เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.54 หลานเป็นเด็กหญิง อายุ 13 ปียังไม่ถึง 14 ได้ ออกจากบ้านไปเวลาประมาณ 2 ทุ่ม บอกพ่อว่าจะไปงานวันเกิดเพื่อน แต่ครั้นถึงเวลาพอสมควรคือดึกมากแล้ว น่าจะกลับบ้านแล้ว แต่ก็ไม่กลับบ้าน พ่อได้พยายามโทรติดต่อแต่ก็โทรไม่ติด ถามเพื่อนก็บอกไม่รู้ จนพ่อต้องออกตามหาทั้งคืนแต่ก็ไม่เจอ เช้ามาพ่อเลยบอกกับญาติและผม ช่วยออกตามหา โดยการสอบถามจากเพื่อน จนได้ความว่าเด็กหญิง(หลาน) คบกับใครรู้จักใครบ้าง ทราบว่าได้คบกับนายวาย อายุประมาณ 17 ปี ทำ งานอยู่คาร์แคร์ใกล้บ้าน จึงไปถามที่คาร์แคร์เพื่อหาข้อมูล แต่ทีี่คาร์แคร์บอกว่านายวาย ไปทำงานอยู่อีกที่หนึ่งที่เป็นคาร์แคร์เหมือนกันอยู่ไม่ไกล จึงเดินทางไปถามเจ้าของคาร์แคร์ แรกๆก็ไม่ยอมบอก แต่พอเราบอกว่าจะไแแจ้งความ จึงได้ยอมบอกเบอร์โทรนายพีและที่อยู่ที่เป็นเพื่อนของนายวาย และทางเราก็เลยลองโทรไปถามแรกๆ ก็ โทรไม่ติด แต่พอติดแล้วจึงถามว่าอยู่ที่ไหน เห็นเด็กไหม และเราบอกให้นายวายรออยู่ที่บ้านนายวาย เพราะเราจะไปแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบเรื่องด้วย เมื่อเราเดินทางไปถึง แรกๆนายพีและนายวายบอก ไม่รู้ไม่เห็น แต่พอทางเราบอกว่าทราบเรื่องว่านายวายเคยมีอะไรกับเด็กมาแล้วครั้งนึงนายวาย ถึงกับนิ่งไม่กล้าตอบหรือแย้ง และทางเราจะไปแจ้งความถ้าหากไม่ช่วยตามหาหรือเอาเด็กมาคืน ต่อนายพีและนายวายบอกว่าจะติดตามหาให้ โดยขับรถจักรยานยนต์ออกไป ทางเราได้ขี่รถตามแต่คลาดกัน จึงโทรหานายวายอีกทีถามว่าอยู่ที่ไหน นายวายบอกว่าอยู่ที่บ้านเด็กที่ชื่อกิ๊ก ที่เป็นเพื่อนกับหลานผม

       ทางเราเลยรออยู่สักพักนายวายก็ยังคงอยู่ที่บ้านกิ๊ก เราจึงไปที่บ้านเด็กที่ชื่อกิ๊ก ได้ไปคุยกับนายวายและกิ๊ก และพ่อบุญธรรมของน้องกิ๊กและยื่นคำขาดว่าก่อนเที่ยงถ้าไม่ได้ตัวน้องกลับมา จะแจ้งความดำเนินคดีกับนายวายและเพื่อน ต่อมาทราบว่าหลานน่าจะอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในตัวเมือง ระหว่างนี้คนที่ชื่อกิ๊กได้เอามอไซด์นายวายขี่ออกไปกับเพื่อนผู้หญิงบอกว่า จะออกไปตามหาน้อง

        สักพักพ่อบุญธรรมของน้องกิ๊กได้โทรไปถามเพื่อนที่เป็นตำรวจว่าหอชื่อนี้อยู่ ที่ไหนและบอกให้ไปแจ้งความเลยถึงแม้จะตามตัวเด็กเจอ จึงทราบแต่ทางเราก็ยังไม่ได้เดินทางไปยังคงรอฟังข่าวจากคนที่ชื่อกิ๊ก สักพักทางนายพีและนายวายบอกว่าเจอตัวน้องแล้ว กำลังพามา สักพักเวลาประมาณ 11.10 น.ก็มาจริง ในสภาพชุดเนตรนารีที่ใส่ตั้งแต่เมื่อวาน จึงพาตัวน้องกลับมาที่บ้านและสอบถามเอาความจริง

