1.ในการตรวจค้น ตำรวจนำสำเนาหมายค้นให้ดูอย่างนี้ตำรวจทำได้หรือไม่อย่างไร ทำไมไม่ใช้ฉบับจริง

ตอบ.....คุณควรโต้แย้งแต่แรก  คือไม่ยอมให้ค้น    จนกว่าจะได้ฉบับจริงมายืนยัน  อาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้   แต่ถ้าจะเอาความ  ตำรวจก็คงมีวิธีหลบเลี่ยง   โดยอ้างหน้าตาเฉยว่าวันค้นใช้ฉบับจริงก็เป็นไปได้

2.ตำรวจไม่ได้แจ้งสิทธิให้ผมทราบแต่อย่างใดในขณะตรวจค้นและจับกุม อีกทั้งอ่านข้อความในบันทึกจับกุมไม่หมด การกระทำของตำรวจชอบหรือไม่อย่างไร

ตอบ....ถ้าไม่แจ้งสิทธิตาม ป.วิอาญา 7/1  ก้เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้  แต่....การแจ้งหรือไม่แจ้ง  เป็นข้อเท็จจริง  ถ้าจะเอาผิดกับพวกเขา    เขาก็ย่อมต่อสู้ว่าได้แจ้งสิทธิครบถ้วนแล้ว    เราก็คงหาพยานมาต่อสู้หรือยืนยันลำบากครับ

3.ในบันทึกจับกุม ผมมีสิทธิที่จะไม่เซ็นได้หรือไม่ โดยตำรวจบอกว่าเซ็น ๆ ไปเถอะเรื่องจะได้จบ

ตอบ.....ถ้าเซ็นชื่อ  ก็คือการยอมรับผิดตามที่ถูกกล่าวหา    ถ้าไม่เซ็น  ใครก็บังคับไม่ได้   แม้เซ็นแล้ว  ก็ยังสามารถต่อสู้ได้ว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ให้เซ็นขื่อ  ก็คงต้องต่อสู้กันอีกยาวครับ

4.การที่ตำรวจถามว่าของกลางทั้งหมดเป็นของผมใช่หรือไม่ ผมตอบว่าใช่แล้วตำรวจเขียนในบันทึกจับกุมว่าผมยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา การกระทำของตำรวจชอบหรือไม่อย่างไร

ตอบ....เมื่อไปยอมรับเอง   ตำรวจเขาไม่มีความผิด  เพราะไม่มีการบังคับขู่เข็ญ

5.ตำรวจโรงพักบอกว่าจะเรียกมาสอบสวนอีกครั้ง ในชั้นสอบสวนผมต้องให้การไปในลักษณะอย่างไรดีครับ

ตอบ.....ควรหาทนายช่วยเหลือ     หรือให้ปากคำไปตามข้อเท็จจริง   คดีแบบนี้มักจบลงที่โรงพัก  เพราะตำรวจที่มาจับคือหน่วยล่าเงินค่าลิขสิทธิ์  เพราะเขาตระหนักดีว่า คนส่วนใหญ่ไม่ชอบขึ้นศาล   ส่วนมากก็ยอมจ่ายเงินเพื่อจบๆไป  แก๊งเหล่านี้จึงตระเวณหากินทั่วราชอาณาจักร  โดยอาศัย พรบ.ลิขสิทธิ์ฯ เป็นเครื่องมือ   ก็พยายามศึกษา พรบ.ฉบับนี้และปฏิบัติตนอย่าให้มีช่องว่างให้ถูกรีดไถ  โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