1-2-3-4-5  คุณก็ทำผิดขั้นตอน ที่ไปขายบ้านเอง  โดยไม่ได้บอกเลิกสัญญาการเป็นนายหน้าให้ชัดเจน  เมื่อขายบ้านด้วยตนเองได้  อาจมีการฟ้องร้องตามสัญญาเพื่อเรียกร้องค่าบำเหน็จได้  ถ้ามีการฟ้องก็จำเป็นต้องยื่นคำให้การต่อสู้ เพื่อแถลงข้อเท็จจริงให้ศาลทราบว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร  ถ้าไม่ไปศาลหรือไม่ยื่นคำให้การตามนัด    เขาก็คงมีการร้องขอให้มีการพิจารณาฝ่ายเดียว ก็เสมือนคุณถูกมัดมือชก  ผลก็คงค่อนข้างแน่  คือต้องรับผิดในหนี้ตามที่เขาฟ้อง  และคงถูกออกหมายบังคับคดี  ยึดทรัพย์ไปขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้......เรื่องอายุความตามความเห็นของผม ก็เข้าข่ายผู้ประกอบอาชีพอิสระ(นายหน้า) เรียกเอาค่าการงานที่ทำให้  รวมทั้งเงินที่ได้ทดรองไป  คือมีอายุความสองปี  นับแต่วันที่สามารถชี้ช่องให้มีการขายบ้านได้สำเร็จ  กรณีนี้เขาก็คงอ้างวันที่คุณสามารถทำสัญญาขายบ้านได้  เป็นวันเริ่มนับอายุความ.....การที่ไม่ต้องจ่ายค่านายหน้ามีสองกรณีคือ  กรณีแรก  เขาไม่ติดใจฟ้องร้องเพราะเงินบำเหน็จไม่มากมายนัก          หรือ  คดีขาดอายุความ.......การย้ายบ้านเมื่อมีการส่งหมายมา  คงไม่ได้รับ   เขาคงอ้างว่าได้ส่งหมายโดยชอบแล้ว  ร้องขอให้มีการพิจารณาฝ่ายเดียวได้...เรื่องบัตรเครดิต  มีอายุความสองปี   ถ้าไม่ไปศาลตามนัด  ผลก็คงเป็นไปตามที่กล่าวข้างต้นครับ

ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อมูล แต่มีข้อสงสัยนิดนึงค่ะ ว่า  1. ในกรณีที่ถูกออกหมายบังคับคดี ยึดทรัพย์ไปขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้นั่น   ถ้าเราขายบ้านให้คนอื่นไปแล้ว นั้น  เขาจะมายึดอะไรกับเราได้ค่ะ 

2. ตอนทำสัญญา ให้ขายบ้านให้ในราคา 1400000 ผ่านไปหลายเดือนก็ยังไม่สามารถขายให้เราได้ ดังนั้นดิฉันจึงได้โทรไปหาเซลล์เพื่อทำการลดราคาบ้านลง เพื่อทำให้ขายได้ง่ายยิ่งขึ้นเป็นราคา 1250000 บาท  อยากทราบว่า ทางนายหน้าลงใน web ขายบ้าน เป็นไปในราคา 1300000 บาท ถ้าขึ้นศาลเราสามารถบอกได้มั๊ยว่า เขาไม่ได้ทำตามที่เราตกลงเรื่องราคากัน

3. อีกไม่กี่วันดิฉันจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว  เพราะบ้านนี้ขายได้แล้ว  อยากทราบว่าถ้าหมายศาลมาที่บ้าน เราไม่ขึ้นศาล

ทางนายหน้าจะติดตามเราได้อย่างไรคะ ค่านายหน้าอยู่ประมาณ 3%ของ 1250000 บาท  ส่วนสัญญาระบุไว้วันที่ 16 ธันวาคม 2553  ก่อนหน้านี้มีญาติสนใจอยากซื่อบ้านดิฉัน ดิฉันก็ได้ติดต่อนายหน้าไปเพื่อขอลดค่านายหน้าเหลือเพียงครึ่งเดียว  หลังจากติดต่อไปแล้วนั้น  ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมาเลยค่ะ ดูว่าทางนั้นไม่ได้สนใจคำขอของเรา และก็แทบจะไม่ได้ทำงานขายบ้านให้เราเลยค่ะ 

ขอบคุณค่ะ

ปล. สาเหตุที่ไม่สามารถบอกเลิกสัญญาได้นั้นเป็นเพราะว่า สัญญามีผลบังคับ 1 ปีค่ะ  แต่ว่าดิฉันจำเป็นมาก ไม่สามารถรอให้ครบ 1 ปีก่อน

1. ทรัพย์ในที่นี้หมายถึงทรัพย์ของ จขกท. ครับไม่ได้หมายถึงบ้านที่ขายไป เช่นว่าถ้าศาลตัดสินว่าคุณผิดจริงและจะต้องจ่ายให้กับนายหน้าหากว่าไม่จ่ายหรือไม่มีเงินจ่ายก็จะต้องทำการยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดต่อไปครับ (จากกรณีนี้มูลค่าไม่มากก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ครับ)

2. หน้าที่ของนายหน้าก็คือ ชี้ช่องต่อบุคคลภายนอกเพื่อให้เข้ามาซื้อบ้านคุณ แต่กฏหมายก็ไม่ได้บอกว่าห้ามนายหน้าขายเกินราคา ฉนั้นเมื่อเขาได้ทำหน้าที่ชี้ช่องจนคุณสามารถขายบ้านได้แล้วก็ถือเป็นผลสำเร็จในหน้าที่ตามสัญญาแล้วครับ ผมจึงเห็นว่าข้อต่อสู้นี้ไม่น่าจะฟังขึ้นได้ครับ

3.  อย่างที่ท่าน คนธรรมดา กล่าวไปครับหากว่าเรื่องถึงศาลคนที่จะต้องสนใจติดตามไม่ใช่ทางนายหน้านะครับ เพราะถึงเวลานั้นเขาคงไม่จำเป็นจะต้องมาตามคุณอีกแล้วเพราะหากว่าคุณไม่ติดตามและไม่ไปขึ้นให้การโต้แย้งต่อศาล ทางศาลจะทำการพิจารณาคำฟ้องของโจทก์แต่เพียงฝ่ายเดียวครับ ซึ่งผลก็คือคุณอาจจะต้องถูกพิพากษาให้ชดใช้ตามมูลที่โจทก์ได้บรรยายฟ้องไป และเมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาติดตามคุณก็คือเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งเขาคงจะหาข้อมูลหรือที่อยู่ของคุณได้ไม่ยากนักครับ