ReadyPlanet.com


ขอคำปรึกษา การทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนาฆ่า ด้วยครับ


เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปี 2551

จากสำนวนตำรวจที่สอบปากคำญาติผู้ใหญ่ของผม ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่บุคคลทั้งสองได้เข้าห้องพักไปแล้ว  ญาติผู้ใหญ่ของผมให้การว่า  เมื่อได้เข้าห้องพักไปแล้ว  นาย ก. ได้จับเหล็กแล้วตะโกนบอกว่า กูจะฆ่ามึงแล้วก็ตรงเข้ามาทำร้าย   ญาติผู้ใหญ่ของผมเยื้อแย่งเหล็กมาได้ก็โยนเหล็กทิ้ง แล้วคว้าครกตำพริกที่อยู่ข้างๆได้ก็ทุ่มไปยัง นาย ก. โดนที่หัว    ทำให้ นาย ก. หยุดแล้วก็ล้มลง  และค่อยๆคลานไปนอน  ญาติผู้ใหญ่ของผมเห็นว่าเขานอนจึงเอาผ้าห่มไปห่มให้แล้วก็นอนกอด นาย ก. อยู่ข้างๆ  หลังจากนั้นนึกขึ้นได้กลัวว่า นาย ก. จะตื่นขึ้นมาแล้วจะทำร้ายร่างกายอีก จึงได้หนีออกจากห้องไป  แต่จากนั้น  1  อาทิตย์ต่อมา ญาติผู้ใหญ่ของผมมารู้ว่า  นาย ก. ได้ตายได้ ตกใจกลัวจึงกลับมาที่บ้านแล้วได้บวชเป็นชีจนกระทั่งถูกจับกุมตัวได้ 

อยากขอคำปรึกษาดังนี้

1.                ลักษณะนี้เป็นเจตนาทำร้าย นาย ก. หรือไม่ (เพราะข้อกล่าวหาบอกว่าทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนาฆ่า)

2.               ถ้าผมช่วยญาติผู้ใหญ่ของผมโดยการไปขอขมาและชดใช้ค่าเสียหาย ให้พ่อของ นาย ก. จะทำให้หนักเป็นเบาได้ไหม

3.               ถ้าผมต้องการให้ทาง บริษัท ปมุขกฎหมายช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ผมจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ 

อยากให้ติดต่อผมทางอีเมล์ที่ให้ไว้ด้วยครับ ผมสงสารญาติผู้ใหญ่ผมมาก ตอนนี้สำนวนอยู่ที่ สภ.บางละมุง  จ.ชลบุรี  และตำรวจนัดอีกที วันที่  6  กันยายน  2554 (ตอนนี้ได้ประกันตัวญาติผู้ใหญ่ผมออกมาแล้ว) ขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ อภิเชษฐ์ :: วันที่ลงประกาศ 2011-08-11 17:27:04 IP : 110.49.240.71


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3252972)

1.ถ้าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่บอกมา   ถือว่าญาติของคุณ  ป้องกันสิทธิของตนเองโดยชอบ  ย่อมไม่มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68  และคำพิพากษาของศาลฎีกาเทียบเคียง  ที่ยกมาครับ....การตั้งข้อข้อหาของตำรวจ   ก็เป็นไปตามข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่เขาพบเห็น  ไม่ใช่หมายความว่า จำเลยต้องรับโทษตามที่ตำรวจตั้งข้อหา    เมื่อมีการสืบพยาน   ถ้าสามารถนำสืบให้เห็นว่าเป็นการป้องสิทธิของตนโดยชอบ  ย่อมไม่มีความผิดครับ

2. การไปขอขมาก็เป็นเรื่องดี    คล้ายๆยอมรับผิดที่ได้กระทำลงไป    ศาลอาจมองว่าจำเลยสำนึกผิดในการกระทำของตน  อาจมีผลต่อการลดหย่อนผ่อนโทษได้   แต่การไปขอขมาต้องดูทิศททางให้ดีก่อน   ถ้าญาติของผู้ตายโกรธแค้น  อาจมีปัญหาตามมาได้  ตามความเห็นของผม  ต่อสู้คดีในประเด็นว่า  ป้องกันสิทธิโดยชอบน่าจะดีกว่าครับ

