[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
สอบถามเรื่องที่ดินไม่มีโฉนด และไม่มีเอกสารสิทธืใดๆ | |
คือนางเลื่อมมีที่ดิน 2 แปลง ติดกัน แปลงที่ 1 ได้ออกโฉนดเป็น นส.3 เรียบร้อยแล้ว แต่แปลงที่ 2 นางเลื่อมได้ยกให้น้องสาวคือ นางปี จำนวน 14 ไร่ แต่ยังไม่ได้ออก นส.3 แต่มี่ที่ดินซิ่งติดกันกับที่ของนางปี (ที่นางเลื่อมได้แบ่งให้ไป 14 ไร่ ) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนางเลื่อมและที่ดินส่วนนี้เองที่ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆ นางเลื่อมใช้สิทธิถือครองมาเกินกว่า 60 ปี ปัจจุบันนางเลื่อมเสียชีวิตแล้ว และได้มอบ บ้านพร้อมที่ดินดังกว่านี้ให้แก่นางสวาท ซึ่งเป็นสาว และนางสวาท ก็ได้เสียชีวิตลงอีก และได้มอบที่ดินจำนวนนี้ให้แก่บุตรสาวอีกเช่นกัน คือ นางแก้ว ต่อมา นางน้อย ซึ่งเป็นบุตรสาวของ นาง ปี จะมาทำการขอออกรางวัดที่นาในส่วนของ 14 ไร่ ที่นางเลื่อมได้แบ่งให้ และจะมาขอยื่นเรื่องออกรางวัดใรส่วนที่อยู่อาศัยของนางเลื่อม (ที่ปัจจุบันเป็นของนางแก้วซึ่งเป็นหลานนางเลื่อม) นางน้อยอ้างว่ามันเป็นที่ดินที่ต่อมาจาก 14 ไร่ ที่เขาได้รับแบ่ง และเขาก็อ้างว่าได้เสียภาษีเกินที่ดินที่มีอยู่จริง จึงอยากจะขอถามว่านางน้อยซึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่ และ ไม่ได้เป็นเจ้าของที่แท้จริง จะมาเรียกร้องสิทธินี้ได้หรือไม่ (นางนกแก้วอยู่กะนางเลื่อม มาตลอด และได้ปลูกที่พักอาศัยในพื้นที่นี้ทั้งหมดเป็นบ้าน 3 หลัง ซึ่งทุกคนก้เป็นลูกนางสวาท หลานของนางเลื่อมกันทุกคน นางน้อยจะมีสิทธิมาเรียกร้องที่ดินดังกว่านี้ได้ด้วยหรือค่ะ ขอบพระคุณมากนะค่ะ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ ภควดี (meaw-2521-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-02-19 13:28:42 IP : 58.9.151.58 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3237694) | |
ถ้าเป็นที่ดินมือเปล่าคือไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ ในเมื่อนางแก้วครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของเกินกว่าหนึ่งปี นางแก้วย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้อื่น แม้ในข้อเท็จจริงนางเลื่อมเคยแบ่งให้นางบี แม้นางน้อยซึ่งเป็นบุตรนางบี แต่ไม่เคยครอบครองที่ดินในฐานะเป็นเจ้าของ จึงไม่เกิดสิทธิใดๆในที่ดิน ถ้าเขาให้เจ้าพนักงานที่ดินออกมารังวัด นางน้อยต้องคัดค้าน โดยอ้างการครอบครองอยู่เกินหนึ่งปีในฐานะเป็นเจ้าของ การคัดค้านต้องคัดค้านโดยทำเป็นเอกสารยื่นต่อสำนักงานที่ดิน หรือตามแบบที่ ที่ดินกำหนด ถ้าเพียงคัดค้านด้วยวาจา เขาอาจทำการรังวัดและออกเป็น นส.3 และออกเป็นโฉนดที่ดินต่อไปได้ ถ้านางแก้วคัดค้านถูกต้องตามระเบียบของสำนักงานที่ดิน เจ้าหน้าที่เขาก็จะชะลอ การรังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิ์ไว้ก่อน โดยต้องแนะนำให้นางน้อยไปใช้สิทธิฟ้องร้องทางศาล เพื่อพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินผืนนี้ดีกว่ากัน เมื่อมีคำสั่งศาลแล้ว เจ้าพนักงานจึงจะดำเนินการไปความคำสั่งศาลได้.......ถ้าข้อเท็จจริงเป็นตามบอกมา นางแก้วย่อมเป็นฝ่ายได้เปรียบครับ......แต่ที่คุณบอกว่า ที่ดินแปลงที่ 1 ได้ทำการออกโฉนดเป็น นส.3 เรียบร้อยแล้ว เป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ตามความเป็นจริงคงเป็นการขอออก นส.3 เท่านั้น คือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือการขอออกเป็นเอกสารสิทธิ์คือโฉนดที่ดินครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น sa วันที่ตอบ 2011-02-19 15:15:35 IP : 180.180.31.160 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3237876) | |
ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับคำตอบค่ะ และอยากจะรบกวนถามต่ออีกสักหน่อยคะ คือ 1. นางน้อยอ้างว่าเขาได้เสียภาษีเกินกว่าที่ดินที่ได้รับการแบ่ง คือ 14 ไร่ เขาว่าเขาเสียที่ดินประมาณ 17 ไร่ แล้วเจ้าหน้าที่จะรับการจ่ายเงินโดยเกินกว่าที่ดินจริงได้ด้วยหรือค่ะ 2.ณวันที่ 21/2/2011 เจ้าหน้าที่มาทำการออกรางวัดที่ดินผืนที่มีปัญหานี้แล้ว แต่นางน้อยคัดด้านไม่ยอมให้วัด และมีปากเสียงกับ แก้ว ซึ่งนางแก้ว ได้ไปแจ้งให้ทำการรางวัดที่ดินผืนนี้ เนื่องจากคิดว่ามีสิทธิในการถือครองอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่รางวัดจึงมิได้ทำการรางวัดให้ และแนะนำให้ทั้ง 2 ไปเจรจากันก่อน 3. นางน้อยถือสิทธิอะไรมาคัดด้านมิให้ออกรางวัด ในเมื่อตัวเองมิได้ครอบครองพื้นที่นี้เลย เพียงแต่นางน้อยอ้างว่าเป็นต้นไร่ปลายนา ของเขาที่ได้รับการแบ่งเท่านั้น 4.หากนางน้อยมิยอมให้ นาง แก้ว ออกรางวัดจริงๆ นางแก้ว ต้องทำอย่างไรต่อไปค่ะ 5.ถ้าฟ้องศาล ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงไหมค่ะ และ มีสิทธิจะ ชนะคดีหรือป่าวค่ะ รบกวนถามแค่นี้ล่ะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภควดี (meaw-2521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-21 14:43:46 IP : 58.9.132.177 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3237948) | |
1.การเสียภาษี ตามแบบ ภบ ท.6 ก็อาจเป็นไปได้ ที่มีการเสียภาษีเกินจริงหรือน้อยกว่าความเป็นจริง ก็อยู่ที่ผู้แจ้งการเสียภาษี ตัวอย่าง เขามีที่ดินเพียง 5ไร่ อาจแจ้งเสียภาษี 10 ไร่เป็นต้น ก็มีผลทางกฎหมายอยู่บ้างว่าเขามีทีดิน 10 ไร่ แต่หลักฐานตามแบบ ภบท.6 มีน้ำหนักค่อนข้างน้อย เพราะเป็นเพียงใบเสร็จรับเงิน ที่ไม่มีรายละเอียดของที่ดินผืนใดๆที่เขาเสียภาษี ผู้ครอบครองทำกินอยู่จึงมีภาษีดีกว่าครับ 2-3-4 เขาก็สามารถคัดค้านได้ โดยอ้างว่าเป็นทายาทของนาง บี ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกที่ดินผืนนี้ เจ้าหน้าที่เขาก็คงไม่ดำเนินการอะไรให้ คือเบื้องต้นก็ให้เจรจากันก่อน ถ้าตกลงกันไม่ได้ นางแก้ว ก็ต้องร้องศาลว่าตนมีสิทธิครอบครองดีกว่า ถ้าศาลเห็นด้วย นางแก้วก็สามารถนำคำพิพากษานั้นมาแจ้งเจ้าพนักงานที่ดิน เพื่อรังวัดออกเป็น นส.3 และออกเป็นโฉนดที่ดินต่อไปได้......ถ้านางแก้ว ยังไม่พร้อมที่จะร้องศาล ก็ขอแนะนำให้ แสดงการครอบครองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแสดงอาณาเขตการครอบครองให้เห็นเด่นชัด เช่น ปักเสาคอนกรีต ตามแนวเขตเป็นระยะๆ ห่างกันราวหลักละ1-2 เมตร ตลอดแนวที่ดิน อาจยังไม่ต้องใส่ลวดหนามก็ได้ เพราะค่าใช้จ่ายอาจสูง และควรมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านที่มีที่ดินใกล้เคียง เพราะบุคคลเหล่านี้คือพยานบุคคลที่มีน้ำหนักมาก ในการยืนยันว่า นางแก้ว ได้ครอบครองที่ดินในฐานะเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะผู้นำท้องถิ่น เช่น ผู้ใหญ่บ้านและกำนันของตำบลนั้น ก็ต้องพยายามทำตัวคุ้นเคยกับเขาไว้ เพราะบุคคลเหล่านี้ อาจต้องอ้างอิงเขาเป็นพยานในศาลหากมีการขึ้นศาล และพยานนี้จะมีน้ำหนักค่อนข้างมากครับ 5.