ReadyPlanet.com


โอนเงินจากบัตรatmเข้าบัตรatm


1.อดีตแฟนเก่าหนูเขาปลอมลายมือแม่เขาแล้วก็ถอนเงินออกจากบัญชีของแม่เขา 2.ทุกคครั้งที่เขาจะเอาเงินให้หนูใช้เขาจะโทรมาบอกว่าโอนเงินให้แล้วนะ ไปกดเอาได้เลยโดยการโอนจากบัตรatmของเขามาเข้ายังบัตรatmของหนู 3.เขาซื้อรถมอเตอร์ไซด์ให้1คันเดือนเมษายนปี2549เป็นของขวัญวันเกิดค่ะ  เรื่องนี้เกิดเมื่อปีพ.ศ.2549 และแม่ของเขาก็จับได้ว่าเงินในบัญชีได้หายไปและได้ไปติดต่อกับธ.จึงรู้ว่าเป็นลูกชายของตนเป็นคนไปเบิกเงินออกมาและได้แจ้งความจับลูกชายของตน 4.คดีถูกรื้อขึ้นมาอีกครั้ง17กพที่ผ่านมาอดีตแฟนเก่าหนูได้ถูกจับและประกันตัวออกมาแลัวตอนนี้ได้ไปรายงานตัวกับศาล2ครั้งแล้ว *เขาได้โทรมาบอกหนูว่าให้หนูคืนรถมอเตอร์ไซด์ให้เขาและโอนเป็นชื่อแฟนใหม่ของเขาให้เรียบร้อย เขาบอกว่าถ้าไม่คืนก็รับผิดไปคนละครึ่งกับเขา *หนูเลยอยากรู้ว่าหนูไปเกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่เขาทำ ทั้งๆที่หนูไม่รู้เลยว่าเขาทำเรื่องแบบนี้ ทุกวันนี้เขาโทรมาจะเอาของเขาคืนให้ได้ ทั้งๆที่หนูกับเขาก็เลิกกันตั้งแต่ปี2550แล้ว ***หนูต้องถูกดำเนินคดีกับเขาด้วยเหรอค่ะ ใครที่รู้ช่วยตอบหนูด้วยนะคะ หนูไม่รู้เรื่องกับการกระทำของเขาเลยจริงๆนะคะ 



ผู้ตั้งกระทู้ หนูไม่รู้เรื่องเลย (torzer-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-02-25 22:52:15 IP : 203.148.221.156


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3238376)

ทรัพย์สินที่ยกให้นั้นกรรมสิทธิ์โอนมายังคุณนับแต่วันที่ได้ส่งมอบแล้วครับ ฉนั้นคุณจึงเป็นเจ้าของโดยชอบด้วยกฏหมายแล้ว อีกทั้งคุณก็มิได้รู้ถึงการกระทำความผิดหรือรู้ว่าทรัพย์สินนั้นได้มาจากการกระทำความผิด ฉนั้นเมื่อไม่รู้หรือมีส่วนรู้เห็นดังนี้แล้วก็ย่อมไม่มีความผิดหรือส่วนที่จะต้องไปรับผิดกับแฟนคุณด้วยแต่อย่างใด เพราะขาดองค์ประกอบทั้งเจตนา ไม่รู้ข้อเท็จจริง หรือแม้แต่ไม่เป็นประมาท  คงเป็นเพียงแต่คำขู่ของเขาเท่านั้นหรือต่อให้เขาซัดทอดมาจริงก็คงพิสูจน์ได้ไม่ยากครับว่าคุณมิได้รู้เห็นในการกระทำนั้น เพราะไม่มีพยานหรือหลักฐานอะไรเลยที่จะโยงมาเอาผิดกับคุณได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-02-26 02:01:10 IP : 58.9.120.201


ความคิดเห็นที่ 2 (3238415)