       ทราบว่าคืนเกิดเหตุออกไปกับคนที่ชื่อกิ๊กและเพื่อนจำนวนหนึ่งโดยกิ๊กได้ บอกว่าจะพาไปเปิดห้องโรงแรมพักฉลองกันที่โรงแรมดังกล่าว โดยห้องติดกันอีกห้องหนึ่งเป็นห้องของนายวายและพี ต่อมาสักพักนายวายได้เข้ามาที่ห้อง กิ๊กและเพื่อนๆ พากันออกไปข้างน้องห้องปล่อยให้หลานผมอยู่กับนายวายตามลำพังสองคน โดยล็อคห้องไว้ด้วย  และนายวายได้ใช้กำัลังบังคับให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ด้วย แรกเด็กบอกไม่ยอมแต่เพราะเป็นเด็กผู้หญิงและตัวเล็กกว่านายวาย จึงจำเป็นต้องยอม แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่โดยนายวายกระทำแบบนี้  

     ต่อมาทา่งเราเลยพากันไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ย่อย ทางตารวจจึงรับแจ้งความไว้และให้ไปลองคุยกับฝ่ายชายดูว่าเขาจะชดใช้ค่าเสีย หายยังไง เพราะทางเรายืนยันว่า จะไม่ยอมให้คบหรือแต่งงานกับผู้ชายคนนี้เด็ดขาด   และทางเราได้เดินทางไปบ้านฝ่ายชายเรียกพ่อ-แม่ ญาติมาคุยกัน แต่ทางญาติกลับบอกเสียงแข็งว่าไม่มีเงินให้ ไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็ตาม จะไม่รับผิดชอบสิ่งที่ลูกทำไป เราจะไปแจ้งความก็ตามใจเรา ปล่อยให้โดนจับเลยจะได้สำนึก  ทางเราเลยกลับ

   และได้ไปที่สถานีตำรวจเพื่อไปแจ้งความอีกครั้งเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายวาย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่า จะเรียกนายวายมาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหา และจะเรียกน้องมาสอบอีกครั้งตามขั้นตอนกฏหมายเยาวชน แต่ถ้านายวายไม่มาถามหมายเรียกก็คงดำเนินการตามขั้นตอน

แต่ เบื้องต้นทางตำรวจให้เอาเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยให้ใบส่งตรวจและเอกสารมา ก็ไปตรวจและหมอและมูลนิธิเด็กและสตรี ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นและให้ยาต้านไวรัสเอดส์เพราะกลัวติดเชื้อ ฉีดยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน และให้ยามาทาน และเดินทางกลับ

ผมเลยอยากถามว่า 

1.เราจะเอาผิดกับนายวายได้ยังไงบ้าง ถึงแม้ถ้าหากเขาบอกว่าน้องเขาสมยอมหรือไม่ขัดขืน  จำคุกหรือส่งเข้าสถานพินิจ (ฝ่ายชาย 17 ปี)

2.เราน่าจะเอาผิดเด็กหญิงที่ชื่อกิ๊ก ที่เป็นเพื่อนกับน้อง ได้ไหมในฐานะสมรู้ร่วมคิดหรือเป็นธุระจัดหา

3.ผมควรบอกหลานผมว่าควรให้การยังไงกับตำรวจ เราถึงจะได้เปรียบหรืเอาผิดเขาได้ครับ

4.ถ้าเกิดว่าเด็กท้องขึ้นมา เราสามารถเอาเด็กออกตั้งแต่ต้นได้ไหม

5.ถ้าฝ่ายชายเปลี่ยนใจยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ สามารถยอมความได้ไหม 

แต่ทางเรายืนยันว่าจะไม่ให้คบหรือติดต่อกันอีกเด็ดขาด และไม่ให้แต่งงานด้วยเพราะอายุยังน้อย