ค่าธรรมเนียมในการขึ้นศาล คิดร้อยละสอง ของราคาที่ดินที่พิพาทกัน(ขอดูราคาประเมินที่ดินจากสำนักงานที่ดินได้) แต่ไม่เกินสองแสนบาท....ส่วนค่าทนายความก็ต้องตกลงกันเอาเอง....เรื่องแพ้ชนะคงสรุปลงไปได้ลำบาก เพราะกระบวนการในศาล ต้องอาศัยพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสาร ในการนำสืบเพื่อหักล้างกัน ศาลท่านจะเชื่อถือพยานของฝ่ายไหนมากกว่า คงไปทายใจท่านไม่ได้ และทนายความที่เราจ้างมาว่ามีความจัดเจนมากน้อยเพียงใด ก็มีส่วนสำคัญในการต่อสู้คดี........แต่ถ้าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่บอกมา นางแก้วย่อมได้เปรียบ เพราะเป็นผู้ครอบครองอยู่เกินหนึ่งปีในฐานะเป็นเจ้าของ ก็อยู่ที่พยานบุคคลข้างเคียงและผู้นำท้องถิ่นเขาจะให้ปากคำที่เป็นประโยชน์ต่อนางแก้ว มากน้อยเพียงใด....จึงมีข้อแนะนำเรื่องพยานบุคคลดังคำตอบข้อ 2-3-4 ครับ -ขอเพิ่มเติม ถ้าสามารถใช้วิธีตกลงเจรจากันได้ จะลดความสูญเสียของทั้งสองฝ่ายลงได้อย่างมาก.....คือถ้าเขาอ้างว่าเป็นที่หัวไร่ปลายนา ก็ใช้วิธีแบ่งปันให้เขาบ้างบางส่วน บางทีปัญหาอาจยุติลงได้ การเจรจาควรใช้คนกลางที่เป็นมืออาชีพที่มีความรู้ด้านกฎหมาย มีวาทศิลป์ในการโน้มน้าวจิตใจคน และมีบารมีเป็นที่เชื่อถือของทั้งสองฝ่าย อย่าไปเจรจากันเอง เพราะคงโต้เถียงกันไม่รู้จบ และอาจมีคดีทำร้ายร่างกายหรืออาจถึงขั้นฆ่าฟันกัน เพราะมีตัวอย่างมาแล้วมากมาย.........ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นศาลให้ได้มากที่สุด เพราะกระบวนการในศาล ต้องใช้เวลาและใช้เงินมากพอสมควร และคงบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย เหมือนสาดน้ำใส่กันคงเปียกปอนกันไปทั้งคู่ ก็อยู่ที่คุณ(แก้ว) จะไตร่ตรองดูเองครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น sa วันที่ตอบ 2011-02-22 04:41:27 IP : 125.26.108.16 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3237960) | |
ขอบคุณมากๆ นะค่ะ คำตอบชัดเจนและเข้าใจง่ายจริงๆ ค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภควดี (meaw-2521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-22 09:33:09 IP : 58.9.132.177 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3238666) | |
ที่ดินบริเวณบ้านแต่ก่อนมีใบจองแต่พอเจ้าหน้าท่มารังวัดให้เฉพาะบริเวณบ้านและออกโฉนดให้แล้ว ส่วนที่เป็นสวนไผ่ที่ติดออกไปทางหลังบ้านไม่ได้รังวัดและตอนนี้เลยไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆในการครอบครองควรทำอย่างไรดี | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กันยา เทพกัน วันที่ตอบ 2011-03-01 09:25:11 IP : 58.10.147.7 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3238716) | |
ทำไมไม่สอบถามเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจนว่า เขาไม่รังวัดให้เพราะเหตุใด ......... บางทีอาจเป็นที่สาธารณะประโยชน์ก็ได้ ก็ไปขอตรวจสอบระวางแผนที่ ที่ สำนักงานที่ดิน ก็คงพอทราบได้ว่า ที่ดินที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์นั้น เป็นที่สาธารณะประโยชน์หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ที่สาธารณะประโยชน์ ถ้าคุณผู้ครอบครองอยู่ คุณย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้อื่น สามารถขอออกเป็น นส.3 และโฉนดที่ดินในโอกาสต่อไปได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น sa วันที่ตอบ 2011-03-01 16:45:53 IP : 125.26.111.202 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3240851) | |