 ขอบคุณมากค่ะกับคำตอบ เพราะเขาบอกว่าถ้าไม่คืนรถมา ก็จะให้แม่แจ้งความเพิ่มและลิสรายการจำนวนเงินที่โอนเข้าatmของหนูเพื่อทีจะให้หนูชดใช้เงินทุกบาททุกสตางค์คืนมาให้หมด หนูกลัวที่จะมีความผิดเพราะเขาบอกจะเอาหนูเข้าคุกไปกับเขาด้วย และเขาได้บอกว่าถ้าไม่เชื่อก็ไปถามตำรวจคนที่ชื่อนี้นะ...คนที่ทำคดีนี้  เมื่อวันพุธที่ผ่านมาหนูเลยไปถามความเป็นมากับตำรวจที่ทำคดีนี้ ตร.ก็บอกว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับหนูเพราะเงินที่ได้มาได้ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นทรัพย์สินแล้ว และเงินที่ให้มาเป็นการให้โดยเสน่หาก็เหมือนกับเป็นค่าเลี้ยงดู เพราะแม่เขาแจ้งความว่าลูกชายได้ยักยอกเงินในบัญชีไปซึ่งเขาก็รับผิดไปแล้วว่าทำคนเดียวเพราะว่าเขาได้ขายบอลกับขายหวย ซึ่งตร.ก็คิดว่ามันไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหนูเลย  ตร.แกก็แนะนำว่าให้หนูใช้ชีวิตปกติไม่ต้องไปคิดอะไรมากถ้าเขาโทรมาก็ไม่ต้องรับสายแต่พอไม่รับสายประมาณ5สายได้เขาโทรมาช่วงเช้าและช่วงบ่าย พอติดต่อหนูไม่ได้เขาเลยส่งsmsมาว่า* รับสายผมด้วยไม่งั้นผมช่วยอะไรไม่ได้นะผมคุยกับแม่แล้ว* พอหนูอ่านหนูก็ยิ่งคิดมากเข้าไปอีก หนูไม่รู้จะใช้ชีวิตตามปกติตามที่ตร.แนะนำยังไง เพราะก็มีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามาด้วยคือหนูไม่รับกล้าที่จะรับสายเลยเพราะหนูกลัวเป็นเขา ปล.แต่พอนึกถึงวันที่ตร.บอกหนูก่อนกลับแกบอกว่าไม่ต้องคิดมากเดี๋ยวมีไร พี่จะช่วยให้ หนูค่อยโล่งใจขึ้นมานินึง ช่วยตอบหนูด้วยนะคะหนูรอคำตอบอยู่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น หนูไม่รู้เรื่องเลย (torzer-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-26 11:52:23 IP : 203.148.221.156


ความคิดเห็นที่ 3 (3238427)

