ReadyPlanet.com


การผ่อนที่ดินขณะนี้ติดขัดไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหนดี ขอความกรุณาช่วยด้วยครับ


คุณพ่อได้ผ่อนที่ดิน ณ ที่แห่งหนึ่งหากจากตัวอำเภอ 12 กิโลเมตรที่ดินอยู่ติดถนน ที่ดินบริเวณนี้ไม่มีเทศบาล ซึ่งได้ผ่อนซื้อกับนาย ก. วางมัดจำไปครั้งแรก ต่อมาพ่อได้หาเงินไปผ่อนเป็นครั้งที่สอง การผ่อนที่ดินสมัยนั้น ผมซึ่งเป็นลูกยังตัวเล็กยังไม่รู้เรื่องเลยว่าที่ดินตรงนี้เป็นมาอย่างไรจนกระทั่งผมโต คุณพ่อได้ไปพบกับนาย ก. อีกครั้งเพื่อขอให้แบ่งที่ดินแปลงนี้ตามจำนวนเงินที่วางมัดไปได้ไหม  นาย ก. จึงตอบว่าไม่ได้ขอให้ผ่อนที่ดินที่เหลืออีกให้หมดดีกว่า คุณพ่อก็รอต่อไปจะหาเงินไปผ่อนต่อแต่ว่า บ้านนาย ก. ไฟไหม้หลักฐานที่บ้านโฉนด ต่าง ๆ ก็ไหม้ไปด้วย ก็เลยต้องรอนาย ก. รวมหลักฐานใหม่ ทำหลักฐานใหม่ เพราะว่ามีคนผ่อนที่ดินจากนายก็หลายคน เยอะมาก จากนั้นคุณพ่ออยู่ที่ดินตรงนี้ทำมาหากินมาสักระยะ 20กว่าปี (แต่ว่าได้ผ่อนซื้อยังไม่หมดครับ)  เมื่อถึงปี 2554 ได้มีกรมที่ดินฝ่ายรังวัดมาที่บ้านเพื่อทำการวัดแบ่งเป็นบล็อกแล้ววางเสาลงดิน (ผมเรียกไม่ถูกว่าเป็นอะไร) ดังนั้นจึงได้พาพ่อไปพบ นาย ก. ที่บ้านเพื่อติดต่อในการประเมินที่ดินตรงนี้หมดเท่าไร ต้องใช้เงินอีกเท่าไร นายก็ตอบว่ายังไม่ทราบได้ต้องรอกรมที่ดิน

จึงขอความช่วยเหลือด้วยครับ เป็นข้อ ๆ ดังนี้

  1. ลักษณะการซื้อที่ดินเป็นการสัญญาเช่าซื้อที่ดิน หรือ สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน  เพราะว่าพ่อทำใบสัญญาหาย ใบเสร็จจ่ายเงินหายไป  ตอนซื้อมีผู้ใหญ่ไปด้วยช่วงแรก
  2. ใบสัญญาซื้อขายหาย ตามเหตุการณ์นี้จะโด้นโกงไหม สมุดบันทึกหลักฐานบ้านนาย ก. ไหม้ แล้วทำขึ้นใหม่ด้วย
  3. ราคาที่ดินตารางวาละให้ยึดหลักปีที่ทำสัญญาซื้อเป็นครั้งแรก ใช่ไหม  หรือว่าราคามีการเปลี่ยนแปลงไปตามปี ตามกระบวนการผู้ขายสามารถยึดหลักการปีปัจจุบัน (ราคาขึ้น) ได้กรณีใด
  4.  ในการซื้อที่ดินนี้เป็นโมฆะไหม เพราะว่าผ่านมาไม่ได้ติดต่อประมาณ 10 ปี หลังจากวางมัดจำเป็นครั้งที่สอง และฝ่ายรังวัดที่มาที่บ้านนั้น เป็นการออกโฉนดหรือแบ่งขายที่ดิน
  5.  ซื้อที่ดินพอที่จะประมาณได้ไหมว่า ให้เอาเกณฑ์จากกรมที่ดิน หรือ ผู้ขาย เช่น ที่ดินติดถนนไม่มีเทศบาล

กรมที่ดินรางวัดออกในตารางวาละ 250 บาท ส่วนผู้ขายนำมาขายในตารางวาละ 350 บาท แบบนี้ผู้ขายเอาเปรียบผู้ซื้อหรือเปล่า 

6.  โฉนดที่ดินที่ซื้อสามารถรู้ได้ไหมว่าเจ้าของสิทธิ์เป็นใคร จะต้องไปหาผู้ขาย หรือ กรมที่ดินครับ



ผู้ตั้งกระทู้ โล (samrty77-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-10-24 15:35:19 IP : 180.180.162.9


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3267450)

1-2  เข้าลักษณะสัญญาจะขายจะซื้อ   เพราะมีการวางประจำหรือชำระหนี้บางส่วน   ก็ฟ้องร้องได้แม้ไม่มีสัญญาครับ

3  ก็ต้องยึดราคาที่ตกลงกันในการตกลงกันครั้งแรกครับ.

