ก็เข้าข่าย  เป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชน  อาจมีโทษฐานละเมิดลิขสิทธิ์ได้   อย่างไรก็ตามขอยกฎีกาที่เกี่ยวให้คุณได้ลองศึกษาดู....ตามฎีกาแม้ไม่มีความผิด   แต่การถูกฟ้องเป็นคดีในศาล  ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเสี่ยงกัน  ให้เสียเวลาทำมาหากิน....

โจทก์บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ซึ่งบัญญัติว่า "ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์..." ความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงต้องเป็นการกระทำแก่งานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น "เพื่อหากำไร" เท่านั้น แต่ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องปรากฏแต่เพียงว่า จำเลยเปิดแผ่นเอ็มพีสามและซีดีเพลงให้ลูกค้าในร้านอาหารได้ร้องและฟังเพลงของผู้เสียหาย 1 แผ่น "เพื่อประโยชน์ในทางการค้า" ขายอาหารและเครื่องดื่มของจำเลยแต่ไม่ปรากฏในคำฟ้องว่าจำเลยกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าได้ร้องและฟังเพลงโดยเรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้าในการเปิดเพลงดังกล่าวหรือเรียกเก็บรวมไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ ตาม พ.ร.บ.จั้ดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 185

ในฎีกาเป็นเรื่องเปิดเพลงจากแผ่น mp3 ซึ่งมันเป็นแผ่นที่ทำขึ้นโดยการละเมิดลิขสิทธิ์แม้เอามาเปิดให้ลูกค้าฟังจะไม่เป็นความผิด (ตามฎีกา) เพราะไม่ได้หากำไรจากการเปิดเพลงบนแผ่นนั้น แต่ก็เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการขึ้นศาลพอสมควร แต่จากข้อเท็จจริงนี้ จขกท. เปิดเพลงจากแผ่นแท้ ๆ ที่ซื้อมาซึ่งเป็นผลงานที่ถูกทำขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิตที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฏหมาย ยิ่งน่าจะไม่เป็นความผิดใหญ่ครับ เพราะไม่ใช่แผ่นหรืองานละเมิดลิขสิทธิ์ ฉนั้นการฟังเพลงที่คุณซื้อมาหรือเปิดให้คนอื่นฟัง ก็ย่อมเป็นสิทธิของผู้ซื้อในการที่จะใช้ทรัพย์ได้ไปตามปกตินิยมตามสิทธิแห่งความเป็นเจ้าของทรัพย์อยู่แล้วครับ จึงไม่ผิดอะไรครับ

แต่ผมยังยืนยันความเห็นว่า   การเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยไม่ได้รับอนุญาต  ย่อมมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์  ตาม  ม.28  แห่งพรบ.ลิขสิทธิ์  พ.ศ.  2537  ซึ่งเป็นช่องทางให้มีการรีดไถจากกลุ่มคนที่อ้างว่า เป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์  ซึ่งมีกรณีตัวอย่างมากมาย   จะเป็นความผิดหรือไม่   เป็นเรื่องของศาล คนทำมาหากินจะไปคิดเสี่ยงทำไม ให้เปลืองตัว  

ครับถ้าดูตามมาตรา 28 แห่งพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ผมก็เห็นด้วยกับคุณอนัตตา คือตอนแรกผมไม่ได้ดู พรบ. ผมวินิจฉัยไปตามฎีกาที่คุณยกมาแต่ประเด็นในฎีกามันเป็นเรื่อง เพื่อค้าหากำไร ตามมาตรา 31 จึงไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 28 ฉนั้นอย่าเสี่ยงแบบที่คุณ อนัตตา บอกน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ

อยากชี้แจงให้ทุกท่านที่เข้ามาในเว็บนี้ได้ทราบว่า   ผมเข้ามาในฐานะนักกฎหมายเต็มตัว   ไม่ใช่มือสมัครเล่น  แม้จะไม่มีชื่อเสียงถึงขั้นเป็นนักกฎหมายมือหนึ่งหรือแนวหน้า  ของเมืองไทย  แต่ผมจะตอบปัญหาด้วยความระมัดระวัง   คือก่อนตอบจะเปิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วยเสมอ ข้างกายเต็มไปด้วย  คำอธิบายข้อกฎหมาย  เจาะฎีกา...  หลายรูปแบบหลายสำนัก ที่ซื้อหาชนิดไม่เสียดายเงิน  และได้ใช้กฎหมายในทางปฏิบัติมาแต่หนุ่มจนแก่ มีลูกสองคน  ต่างก็จบวิชากฎหมายทั้งคู่ มีการงานทำที่มั่นคง ดังนั้นเมื่อมีปัญหาข้อกฎหมาย  สามพ่อลูกมักถกปัญหาข้อกฎหมายกันเสมอเพื่อป้องกันการผิดพลาด  แต่ก็ไม่เคยประมาท  เพราะกฎหมายมีข้อพลิกแพลงไปได้เสมอ  โดยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย.......   เพราะตระหนักดีว่า ผู้ตั้งกระทู้มีความคับข้องใจ  ประสพปัญหาในการดำเนินชีวิต จึงสอบถามเข้ามา  ดังนั้นทุกคำตอบจึงมุ่งเน้นให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง  ดังนั้นจึงขอฝากบอกทุกคนได้วางใจได้ว่า  ท่านได้รับคำปรึกษาที่ถูกต้องมีกฎหมายรองรับ    ถ้าเกิดความผิดพลาสด  ผมจะขอยอมรับแต่โดยดี  และแก้ไขให้ถูกต้องโดยเร็ว....