มันไม่ใช่ไม่น่าจะเกี่ยว แต่มันไม่เกี่ยวเลยต่างหากล่ะครับ ในเมื่อคุณไม่ได้ทำความผิดจะต้องไปกลัวอะไรครับ คนไม่มีความผิดติดตัวก็ย่อมไม่ต้องไปกลัวเกรงใด ๆ ทั้งสิ้นครับ ส่วนเขาหรือแม่จะแจ้งเอาผิดก็ให้เขาแจ้งไปครับเพราะนอกจากจะไม่มีหลักฐานถึงการกระทำความผิดของคุณแล้วเขาอาจจะยังโดนแจ้งความเท็จอันมีโทษและความผิดทางอาญาเพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้งการที่เขาทำให้คุณเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญมันก็เป็นความผิดอาญาอีกฐานหนึ่ง ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมาหากเขาต้องการจะเพิ่มโทษให้กับตนเองโดยยังไร้ซึ่งความสำนึกในการกระทำที่ตนเองได้เคยก่อเอาไว้ให้แม่ต้องเสียใจ ก็คงต้องสุดแท้แต่เวรกรรมของเขาแล้วล่ะครับ เท่าที่ผมฟังมายังดูออกว่าคุณกลัวมาก ซึ่งผมเองก็เชื่อว่าจุดนี้แฟนคุณเขาก็คงจะรู้ได้ไม่ยาก ในเมื่อคุณเผยจุดอ่อนให้เขาเห็นถึงความกลัวตรงนี้แล้วก็ย่อมเป็นธรรมดาครับที่เขาจะได้ใจในการเพิ่มระดับการข่มขู่ให้หนักขึ้นไปอีก(เผื่อว่าคุณจะตกหลุมไปคืนทรัพย์ให้) ทั้งที่จริงแล้วแม่เขาอาจจะไม่รู้เรื่องนี้เลยก็เป็นได้ ถึงต่อให้รู้เขาจะเอาพยานและหลักฐานอะไร ที่ไหน มาเอาผิดคุณครับ เพราะคุณมิได้ทำความผิดอะไร ซึ่งหากทำไปโดยไม่มีหลักฐานมาเอาผิดคุณนอกจากจะทำให้ลูกชายอาจได้รับโทษหนักขึ้นแล้วตัวเขาเองยังอาจจะโดนไปด้วยอีกต่างหากครับ(ในกรณีที่เขาเห็นดีเห็นงามไปกับลูกชายในการกระทำความผิด) ฉนั้นผมจึงมองว่าหากไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่จำเป็นต้องไปกลัวใครครับ ใช้ชีวิตไปตามปกติสุขเถอะครับส่วนเรื่องเบอร์หากมันไม่สำคัญเช่นว่าหากเปลี่ยนไปแล้วไม่กระทบถึงคนหมู่มากที่จะโทรมา ก็อาจจะเปลี่ยนเบอร์ไปเพื่อตัดความรำคาญ หรือหากเขาตื้อไม่เลิกก็แจ้งความเอาผิดเขาตรงส่วนนี้ไปเลยครับฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 392 ครับ ถึงแม้จะเป็นเพียงความผิดลหุโทษแต่มันก็อาจทำให้เขามีความสำนึกในการกระทำขึ้นมาบ้าง ซึ่งหากยังไม่เข็ดหลาบก็แจ้งไปจนกว่าจะเข็ดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-02-26 13:39:27 IP : 115.87.179.229


ความคิดเห็นที่ 4 (3238470)

 ขอบคุณมากค่ะ ที่ตอบคำถามหนูขอบคุณจริงๆค่ะ แต่เมื่อบ่ายโมงเขาก็โทรมาแต่หนูก็ไม่รับสาย คือหนูไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาและไม่มีคำตอบอะไรให้เขาด้วย คือหนูเข็ดจริงๆกับผู้ชายแบบนี้ไม่อยากจะเจอหน้าเขาเลย ที่ไม่เปลี่ยนเบอร์ก็คือว่าเบอร์นี้หนูใช้มาหลังจากที่หนูเลิกกับเขาหลายปีแล้วด้วย ที่สำคัญญาติพี่น้องก็รู้ว่าหนูใช้เบอร์นี้อยู่ ถึงอย่างไรก็ตามถ้าหนูไม่สบายใจอีกหรือว่าเขายังตอแยหนูไม่เลิก หนูคงจะได้รบกวนให้พี่ช่วยตอบคำถามหนูอีกนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หนูไม่รู้เรื่องเลย (torzer-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-26 21:11:38 IP : 203.148.221.156


ความคิดเห็นที่ 5 (3238868)

รบกวนอีกแล้วค่ะ หนูรู้มาว่าเขาจะให้คำกับศาลว่าหนูมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของเขา ที่หนูทราบมาก็เพราะว่าเขาได้โทรไปบอกับตร.ว่าหนูรู้เห็นกับการกระทำของเขาและเขาก็ยืนยันว่าเขาจะจะให้การซักทอดมาถึงหนู หนูควรจะทำยังไงคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หนูไม่รู้เรื่องจริงๆ วันที่ตอบ 2011-03-02 22:27:01 IP : 203.148.221.69


ความคิดเห็นที่ 6 (3238934)