อยากสอบถามค่ะ เนื่องจากไม่รู้จะปรึกษาใครแล้วค่ะ รบกวนด้วยนะคะ คือว่าบ้านที่อยู่ปัจจุบันเป็นที่ ๆ พ่อ-แม่อยู่มาก่อน ซึ่งแต่ก่อนเรียกว่าที่น้ำลบค่ะ อยู่มาเกิน 27 ปีแล้ว อยากทราบว่าจะสามารถออกเป็นหนังสืออะไรได้หรือเปล่าค่ะ เนื่องจากต้องการจะกู้เงินเพื่อต่อเติมบ้าน แต่เค้าบอกว่าต้องเป็นบ้านที่มีเอกสารครอบครองหรือโฉนดอะไรประมาณนี้ค่ะ ถึงจะทำการขอกู้ได้ค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น umaporn วันที่ตอบ 2011-03-23 13:11:25 IP : 58.181.129.163 |
ความคิดเห็นที่ 8 (3240852) | |
เพิ่มเติมค่ะ แม่เคยถามคนที่เค้าทำอยู่ที่กรมที่ดิน เค้าบอกเอาเงินมา 5,000 บาท เค้าออกให้ได้เลย แต่คนที่อยู่ในที่ดินน้ำลบเหมือนกันเค้าบอกว่า แค่ให้บ้านที่อยู่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวาเซ็นยินยอมก็ได้ค่ะ จริงหรือเปล่าค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น umaporn วันที่ตอบ 2011-03-23 13:29:16 IP : 58.181.129.163 |
ความคิดเห็นที่ 9 (3836419) | |
มีที่ดิน10ไร่ไม่มีเอกสารสิทธิ์แต่ที่ดินรอบข้างเป็นโฉนดหมดแล้วถ้าไปขอทำโฉนดจะมีปัญหาอะไรและมีขั้นตอนไปขออย่างไร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชาติ วันที่ตอบ 2015-07-06 21:05:10 IP : 49.230.184.94 |
ความคิดเห็นที่ 10 (4076642) | |
กฎหมายเกี่ยวกับที่มีไว้สำหรับคน..เท่านั้น ส่วนคนที่ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆๆๆๆ หลบไปอยู่มุมของตนเองแบบไม่มีสิทธิใดๆๆ จากที่คนหนึ่งมีความหวังเรื่องที่ดินจะได้เอกสารสิทธิบ้าง คงไม่มีแล้ว ประมาณหาเงินซื้อดินฝังหน้าตัวเอง คำถาม 1. มีกฎหมายมาตราไหน ? 2.เอกสารมีใว้เฉพราะที่ประเภทไหน ?
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ความเท่าเทียมที่ไม่เท่าเทียม วันที่ตอบ 2016-09-28 17:07:36 IP : 110.168.231.178 |
ความคิดเห็นที่ 11 (4130154) | |
ผมอยากทราบตอนนี้บ้านที่ผมอยู่เป็นของพ่อตา แต่ตอนเขาหลง แล้วไม่รู้ว่าเขามีเอกสารสิทธิ์บ้านและที่ดิน อะไรตอนนี้ผมจะไปตรวจสอบได้ที่ไหนครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ๊ย (virago861-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2017-02-08 01:17:53 IP : 10.20.145.66 |
ความคิดเห็นที่ 12 (4203554) | |
อยากรุ้เรืองที่ดินเราอยุมา20ปีเรามีสิทเปนเจ้าของใหมเพราะเจ้าของเขามาไล่
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น จ่อย วันที่ตอบ 2017-07-31 10:40:12 IP : 1.47.128.136 |
ความคิดเห็นที่ 13 (4229693) | |
ขอสอบถามหน่อยค่ะ คือ 1คนสามารถถือครองที่ดินสาธารณะประโยชน์ได้กี่ไร่คะ คือกรณีของแม่ ถือครองที่ดินสาธาณะประโยชน์15ไร่ แต่พอดียายถือครองที่ดินสาธารณะประโยชน์7ไร่ แต่ยายได้เสียแล้ว และเสียภาษีที่ดินมาโดยตลอด แต่แม่เป็นคนเลี้ยงดูยายและดำเนินเรื่องการตายของยายทุกอย่าง และอยู่มาวันหนึ่งมีจดหมายจากเทศบาลมาบอกว่าที่ดินอาจถูกยึดเพราะแม่ถือครองที่ดินสาธารณะประโยชน์เกิน15ไร่ แต่7ไร่นั้นมันเป็นชื่อของยายที่เสียแล้ว ถ้ากรณีนี้กรมที่ดินสามารถยึดที่ได้ไหมคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ดารุณี วันที่ตอบ 2017-12-01 21:14:47 IP : 182.232.22.104 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1086887 |