คือผมก็มิทราบได้ว่าคำพูดในด้านบนนั้นท่านสื่อถึงใคร แต่ถ้าสื่อถึงการแสดงความคิดเห็นของผม ผมก็ขอเรียนชี้แจงดังนี้ 

ผมมิได้มีเจตนาที่จะสื่อหรือบอกว่า คำตอบของคุณ อนัตตา นั้นไม่น่าเชื่อถือหรือผิดแต่อย่างใด เพียงแต่ผมแค่แสดงความคิดเห็นไปตามความคิดเห็นอันน้อยนิดของผม ซึ่งบางทีมันก็มีทั้งผิดและถูก แต่ส่วนใหญ่ที่ผิดมักจะไม่รู้ถึงข้อกฏหมายในเรื่องต่าง ๆ เพราะยังไม่มีประสบการณ์มากนักจึงนึกหรือคาดไม่ถึง และผมก็ตระหนักดีว่าความรู้และประสบการณ์ของผมในตอนนี้นั้นอาจจะสู้ท่านหรือทนายอื่น ๆ ไม่ได้แต่ผมก็ถือว่าเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นหนึ่งในบอร์ดเสรีนี้เท่านั้น หากว่ามันผิดพลาดหรือท่านอื่นมีความเห็นที่แตกต่างท่านก็ย่อมแก้ไขหรือเสนอแนะความเห็นของท่านได้ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ ซึ่งถ้ามันมีเหตุผลก็คงไม่มีใครไปเถียงหรือไม่ยอมรับได้ ฉนั้นผมจึงขอเรียนชี้แจงอีกครั้งว่าความเห็นของผมในทุกกระทู้ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของผมในบอร์ดเท่านั้นครับ หาได้มิเจตนาอื่นใดแอบแฝงไม่เลย หวังว่าท่านคงจะเข้าใจ ... ขอบคุณครับ

ที่แสดงความคิดเห็นออกไป   เพื่อต้องการสื่อสารไปยังผู้ที่ตั้งกระทู้ทุกๆท่าน  เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า   ท่านสอบถามปัญหามาจะได้รับแนะแนวทางที่ถูกต้อง  มีกฎหมายรองรับ  เพราะตระหนักดีว่า  ผู้ตั้งกระทู้ต้องการนำไปปฏิบัติจริง  หรือมีปัญหาในทางปฏิบัติ.....ในเมื่อมีการแสดงความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามกัน   แบบ  ใช่ เป็น ไม่ใช่ หรือ  ถูก เป็น ผิด แม้เพียงบางครั้งบางกระทู้ เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ในกระทู้เดียวกัน  ก็ลองตรองดูเถิดว่าผู้ตั้งกระทู้จะเชื่อใครดี แล้วจะให้เขานำไปปฏิบัติได้อย่างไร ผมจึงออกมาเปิดเผยตัวดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ตั้งกระทู้เป็นสำคัญ   ไม่มีเจตนาอวดอ้างว่าตน มีความเก่งกาจสามารถเกินใคร   เรื่องของกฎหมายไม่มีใครเก่งเกินใครหรอก  ถ้าใครประมาทแม้เป็นนักกฎหมายมือหนึ่ง  ก็หงายหลังมามากต่อมาก.....

เหมือนคุณกำลังจะสื่อว่าบอร์ดแห่งนี้ไม่ใช่ที่สำหรับมือสมัครเล่นอย่างผม จึงไม่ควรมาแสดงความเห็น ถ้าเป็นเช่นนั้นผมก็ต้องขออภัยในความไม่รอบคอบไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

สรุปว่า เปิดเพลงจากแผ่นจริงได้มั้ย ไม่ได้ทำซื้า หรือ copy ลง i pod

 สรุป ว่า คนทำมาหากิน  ไม่อยากเสียเวลา และไม่อยากเสี่ยง ก็ต้องจ่าย เงินให้ กลุ่มคนที่อ้าง ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ สิขสิทธิ้  เพียงแค่เปิดเพลงให้ลูกค้าฟังให้ร้าน ขายอาหารและเครื่องดื่ม