4.  จะเป็นโมฆะหรือไม่  ก็อยู่ว่าตกลงกันผ่อนส่งกันกี่ปี ถ้าไม่กำหนดเวลาการผ่อนส่งไว้แน่นอน ก็ไม่เป็นโมฆะ  แต่ดูแล้วก็แปลกชอบกล  ที่ทำสัญญาผ่อนกันโดยไม่มีขอบเขตแน่นอน......เมื่อมีรังวัดที่ดินเพื่อออกโฉนด  พ่อของคุณต้องคัดค้าน    ไม่ให้รังวัดครอบคลุมพื้นที่ที่อาศัยอยู่  โดยอ้างสิทธิในทำสัญญาจะขายจะซื้อ  และครอบครองมาเกินหนึ่งปี  ย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้อื่น  ถ้าไม่คัดค้านการรังวัดที่ดิน     โดยปล่อยให้เจ้าของที่ดินออกเป็นโฉนดที่ดิน  ในเวลาไม่นานเกินรอ  เขาคงฟ้องขับไล่ออกจากที่ดิน  ดังนั้นการโต้แย้งคัดค้านต้องทำอย่างจริงจัง   คือห้ามรังวัดครอบคลุมที่ดินที่อาศัยอยู่อย่างเด็ดขาด

5.  การซื้อขายที่ดิน    ไม่มีการกำหนดไว้ตายตัว   อยู่ที่การตกลงกัน    ราคาประเมินของกรมที่ดิน  กับราคาขาย มักแตกต่างกันเสมอ  ราคาประเมินมีไว้เพื่อการเก็บภาษี     แต่การซื้อขายอยู่ที่ความพอใจของผู้ขายและผู้ซื้อ  ส่วนมากราคาขายมักสูงกว่าราคาประเมินหลายเท่า    ไม่ถือว่าเป็นการเอาเปรียบ   อยู่ที่ความพอใจครับ.....แต่เมื่อครอบครองในฐานะเข้าของมานาน   ก็ย่อมมีอำนาจในการต่อรองสูง   เพราะสามารถอ้างสิทธิเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องใช้ราคาก็ได้  ไม่ใช่สอนให้ไปโกงผู้อื่น    แต่กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ครับ

6.ขอดูโฉนดที่ดินจากผู้ขายก็ได้     ถ้าไม่สะดวกไปขอตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินก็ได้     แต่ต้องมีสำเนาโฉนดที่ดินของที่ดินข้างเคียงไปด้วย   เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาครับ

 
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2011-10-25 13:26:23 IP : 180.180.27.33


ความคิดเห็นที่ 2 (3267469)

ขอบคุณครับ

น่าเสียดายข้อ 4 พ่อผมไม่ได้คัดค้านปล่อยให้ ผู้ขายมากับฝ่ายรังวัด ครอบคลุมพื้นที่ที่อาศัยอยู่ ผ่านมาไม่กีเดือนนี้เองครับ

(ทางกฎหมายมีทางออกให้ไหมครับ เพราะว่าที่ดินตรงนี้อยู่ทั้งครอบครัวมานาน ครอบครบโดยสงบ 10 ปี ถ้าสามารถครองครองปรปักษ์มีขั้นตอนอย่างไรครับ)

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โล (samrty77-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-10-25 19:16:01 IP : 125.26.116.166


ความคิดเห็นที่ 3 (3267550)

เมื่อให้เขารังวัดครอบคลุมที่ดินที่พ่ออาศัยอยู่ทั้งหมด    ก็ถือว่าปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย  ถ้าปล่อยให้ออกเป็นโฉนดที่ดิน   สิทธิการครอบครองของพ่อที่ผ่านมาย่อมถูกตัดตอนลง   ต้องเริ่มนับอายุความการครอบครองขึ้นมาใหม่  กรณีเป็นโฉนดที่ดิน  ต้องใช้เวลาครอบครองเป็นเวลา 10  ปี นับแต่วันเขาออกเป็นโฉนดที่ดิน   แต่เขาคงไม่ปล่อยให้ใช้สิทธิครอบครองได้นานปานนั้น  คงต้องฟ้องขับไล่แน่นอน  ขอเสนอแนะทางออกสองทาง   ให้เลือกเอาเอง ที่คิดว่าสะดวกที่สุดครับ

ทางที่ 1.  เจรจาตกงกับเขาให้ชัดเจน   โดยยึดสัญญาจะขายจะซื้อเดิมเป็นหลัก   ก็ตกลงกันให้ชัดเจนว่าจะตกลงผ่อนเขาอีกเป็นเงินเท่าไร และผ่อนเป็นระยะเวลาเท่าไร  และระบุให้ชัดเจนให้ไปจดทะเบียนโอนให้ในวันเวลาที่แน่นอนครับ

ทางที่ 2   ให้ทนายความยื่นคัดค้านต่อสำนักงานที่ดิน  ให้ชะลอการออกโฉนดที่ดินไว้ก่อน   เพราะมีการรังวัดที่ดินครอบคลุมที่ดินที่พ่อมีสิทธิครอบครองอยู่    และใช้สิทธิฟ้องทางศาล   เพื่อแสดงสิทธิในที่ดินของพ่อว่าเป็นผู้สิทธิครอบครองที้ดีกว่า  ถ้าพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าพ่อมีสิทธิครอบครองที่ดีกว่า  พ่อ ย่อมได้สิทธิครอบครองในที่ดิน   และสามารถร้องขอออกโฉนดที่ดิน เป็นของพ่อได้    คงต้องให้ทนายควมช่วยเหลือ   ก็คงต้องใช้เงินและเวลาพอสมควร  และใจต้องเกินร้อย  จึงจะสามารถฟันฝ่าไปได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2011-10-26 13:22:23 IP : 180.180.28.148



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.