คุณไม่ได้มีหน้าที่รับคนเข้าทำงาน ก็ไม่น่าจะมีความผิดอะไรเพราะเป็นแค่หัวหน้าพนักงานเท่านั้น อีกอย่างคุณก็ไม่รู้ว่าเขาคือบุคคลต่างด้าวที่ผิดกฏหมายจึงไม่น่าจะใช่ความผิดที่คุณจะต้องรับผิดชอบ แต่หากจะต้องเป็นเจ้าของกิจการสะมากกว่าที่จะต้องตอบคำถามหรือรับผิดชอบ ส่วนพยานก็เป็นเพียงการเซ็นว่าคุณคือผู้ที่อยู่ในเหตุการณืหรือรู้เห็น มิใช่เซ็นในฐานะขำเลยแต่อย่างใด ก็ไม่ต้องไปวิตกกังวลอะไรมากครับ เพราะถ้าเขาจะเอาผิดคุณเขาคงแจ้งข้อหาไปแล้วล่ะครับ

ปล...เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของผมส่วนนึงเท่านั้นนะครับ อาจจะไม่ชัวร์รอฟังคอมเมนท์จากท่านอื่นดูอีกทีก่อนก็แล้วกันนะครับ

ถ้าไม่ไปให้ปากคำจะมีโทษปรับห้าพันบาท    และอาจถูกต้องข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับนายจ้าง   ในการให้ที่พักพิงหรือช่วยเหลือแก่คนต่างด้าว  ซึ่งมีโทษถึงขั้นจำคุก

กราบขอบหระคุณทุกท่านที่ให้ความกระจ่างครับ

แล้วผมต้องทำอย่างไรต่อดีครับอยู่เฉยรอให้ทาง ตม.เข้าติดต่อมา เพราะผมไม่รู้ว่าจะติดต่อใตร

เพราะผมยังไท่ได้ให้ปากคำอะไรเลยครับรบกวนช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยครับจะเป็นความกรุณรอย่างสูง

ก็คุณบอกตำรวจเคยโทรมาหาคุณเป็นสิบ ๆ รอบ ก็เบอร์นั้นไงครับลองติดต่อกลับไปก็ได้ครับเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ก็รอให้  ตม.  ติดต่อมา  ก็ไปให้ปากคำไปตามข้อเท็จจริง  พึงระมัดระวัง   อย่าเอาตัวไปพัวพันกับนายจ้างจนตัวเองต้องติดกับเสียเอง  เช่นไปรับสมอ้างว่า  เป็นผู้รับคนงานเข้าทำงาน   ถ้าไปพูดตามบทที่นายจ้างบอกเช่นนั้น  คุณคงหนีความผิดในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดไม่พ้น

ที่ผมปรึกษาพวกพี่  คือเพื่อนของเคยโดนแบบนี้ละครับไปอยู่ที่ ตม.ไม่ได้ทำอะไร นังรอให้บริษัทเอาเงินมาถ่ายตัวกลับไม่ได้แจ้งอะไร(ถ่ายตัวออกนะครับไม่ใช้ประกันตัวเพราะเพื่อนผมเป็นแค่ลูกจ้างของบริษัท)    ส่วนแรงงานก็ผักดันกลับประเทศส่วน ทางบริษัทก็ดำเนินคดีกันไปจ่ายค่าปรับกันไป   ที่ผมไม่ให้การเพราะกล้วว่าหากบริษัทไม่เอาเงินมาให้ ตม.เข้าก็จะแจ้งทางผมเป้นผู้ว่าจ้างเสียเองที่ผมกลัวนะครับพวกพี่ ๆ ผมก็แค่คนทำงานเดือนละไม่กี่บาทครับพี่จะไปสู้อะไรกับพวกเข้าไหวครับ  

ขอบคุณพวกพี่มากนะครับ 

ผมเชื่อว่า  เรื่องที่คุณบอกเป็นเรื่องจริง  เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วยงาน  มักกระทำการนอกกรอบของกฎหมายเสมอ  คนบริสุทธิ์เสียผู้เสียคนมาแล้วมากมาย  การจะคิดฟ้องร้องฐานะเจ้าพนักงานฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ   ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ  ยิ่งคนจนๆก็เลิกคิดได้เลย  ก็ขอแนะนำให้คุณใช้สติปัญญาเอาตัวรอดเอาเองเถิด

ขอคุณครับ พี่อนันตา ที่ช่วยกรุณาแนะนำครับเป็นบุญอย่างมากครับครับที่ช่วยคนที่เดือดร้อนดีกว่ายริจากเงินให้แก่วัด

ขอให้บุญนี้ส่งผลแก่ตัวพี่และครอบครัว    ผมจะพยายามแก้ไขปัญหาด้วยความรอบคอบครับ ประเทศไทยก็เป็นแบบนี้และครับ

ผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศมันเป็นกันแบบนี้แล้วจะให้เด็กรุ้นใหม่จะดีมีระเบียบวินัยซื้อสัตย๋ได้อย่างไร  ผมว่าตงจะต้องรอไปอีกสัก

100 ปี รอพวกเข้าไปกันให้หมดเสียก่อนอาจจะดีขึ้นก็ได้นะครับ