย)) หลังจากนั้น ลูกค้านำรถไปขาย และไม่ชำระค่างวด และตรวจสอบไม่พบสินค้า อยากทราบว่า บริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมหรือไม่ เพราะลูกค้าเอาไปขาย และทำประกันแบบฉ้อฉล กระผมก็ได้ไปแจ้งความบันทึกประจำวันแล้ว

การทำกลฉ้อฉลถือเป็น โมฆียะ ครับ แต่ถ้าหากไม่มีการบอกล้างโมฆียะกรรม สัญญานั้นก็ย่อมสมบูรณ์และใช้บังคับกันได้ตามกฏหมายครับ เมื่อลูกหนี้ได้เช่าซื้อรถและไม่ชำระค่างวดตามสัญญา ถือได้ว่าเป็นการผิดสัญญา เจ้าหนี้ก็ชอบที่จะฟ้องหรือยึดรถมาขายทอดตลาดได้ ส่วนประกันที่ทำไว้สิทธิของผู้เอาประกันจะโอนตามไปยังผู้ซื้อได้ก็ต่อเมื่อผู้ขายมีกรรมสิทธิ์ในรถคันนั้นก่อนสิทธิที่มีอยู่ในสัญญาประกันภัยถึงจะโอนตามไปด้วย แต่จากข้อเท็จจริงนี้รับฟังได้ว่า ลูกหนี้ได้ขายรถไปให้คนอื่นทั้ง ๆ ที่ตนไม่มีสิทธิขายแต่อย่างใดเพราะกรรมสิทธิ์ในรถยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่ ผู้ซื้อมีเพียงแต่สิทธิครอบครองเท่านั้น ดังนั้นสิทธิที่มีอยู่ใสัญญาประกันภัยจึงยังไม่โอนตามไปด้วยตาม ป.พ.พ. ม.875 วรรคแรก ครับ

สรุป บริษัทประกันไม่ต่องจ่ายค่าสินไหมทดแทน เพราะการโอนวัตถุที่เอาประกันนั้นเปลี่ยนมือไปโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายครับ