การที่จะลงโทษผู้กระทำความผิดได้ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน  พยานหลักฐานนั้นมีทั้ง พยานบุคคล  พยานเอกสาร  พยานวัตถุ  ที่เกี่ยวข้องกับคดี  ย่อมใช้เป็นพยานได้ทั้งหมด  ดังนั้นการอัดเทปหรือถ่ายคลิปไว้   ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานได้  แต่ศาลจะรับฟังมากน้อยเพียงใด  เป็นดุลยพินิจขิงศาลอีกทีหนึ่ง......จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทได้   ต้องเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม  ถ้าพูดกันสองต่อสอง  คงไม่ใช่การหมิ่นประมาท เพราะไม่มีบุคคลที่สาม  แต่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษคือจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน  ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท  ตาม ปอ.393.....การหมิ่นประมาท   ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่า   เป็นเรื่องจริงผู้พูดไม่มีความผิด.....แต่ห้ามพิสูจน์เรื่องการใส่ความเรื่องส่วนตัว  เพราะไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชน   ตัวอย่าง   ถ้าไปพูดว่าเขาเป็นคนโกงชาติบ้านเมือง  ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริงไม่มีความผิด  แต่ถ้าไปกล่าวหาหญิงคนหนึ่งว่ามีมากชู้หลายผัว  แม้เป็นเรื่องจริง ก็ห้ามพิสูจน์   เพราะไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชน   ดังนั้นผู้พูดต้องรับโทษฐานหมิ่นประมาทสถานเดียว.....ถ้าถูกแจ้งความฐานหมิ่นประมาท    ถ้าคุณปฏิเสธ   ผู้กล่าวหาต้องมีภาระต้องพิสูจน์ว่า  คุณใส่ความเขาจริง  โดยอ้างพยานหลักฐานมายืนยัน   แต่พยานหลักฐานก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ    โอกาสรอดจึงมีมาก     แต่...คดีหมิ่นประมาท    เป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้  ผู้เสียหายต้องแจ้งความภายในสามเดือน   ส่วนมากตำรวจมักให้ใช้การไกล่เกลี่ยเจรจายอมความกัน    แม้ฟ้องศาลก็ให้มีการไกล่เกลี่ยกันเช่นกัน....คดีหมิ่นประมาท   ถ้าจะว่าไปแล้วเป็นคดีรกศาล  ส่วนใหญ่มักจบลงด้วยการไกล่เกลี่ยเจรจากัน     คดีแบบนี้ส่วนใหญ่กลุ่มไฮโซ   เขาเอาไว้ฟ้องร้องแก้เกี้ยวกัน  และเรียกค่าเสียหายกันเป็นร้อยล้านพันล้านบาท  เพื่อเป็นการประกาศศักดาว่า เขายิ่งใหญ่  และเกียรติยศสูงส่ง ใครแตะไม่ได้  แต่เมื่อผ่านไปปีสองปี เมื่อสังคมลืมเลือน   ต่างฝ่ายต่างแอบไปถอนฟ้องกันเงียบๆ  ก็มีตัวอย่างมากมาย.....ระดับชาวบ้านเช่นเราๆ  คดีหมิ่นประมาท  ชาวบ้านเรียกกันว่า การขายปาก  ส่วนใหญ่ก็เสียค่าปรับร้อยสองร้อยบาท คดีก็จบไปได้ง่ายๆครับ...คุณถามว่าเรื่อยๆ ไม่แยกเป็นข้อๆ ผมก็ตอบไปเรื่อยๆ หวังว่าคุณคงคลายกังวลลงบ้างครับ

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ให้แสงสว่างเบิกทางว่าจะไปทิศทางใด

ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองท่านตลอดกาลนานเทอญ