หากคุณมิได้มีส่วนรู้เห็นหรือการกระทำในครั้งนั้นจะต้องไปทำอะไรครับ นอกเสียจากยืนกระต่ายขาเดียวว่ามิได้รู้ มิได้เห็น หรือมิได้ทำ เว้นเสียแต่ว่าส่อพิรุธถึงการกลัวจนเล็งเห็นได้ถึงอาการว่ามีพฤติการณ์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เป็นต้น คือของแบบนี้มันจะต้องมีพยานและหลักฐานที่จะสามารถเชื่อมโยงเพื่อมาเอาผิดกับคุณให้ได้ครับ เพราะถ้าหากไม่มีสิ่งที่กล่าวไปดังว่านี้มันก็เปรียบเสมือนหนึ่งว่าลมที่พัดผ่านไป การที่พูดลม ๆ แล้ง ๆ หรือสักแต่จะพูด ที่จะใส่ร้ายป้ายสีใครก็ได้ เพราะหากกฏหมายไปเชื่อคำพูดของคนลอย ๆ โดยที่ไม่มีไม่มีพยานหรือหลักฐานมายืนยันคำพูดนั้น บ้านเมืองนี้จะอยู่อย่างไร จะปกครองประเทศกันอย่างไร เพราะมิเช่นนั้นแล้วใครนึกจะไปใส่ร้ายอีกคนหนึ่งโดยที่พูดลอย ๆ แบบนี้ก็ได้น่ะสิครับ แม้ถึงว่าบางเรื่องที่บุคคลนั้นทำผิดจริง แต่หากในทางกฏหมายผู้กล่าวหาไม่สามารถนำพยานหรือหลักฐานมาพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นได้ ผู้ถูกกล่าวหาก็อาจจะหลุดรอดหรือลอยนวลไปได้เสมอครับ

สิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้เพียงแค่อยากจะสื่อว่าในเมื่อคุณมิได้เคยทำผิดอะไรแล้วใยจะต้องไปกลัวในสิ่งที่คนอื่นเขาจะนินทาหรือกล่าวหาครับ หากต้องขึ้นศาลจริงก็ให้การไปตามเท่าที่คุณรู้หรือเห็นเท่านั้น อะไรที่ไม่รู้หรือไม่เห็นก็พูดไปตามนั้น แล้วสักวันความจริงมันก็จะปรากฏออกมาเองแแหละครับว่าใครทำหรือไม่ได้ทำ อย่าไปวิตกกังวลอะไรล่วงหน้าจนเกินไปนักครับ เพราะเดี๋ยวจะเสียสุขภาพจิตอันส่งผลให้บั่นทอนความสุขในการใช้ชีวิตประจำวันไปครับ เมื่อถึงเวลาหากมีทนายเขาจะเป็นผู้ชี้แนะคุณเองครับว่าควรจะพูดอะไร หรือทำอะไรในการให้การในชั้นศาลบ้าง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วหากคุณเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกใส่ความ หรือไม่มีพยานหลักฐานที่จะมาผูกมัดคุณได้มันก็ถือเป็นการกระทำที่เหนื่อยเปล่าของผู้ที่คิดไม่ดีกับคนอื่นนั่นแหละครับ มิหนำซ้ำยังอาจจะเป็นผลร้ายกับตัวเขาเองเสียด้วยซ้ำ

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-03-03 13:21:40 IP : 58.9.28.82


ความคิดเห็นที่ 7 (3238984)

 ขอบคุณค่ะ...กับคำตอบและก็เป็นคำตอบที่หนูรู้สึกดีและสบายใจขึ้นมาบ้างแต่ถึงอย่างไรก็ตามหนูก็ไม่รู้กับการกระทำผิดของเขาจริงๆ ถ้าหนูถึงกับต้องขึ้นศาลขึ้นมาจริงๆหนูก็จะพูดความจริง ความจริงที่หนูไม่รู้เรื่องกับการกระทำความผิดของเขาเลย ทุกคนให้กำลังใจหนู แม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่หนูเคยปรึกษามาหลายคน เขาก็บอกว่า ความจริงก็คือความจริง ความจริงเท่านั้นที่จะช่วยหนูได้ หนูยอมรับว่าทุกวันนี้หนูจะทำอะไรหนูต้องคิดๆให้มากๆก่อนที่หนูจะตัดสินใจทำอะไรก็ตาม หนูจะสู้ๆให้ถึงที่สุด ขอบคุณจริงๆค่ะ...พี่pup

ผู้แสดงความคิดเห็น หนูไม่รู้เรื่องจริงๆ วันที่ตอบ 2011-03-03 22:08:21 IP : 203.148.221.69



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.