3.  ถ้าต่อสู้คดีในเรื่องการใช้สิทธป้องกันโดยชอบ  น่าจะมีโอกาสรอดมากที่สุด   ถ้าพยานแวดล้อมหรือเพื่อนบ้าน  ให้ปากคำสอดคล้องต้องกัน ว่า  ญาติของคุณถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ก็มีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากขึ้น.....   ที่ลงมือทำร้ายผู้ตาย   เป็นการป้องกันสิทธิโดยชอบ  เพราะผู้ตายถืออาวุธเข้าทำร้าย และขู่จะฆ่า  จึงคว้าครกทำร้ายเพื่อป้องกันตัว..ถ้าผลการชันสูตรบาดแผลผู้ตาย  ระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตเพราะถูกของแข็งทุบหัวเพียงครั้งเดียว โอกาสพ้นผิดจึงเป็นไปได้สูง   เพราะป้องกันสิทธิของตนโดยชอบครับ

มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อ กฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควร แก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้น ไม่มีความผิด
 

 

คำพกพากษาศาลฎีกาที่ 8879/2542

จำเลยพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องกับผู้ตาย เมื่อผู้ตายถือมีดเข้ามาท้าทาย จำเลยเพียงแต่ใช้มือผลักอกผู้ตายเท่านั้น การที่ผู้ตายยังเข้าไปหาจะใช้มีดฟันจำเลยอีก จำเลยจึงถีบผู้ตายและใช้มีดฟันผู้ตายไปเพียงครั้งเดียว แม้ผู้ตายจะมีอาการมึนเมาสุรา แต่ตามลักษณะอาการของผู้ตายแสดงว่ายังครองสติได้ การมึนเมาสุราดังกล่าวจะยกขึ้นมาเพื่อฟังให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้ พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยฟันผู้ตายเพื่อป้องกันตนเอง ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิด

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8079/2549

จำเลยและผู้เสียหายมีสาเหตุขุ่นข้องหมองใจกันจนต่างฝ่ายต่างหวาดระแวงว่าอีกฝ่ายจะมาทำร้ายตน ตามพฤติการณ์แห่งคดีที่ผู้เสียหายเรียกชื่อจำเลยและชักอาวุธปืนออกมาจากเอว วิญญูชนเช่นจำเลยย่อมเข้าใจได้ว่าผู้เสียหายจะใช้อาวุธปืนนั้นยิงจำเลย ถือได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงตาม ป.อ. มาตรา 68 แล้ว การที่จำเลยหยิบอาวุธมีดพร้าที่วางอยู่พื้นถนนซึ่งเป็นของบุคคลอื่นฟันทำร้ายผู้เสียหายไปเพียงครั้งเดียวแล้ววิ่งหลบหนีไป จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงไม่มีความผิด

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คงคา วันที่ตอบ 2011-08-12 15:04:22 IP : 125.26.108.20


ความคิดเห็นที่ 2 (3252973)

ขอบคุณคุณคงคามากครับที่ให้คำแนะนำที่ดี

เมื่อเช้าผมได้ติดต่อไปยังพ่อแม่ของผู้ตายแล้วและยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้(ผมเองเมื่อได้คุยกับพ่อแม่ของผู้ตายแล้วก็เห็นใจพ่อแม่ของผู้ตายครับและก็อยากจะช่วยเหลือในส่วนที่สามารถช่วยเหลือได้ครับ) แล้วก็ได้โทรไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลคดีนี้ เขาแนะนำว่าเมื่อตกลงกันได้ให้นัดวันที่จะตกลงจ่ายค่าเสียหายต่อหน้าเจ้าหน้าที่  เจ้าหน้าที่จะบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ประกอบสำนวนครับ 

ตอนนี้ผมกำลังหาทนายเพื่อให้คำแนะนำในการสู้คดีอยู่  คุณคงคาให้คำแนะนำที่ดีไม่ทราบว่า คุณคงคาสะดวกที่จะรับว่าความคดีนี้ไหมครับ

ถ้าสะดวกอยากให้คุณคงคาฝากเบอร์ไว้แล้วผมจะติดต่อกลับครับ  ขอบคุณมากๆครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิเชษฐ์ วันที่ตอบ 2011-08-12 15:44:46 IP : 110.49.234.23


ความคิดเห็นที่ 3 (3252982)

ถ้าไม่สะดวกติดต่อทางเมล์ก็ได้ครับ 

apiched1978@hotmail.co.th

ไม่ใช่ .com นะครับ

ขอบคุณครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิเชษฐ์ (apiched1978-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2011-08-12 16:49:20 IP : 110.49.234.23


ความคิดเห็นที่ 4 (3253007)

ติดต่อตามหมายเลขโทรฯ ข้างบนดีกว่าครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คงคา วันที่ตอบ 2011-08-12 22:45:51 IP : 125.26.108.20



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.