เมื่อเดือนกันยายน 2553 ผมได้คบหาเป็นคนรักกับนางสาว บ. ซึ่งยังเป็นนักศึกษา โดยส่งเสียเลี้ยงดูตลอดมา จนกระทั่งเดือนธันวาคม 2553 ทางบ้านของนางสาว บ. ได้ขอร้องให้ผมทำการหมั้น แล้วค่อยแต่งงานกันเมื่อเรียนจบ ผมก็ไม่ขัดข้อง โดยมารดาของนางสาว บ. ได้พาผมไปดูบ้านหลังเก่า แล้วบอกว่า ตนติดหนี้อยู่แปดหมื่นบาท หากผมช่วยเหลือชำระหนี้ ก็จะยกบ้านหลังเก่าให้นางสาว บ. เพื่อให้ใช้อยู่อาศัยกับผม แต่หากผมไม่ช่วย ตนก็จำเป็นต้องขายบ้านหลังดังกล่าวไป และบอกด้วยว่า เงินจำนวนแปดหมื่นนี้ ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งในของหมั้น ผมจึงตกลงให้เงินไป โดย มอบเงินสดในนางสาว บ. นำไปส่งมอบต่อให้มารดา

ครั้น ต้นปี 2554 อยู่ ๆ นางสาว บ. ก็ไม่ยอมพบหน้าหรือพูดคุยกับผม ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกัน จนใกล้กำหนดวันหมั้น นางสาว บ. ได้โทรศัพท์มาบอกเลิกกับผม โดยอ้างว่า นิสัยไปกันไมไ่ด้ แต่ผมมาทราบภายหลังว่า คนรักเก่าของนางสาว บ. ได้กลับมาคืนดี แล้วสั่งห้าม นางสาว บ. ไม่ให้ติดต่อกับผม เมื่อผมโทรศัีพท์ไปสอบถามมารดาของนางสาว บ. ถึงเรื่องเงินที่ผมให้ไป เค้าตอบมาแต่เพียงว่า ขอให้ขายบ้านได้ก่อน ถึงจะนำเงินมาคืนให้ผม

กรณีนี้ ถ้าผมต้องการเรียกเงินคืน ผมจะฟ้องใครได้บ้าง และฟ้องเป็นคดีแพ่งหรืออาญา และข้อหาอะไร?